เนื้อหายุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฉบับล่าสุด “National Security Strategy October 2022” ที่เผยแพร่ต่อสาธารณะชี้ว่าจีนเป็นคู่แข่งสำคัญ สหรัฐเป็นผู้นำต่อต้านรัสเซียที่รุกรานยูเครน มีสาระสำคัญดังนี้
ความสัมพันธ์กับจีน:
จีนเป็นคู่แข่งประเทศเดียวที่ต้องการเปลี่ยนระเบียบโลกและมีพลังมากขึ้นที่จะทำเช่นนั้น มีพลังทั้งด้านเศรษฐกิจ การทูต การทหารและเทคโนโลยี หวังมีอิทธิพลในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกและเป็นผู้นำโลก (the world’s leading power) มีอิทธิพลในสถาบันระหว่างประเทศที่เกื้อหนุนระบอบอำนาจนิยมของตน มักใช้พลังอำนาจทางเศรษฐกิจบีบบังคับประเทศอื่นๆ จีนฉวยประโยชน์การเปิดเศรษฐกิจของนานาชาติในขณะที่จำกัดต่างชาติที่ต้องการเข้าถึงตลาดของตน
![](https://storage-wp.thaipost.net/2022/10/สถานการณ์โลก.jpg)
เครดิตภาพ: https://www.whitehouse.gov/wp-content/uploads/2022/10/Biden-Harris-Administrations-National-Security-Strategy-10.2022.pdf
พยายามสร้างโลกที่พึ่งพาจีนในขณะที่จีนลดการพึ่งพาโลก พัฒนากองทัพให้ทันสมัยอย่างรวดเร็ว กองทัพมีขีดความสามารถเข้าถึงภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกและขยายสู่จุดต่างๆ ทั่วโลก บั่นทอนพันธมิตรของสหรัฐในทุกภูมิภาค
จีนเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจโลกและมีความสำคัญต่อประเด็นท้าทายร่วมต่างๆ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สุขภาพโลก มีโอกาสเป็นไปได้ว่าสหรัฐกับจีนอยู่ร่วมกันโดยสันติ ร่วมแบ่งปันและสนับสนุนให้มนุษยชาติก้าวหน้าต่อไป
3 ยุทธศาสตร์ต่อจีน ได้แก่ 1) เสริมสร้างรากฐานความเข้มแข็งของสหรัฐ ความสามารถในการแข่งขัน การสร้างนวัตกรรม ความยืดหยุ่นปรับตัวและเศรษฐกิจ 2) จัดแถวเครือข่ายพันธมิตรและหุ้นส่วน มีจุดประสงค์ร่วมในด้านต่างๆ 3) ปกป้องผลประโยชน์และวิสัยทัศน์สหรัฐด้วยการส่งเสริมและจัดให้อยู่ในแถว (invest and align) อยู่เหนือจีนทั้งด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ การเมือง การทหาร การข่าวกรอง การมีอิทธิพลต่อรัฐบาลประเทศต่างๆ
ตอนนี้เขตที่แข่งขันดุเดือดมากที่สุดคืออินโด-แปซิฟิก และกำลังขยายเป็นทั้งโลก แข่งขันวางระเบียบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในด้านต่างๆ ใน 10 ปีนี้เป็นช่วงสำคัญที่สุดห้วงเวลาชี้อนาคต
พันธมิตรและหุ้นส่วนสหรัฐในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกเป็นแนวหน้าที่ถูกจีนบีบบังคับ สหรัฐสนับสนุนการป้องกันตนเองของประเทศเหล่านี้ ตั้งใจนำเงินไปลงทุนพัฒนาตามความต้องการของพวกเขา มีหลายหมวดที่ร่วมมือกันได้ เช่น ต่อต้านโครงสร้างระบบดิจิทัลที่ไม่น่าไว้ใจของจีน ต่อต้านการละเมิดสิทธิมนุษยชน ให้ฮ่องกงปกครองตนเองและมีเสรีภาพ เสริมสร้างกองทัพของพันธมิตรและหุ้นส่วนเพื่อต้านจีน
ในขณะที่แข่งกับจีนอย่างเข้มข้นจะระมัดระวังหลีกเลี่ยงเผชิญหน้าทางทหาร ขยายการสื่อสารในภาวะวิกฤต สร้างความโปร่งใสต่อกัน ร่วมมือกับจีนในส่วนที่เป็นผลประโยชน์ร่วม เช่น ประเด็นภูมิอากาศ โรคระบาด การไม่แพร่กระจายอาวุธร้ายแรง ต่อต้านยาเสพติด วิกฤตอาหารโลก
รัฐบาลจีนกับสหรัฐแตกต่างกันด้วยระบอบที่แตกต่าง แต่จะไม่แบ่งแยกประชาชน ประชาชนทั้ง 2 ฝ่ายยังเป็นมิตรกัน
ความสัมพันธ์กับรัสเซีย:
ตลอดทศวรรษที่ผ่านมารัฐบาลรัสเซียใช้นโยบายจักรวรรดินิยม (an imperialist foreign policy) หวังล้มระเบียบโลกเดิม รุกรานยูเครนเพราะคิดล้มและควบคุมรัฐบาลยูเครน เคยทำเช่นนี้หลายครั้ง เช่น รุกรานยูเครนเมื่อปี 2014 [ยึดไครเมีย] ส่งกองทัพแทรกแซงซีเรีย บั่นทอนความสงบสุขของประเทศเพื่อนบ้านโดยใช้การข่าว ขีดความสามารถด้านไซเบอร์ พยายามบ่อนทำลายประชาธิปไตยในยุโรป เอเชียกลางและทั่วโลก แทรกแซงการเมืองภายในสหรัฐ หว่านความแตกแยกในหมู่คนอเมริกัน
รัฐบาลปูตินละเมิดสิทธิมนุษยชนคนของตัวเอง ปราบปรามฝ่ายต่อต้าน ปิดกั้นสื่อเสรี ไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน
รัฐบาลสหรัฐพยายามลดความเป็นปรปักษ์กับรัสเซีย และพยายามหาจุดร่วมในส่วนที่ทำได้ ในยามนี้รัสเซียจึงเป็นภัยคุกคามและยืนกรานคุกคามสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ
สหรัฐเป็นผู้นำต่อต้านรัสเซียที่รุกรานยูเครน ร่วมมือกับพันธมิตรนานาชาติช่วยยูเครนป้องกันตนเอง ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ด้านเศรษฐกิจ ให้รัฐบาลยูเครนยืนเคียงคู่ประชาชนของเขา ให้รัสเซียได้รับโทษจากพฤติกรรมโหดร้ายของตน
สหรัฐกับพันธมิตรทั้งนาโต สหภาพยุโรป จะกดดันภาคเศรษฐกิจยุทธศาสตร์รัสเซีย ด้านการป้องกันประเทศและอวกาศ ยินดีต้อนรับฟินแลนด์กับสวีเดนที่เข้าร่วมนาโต ตอนนี้ soft power กับอิทธิพลการทูตรัสเซียกำลังหดหาย การใช้พลังงานเป็นอาวุธเป็นโทษแก่รัสเซียเอง
จุดยืนของสหรัฐคