อพาร์ตเมนต์แห่งนั้นที่'ซาน เตลโม'

    คาดการณ์ได้ว่า Nueve de Julio หรือวันที่ 9 กรกฎาคม “วันชาติอาร์เจนตินา” ที่พักทำเลดีหลายแห่งคงจะเต็มกันหมด ยิ่งปีนี้ตรงกับวันเสาร์ ผู้คนเดินทางจากต่างเมืองต่างรัฐเข้ามาเฉลิมฉลองในกรุงบัวโนสไอเรส โรงแรมบนถนน Avenida de Mayo ที่ผมกำลังพักก็เต็ม เมื่อคืนนี้ (8 กรกฎาคม) ผมจึงต้องจองที่พักแห่งใหม่ให้ได้ก่อนนอน ประสบความสำเร็จหลังใช้ความพยายามอยู่เป็นชั่วโมง 

    ตอนสายๆ หลังจากมื้อเช้าในร้านกาแฟใกล้โรงแรม ผมได้รับข้อความผ่านทางแอปของบุ๊กกิงดอตคอม เจ้าของที่พักที่จองไว้เมื่อคืนส่งเข้ามาขอเบอร์โทรศัพท์เพื่อจะนัดแนะการเข้าพักในวันนี้ ที่พักแห่งนี้เป็นแบบคอนโดฯ

หรืออพาร์ตเมนต์ ไม่มีชื่อทางการค้า เขียนไว้ในเว็บไซต์แต่เพียง Habitacion privada 1 persona แปลว่า ห้องพักส่วนตัวสำหรับ 1 ท่าน เจ้าของที่พักโทร.มาหาผมแล้วอุทานขึ้น “You’re a man!”

    สตรีปลายสายพูดภาษาอังกฤษ อธิบายว่าอพาร์ตเมนต์ของเธอเปิดรับเฉพาะลูกค้าผู้หญิงเท่านั้น ผมถามว่า “จะให้ผมทำอย่างไรดี ยกเลิกการจองทันไหม” เธอเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วตอบกลับมาว่า “คืนเดียวคงไม่เป็นไร”

    ความจริงมีข้อความหลัง Habitacion privada 1 persona วงเล็บไว้ว่า Solo mujeres แปลว่า “เฉพาะผู้หญิง” แต่ตอนที่ผมจองนั้นกำลังง่วงสุดขีด สมองไม่ยอมแปลออกมา ที่จริงผมเข้าใจความหมายทั้งคำว่า Solo และ mujer เป็นไปได้ว่าแค่การเติม es ก็ทำให้งง 

ประติมากรรม “ดอน กิโฆเต” บนหลังม้า “โรซินันเต” จากยอดวรรณกรรมของ “มิเกล เด เซบันเตส” บนถนน Av. 9 de Julio

    ที่พักสำหรับสุภาพสตรีที่ผมจะไปค้างแรมคืนนี้อยู่ในเขต San Telmo (ซาน เตลโม) ย่านเก่าแก่ที่สุดของกรุงบัวโนสไอเรส วัดในแผนที่กูเกิลอยู่ห่างออกไป 2.6 กิโลเมตร รถไฟใต้ดิน หรือ Subte (อ่าน “ซุบ-เต”) จะช่วยย่นระยะทางได้ประมาณ 1.5 กิโลเมตร ผมเช็กเอาต์จากโรงแรมแล้วเดินไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน Avenida de Mayo กะว่าจะนั่งสายสีน้ำเงินไปลงที่สถานี San Juan แต่ไม่มีการจำหน่ายตั๋วรถไฟที่สถานี มีเครื่องเติมเงินเข้าบัตรโดยสารและพนักงานซึ่งทำหน้าที่เดียวกับเครื่องเติมเงินเข้าบัตรโดยสาร ผมได้รับคำตอบเพียง “No” เมื่อจะขอซื้อตั๋ว

    เช็กระยะทางและเวลานัดกับเจ้าของที่พักแล้วก็ตัดสินใจเดินไปบนถนน Avenida 9 de Julio การเดินไปบนถนนเส้นนี้มีเรื่องราวให้โม้อยู่เหมือนกัน เพราะนี่คือถนนที่มีความกว้างที่สุดในโลก Guinness World Records ระบุว่า Avenida 9 de Julio เป็นถนนแบบอเวนิวที่กว้างถึง 110 เมตร ประกอบด้วย 16 ช่องจราจร เกาะกลางถนน และจัตุรัสเล็กๆ หลายแห่ง เปิดใช้เฟสแรกเมื่อ ค.ศ.1937 ที่เหลือส่วนใหญ่ก่อสร้างแล้วเสร็จในคริสต์ทศวรรษที่ 1960 มีเสาหิน Obelisco อยู่กลางจัตุรัส Plaza de la Republica เป็นเหมือนจุดศูนย์กลางของถนน

เอวา เปรอน บนอาคารของกระทรวงพัฒนาสังคม กลางถนน Av. 9 de Julio

    สิ่งที่มีความโดดเด่นรองลงมาจากเสา Obelisco ก็คือภาพ “เอวา เปรอน” บนอาคารสีขาวหลังหนึ่ง เป็นภาพที่ได้จากการใช้เหล็กดัดให้เป็น “เอวิตา” กำลังกล่าวสุนทรพจน์ผ่านไมโครโฟน บางคนอาจคิดว่าเธอกำลังร้องเพลง ความจริงเอวิตาไม่ใช่นักร้อง คงเป็นภาพจำมาจากภาพยนตร์เพลงเรื่อง Evita ในปี ค.ศ.1996 ที่ “มาดอนนา” แสดงเป็น “เอวิตา” นอกจากนี้เธอยังไม่ได้เป็นรองประธานาธิบดีและประธานาธิบดี หากแต่สตรีผู้นั้นคือภริยาคนที่ 3 ของ “นายพลเปรอน” ชื่อ “อิซาเบล เปรอน”

ฆวน และเอวา เปรอน กระแสนิยมไม่เคยเสื่อมคลาย

    เมื่อ ค.ศ.1944 “มาเรีย เอวา ดูอาร์เต” นักแสดงสาววัย 24 ปี พบรักกับ “ฆวน โดมิงโก เปรอน” พ่อหม้ายวัย 48 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนรากหญ้าเวลานั้น ทั้งคู่วิวาห์กันในปีต่อมา ปีเดียวกับที่เปรอนถูกคุมขัง เพราะผู้มีอำนาจทราบดีว่าความนิยมที่ประชาชนมีต่อเปรอนคือภัยต่อพวกเขา ทว่าถูกจับได้ 6 วัน ผู้คนประมาณ 3 แสนออกมาประท้วง เรียกร้องให้ปล่อยตัวเปรอน และเขาก็เป็นอิสระ การเลือกตั้งใน ค.ศ.1946 เปรอนชนะแบบแลนด์สไลด์ได้เป็นประธานาธิบดี

    เอวิตาคือสตรีหมายเลข 1 ที่เรียกกระแสนิยม และมีอิทธิพลต่อกลุ่มสหภาพแรงงานและกลุ่มผู้มีรายได้น้อยทั้งหลาย เธอก่อตั้งมูลนิธิการกุศลเอวาเปรอน ก่อตั้งพรรคสตรีเปรอนิสต์ เรียกร้องสิทธิการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้กับสตรี เธอเรียนรู้และซึมซับแนวคิดทางการเมืองของเปรอนอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ได้เดินทางเยือนทวีปยุโรปเพื่อพบปะผู้นำหลายประเทศ ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยสง่าและภาพลักษณ์ชอบช่วยเหลือสังคม ทำให้เอวิตาโด่งดังไปทั่วโลก เป็นสตรีคนแรกที่ได้ขึ้นปกนิตยสาร Time โดยไม่มีผู้ชายประกบคู่ 

    ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยถัดมา เธอประกาศลงเคียงข้างสามีในฐานะรองประธานาธิบดี โดยเป็นการเลือกตั้งที่ผู้หญิงได้สิทธิออกเสียงเป็นครั้งแรก ทว่าเอวิตาได้ตรวจพบมะเร็งปากมดลูกในระยะลุกลามและส่งผลต่อสุขภาพอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เธอต้องถอนตัว เปรอนชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายอีกครั้ง ได้เป็นผู้นำอาร์เจนตินาอีกสมัย ขณะที่เอวิตาอาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ ไม่สามารทรงตัวได้เองยามปรากฏตัวต่อสาธารณะ เอวิตาเสียชีวิตในวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ.1952 ในวัยเพียง 33 ปี ไม่นานหลังจากรัฐสภาให้การรับรองเธอในฐานะ “ผู้นำจิตวิญญาณของชาติ” 

    อาคารหลังที่มีภาพของ “เอวา เปรอน” คืออาคารที่แบ่งพื้นที่กันใช้งานระหว่างกระทรวงพัฒนาสังคมและกระทรวงสาธารณสุข อาคารหลังนี้ในยุคก่อสร้างถนน Avenida 9 de Julio เป็นสถานที่ตั้งของสถานทูตฝรั่งเศสซึ่งไม่ยินยอมให้มีการเวนคืนและรื้อถอน ทำให้ถนนต้องก่อสร้างอ้อมตึก ทุกวันนี้จึงเป็นอาคารหลังเดียวที่ตั้งขวางถนน ทั้งนี้ภาพเหล็กดัดครึ่งตัวรูปเอวิตามีทั้งฝั่งทิศเหนือและทิศใต้ของตัวอาคาร ฝั่งทิศใต้เป็นภาพหน้าตรง สวมสร้อยเส้นใหญ่ ติดดอกไม้ที่หน้าอกเสื้อฝั่งซ้าย

รถเมล์บัวโนสไอเรสจอดหน้าสถานีรถไฟ Plaza Constitucion

    ผมเดินอย่างเพลิดเพลิน ไม่ค่อยมีคนเดินสวนมา เป้บนหลังไม่หนัก แต่ออกจะพองๆ บวมๆ ไปด้วยเสื้อผ้าหนาๆ ช่วงนี้อากาศกำลังหนาว เลี้ยวซ้ายเข้าถนน Estados Unidos ซึ่งหมายถึง United States ชื่อของประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนน Peru เดินอีกสักพักก็ถึงหน้าอพาร์ตเมนต์ตรงเวลานัด ซึ่งก็คือเวลาที่เจ้าของบ้านพร้อมให้บริการ

    เจ้าของที่พักชื่อ “เซลีน” เปิดประตูออกมารับ เธอใช้หมัดยื่นมาให้ชนแทนการจับมือ เธอไม่สวมหน้ากากอนามัย ผมเองสวมเฉพาะตอนเข้าลิฟต์ ห้องพักอยู่บนชั้น 9 เปิดประตูเข้าไปเจอหมาสีดำ 1 ตัว เธอแนะนำ “นี่ลูนา” หรือดวงจันทร์ ผมปากเสียแซวลูนาโดยไม่ทันได้คิดว่า “คนสวย เธอต้องเป็นอีกฝั่งของดวงจันทร์สินะ” เซลีนหัวเราะ ผมค่อยโล่งอก   

    ห้องชุดของเธอมี 2 ห้องนอน เธอนอนห้องหนึ่ง อีกห้องได้เข้าร่วมกับบุุ๊กกิงดอตคอมประกาศหาผู้เข้าพักรายวัน ผมไม่ทราบว่าเธอให้เช่าแบบนี้มานานแล้วหรือเพิ่งมาให้เช่าในช่วงหลังการระบาดหนักของโควิด-19 เธออาจจะประสบปัญหาเรื่องอาชีพ ผมไม่ได้ถามว่าเธอทำงานอะไร แต่มีรูปถ่ายติดตามผนังหลายรูปในชุดว่ายน้ำ

    เซลีนรูปร่างดี สูงไม่ต่ำกว่า 175 เซนติเมตร ช่วงแผ่นหลังยาวไปนิด เป็นไปได้ว่าเป็นนักว่ายน้ำ หน้าตาอยู่ในขั้นเรียกว่าสวยได้ อายุประมาณ 35 หรือมากสุดได้ถึง 40 ปี เธอนั่งดื่มเบียร์ตั้งแต่เที่ยงหรืออาจจะดื่มมาตั้งแต่เช้า เป็นเบียร์กระป๋องเขียวยี่ห้อ Wolf อีกหนึ่งเบียร์คราฟต์รสชาติดีของอาร์เจนตินา  

    ก่อนนี้ผมยังคิดว่าเธอมีอพาร์ตเมนต์ว่างให้เช่า ไม่ได้อาศัยอยู่ในที่เดียวกัน ผมมาเข้าใจแจ่มแจ้งตอนนี้เองว่าเราจะอยู่ร่วมอพาร์ตเมนต์เดียวกัน เธอแนะนำการใช้กุญแจประตูห้องพัก กุญแจเข้าอาคาร การใช้ห้องครัว อธิบายการใช้ห้องน้ำ การจุดไฟทำความร้อนให้เครื่องทำน้ำอุ่น ซึ่งต้องเปิดแก๊สแล้วใช้ไฟแช็กหรือไม้ขีดจุดจากในครัว มีการหมุนมิเตอร์เปิด-ปิด ดูงงๆ อยู่เหมือนกัน เท่ากับผู้อาศัยจะต้องใช้ห้องครัว ห้องนั่งเล่น และห้องน้ำร่วมกับเจ้าของบ้าน

    ผมจ่ายเงินค่าที่พักให้เซลีน ขอบคุณที่เธอยอมแหกกฎให้ผู้ชายมาพักค้าง 1 คืน เธอเฉลยว่าฟังน้ำเสียงของผมทางโทรศัพท์แล้วรู้สึกว่าไว้ใจได้ และเห็นผมพูดภาษาอังกฤษก็อยากจะพูดด้วย เพราะไม่ได้พูดมานานแล้ว กลัวจะลืม แต่ผมมีนัดเวลานี้พอดี ช่วงค่ำจึงจะได้กลับมาสนทนากัน 

    จุดนัดหมายของผมกับคู่รักสองหนุ่มไทย คุณแม็กและคุณแจ็ก คือที่ Plaza Dorrego จัตุรัสใจกลางเขตซาน เตลโม ถนนในย่านนี้ล้วนปูด้วยหิน Cobblestone มีตลาดขายอาหารและเครื่องดื่มในอาคารเก่าแก่มากกว่า 120 ปี ด้านนอกก็อุดมไปด้วยร้านขายของโบราณ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ วันอาทิตย์จะยิ่งคึกคัก ผู้คนหลั่งไหลมาจากทั่วสารทิศ ซึ่งผมจะได้กล่าวถึงในตอนหน้าเนื่องจากมีเวลามาเดินชมคนเดียวทั่วบริเวณอีกครั้งหนึ่ง

    คู่รักชวนผมไปบ้านเพื่อกินมื้อเที่ยงยามบ่าย คุณแม็กทำก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้ออาร์เจนตินาได้อร่อยมาก วัตถุดิบหาได้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในตลาดจีน ลูกชิ้นนั้นใช้เครื่องปั่นเนื้อวัวแล้วบีบออกมาเป็นลูกๆ ด้วยมือ เนื้ออาร์เจนตินานั้นมีชื่อในระดับโลกอยู่แล้ว พอทำลูกชิ้นยิ่งได้เปรียบเนื้อวัวทั่วไป นอกจากนี้ในชามยังใส่เนื้อตุ๋นลงไปด้วย ผมอิ่มแปล้เพราะชามใหญ่มาก แค่นั้นไม่พอ คู่รักปรุงใส่ถุงให้ผมอีกชุดสำหรับเป็นมื้อค่ำ

    ออกจากบ้านพัก คู่รักพาผมนั่งรถเมล์ โดยคุณแม็กใช้การ์ด SUBE ที่สามารถใช้ร่วมกันได้ระหว่างรถไฟฟ้าและรถเมล์ ผมไม่มีการ์ดนี้ แต่เจ้าของการ์ดสามารถบอกคนขับได้ว่าต้องการจ่ายให้ผู้โดยสารที่มาด้วยกัน ข้อมูลในอินเทอร์เน็ตระบุว่าสามารถหาซื้อการ์ดได้จากสถานีรถไฟฟ้า ร้านขายบุหรี่และขนมต่างๆ ทั่วเมือง แต่คู่รักชาวไทยถามหาให้ผมทั่วไปหมดแล้ว ยามนี้ไม่มีร้านไหนขาย

    ลงจากรถเมล์ต่อด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินที่สถานี Constitucion ถามหาการ์ด SUBE ก็ไม่มีขาย ผมจึงต้องพึ่งคุณแม็กอีก เขาแตะบัตรที่ทางเข้าประตูหมุน แตะครั้งแรกให้ผมเข้าไป แตะครั้งที่ 2 ให้คุณแจ็กเข้าไป และแตะครั้งที่ 3 สำหรับตัวเอง พอถึงสถานีใหญ่ Retiro ต่อด้วยรถไฟชานเมือง Linea Mitre สาย Retiro-Tigre ไป Barrio Chino (ไชนาทาวน์) ก็ถามหาการ์ด SUBE อีก ไม่มีเช่นกัน ใช้วิธีแตะการ์ด 3 ครั้งสำหรับผู้โดยสาร 3 คนเหมือนเดิม ตอนกลับจากไชนาทาวน์ก็ใช้วิธีเดียวกัน รวมถึงตอนนั่งรถไฟใต้ดินจาก Retiro ไปยังสถานี San Juan กลับที่พัก

Subte หรือรถไฟฟ้าใต้ดินของกรุงบัวโนสไอเรส

    ต้องยอมรับว่ากรุงเทพฯ ของเราเดินทางสะดวกกว่ามาก ยิ่งในตอนนี้สามารถใช้บัตร VISA และ MASTERCARD โดยสารรถไฟฟ้า MRT แทนการใช้บัตรโดยสารได้

    คู่รักยืนยันเดินฝ่าอากาศหนาวไปส่งผมถึงหน้าตึกที่พัก เพราะกลัวอันตรายในตอนกลางคืน ถึงห้องพักของเซลีนราว 4 ทุ่ม ห้องเปิดไฟเพียงสลัวๆ เซลีนทำท่าจุ๊ปาก บอกใบ้ว่าลูนาหลับอยู่ เธอแต่งตัวเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอก ยังไม่ได้กินมื้อค่ำ ผมจึงมอบก๋วยเตี๋ยวให้ แล้วเปิดไวน์ที่เพิ่งซื้อมารินใส่แก้วยื่นให้เธอ สำหรับตัวเองอีกแก้ว ดูเหมือนเธอได้ดื่มเบียร์อย่างต่อเนื่องหลังจากที่ผมออกไปแล้วเมื่อบ่ายนี้ 

สถานีกลาง Retiro ของรถไฟชานเมือง Linea Mitre

    ผมอาบน้ำโดยไม่ต้องจุดแก๊สต้มน้ำเพราะเซลีนเพิ่งอาบเสร็จและยังไม่ได้ดับไฟ อาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วผมออกไปดื่มไวน์ต่อ เธอกล่าวชมว่าก๋วยเตี๋ยวรสชาติสุดวิเศษ ไม่เคยกินที่ไหนอร่อยเท่านี้มาก่อนในชีวิต ผมเชื่อเพราะว่าเธอไม่เคยไปเมืองไทย และในกรุงบัวโนสไอเรสไม่มีร้านอาหารไทยที่มีเจ้าของและกุ๊กเป็นคนไทยแม้แต่ร้านเดียว   

    เซลีนมีนัดที่บาร์แห่งหนึ่ง แต่เธอลังเลเพราะอากาศหนาว และที่ไม่รีบร้อนตัดสินใจก็เพราะผับบาร์ในบัวโนสไอเรสปิดเช้า โดยเฉพาะวันสุดสัปดาห์ ยิ่งวันนี้เป็นวันชาติอีกต่างหาก เธอเอ่ยปากชวนผมออกไปด้วยกัน แต่ผมมีอาการอ่อนเพลีย เพราะเดินท่ามกลางอากาศหนาวทั้งวัน ไม่เช่นนั้นไม่ปฏิเสธแน่นอน

    สุดท้ายเธอออกจากอพาร์ตเมนต์ประมาณเที่ยงคืน ตอนที่ไวน์ใกล้จะหมดขวด ผมเข้านอนเกือบจะทันทีหลังจากนั้น โดยเก็บไวน์ที่เหลือไว้ให้

    เผื่อพรุ่งนี้เช้าเธอต้องใช้ประโยชน์.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข้าอยากได้อะไร...ข้าต้องได้

เราคนไทยมักจะอ้างว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐ มีการบริหารกิจการต่างๆ ภายในประเทศตามหลักการของนิติธรรม แต่สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเวลานี้ หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐจริงหรือ

เมื่อ 'ธรรมชาติ' กำลังแก้แค้น-เอาคืน!!!

เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาของบ้านเรา...ท่านเคยคาดๆ ไว้ว่า ฤดูหนาว ปีนี้น่าจะมาถึงประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม

จ่ายเงินซื้อเก้าอี้!

ไม่รู้ว่าหมายถึง "กรมปทุมวัน" ยุคใด สมัยใคร จ่ายเงินซื้อเก้าอี้ ซื้อตำแหน่ง ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ตามที่ "ทักษิณ ชินวัตร" สทร.แห่งพรรคเพื่อไทย ประกาศเสียงดังฟังชัดในระหว่างขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก

ไม่สนใจใครจะต่อว่า เสียงนกเสียงกา...ข้าไม่สนใจ

ถ้าหากเราจะบอกว่านายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีเสียงตำหนิ มีการนำเอาการพูดและการกระทำที่ไม่ถูกไม่ต้อง ไม่เหมาะไม่ควร

จาก 'น้ำตา' ถึง 'รอยยิ้ม' พระราชินี

ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา...ได้อ่านข่าวพระราชาและพระราชินีสเปน เสด็จฯ ทรงเยี่ยมเยียนผู้คนที่ประสบภัยน้ำท่วมในเมืองปอร์ตา แคว้นบาเลนเซีย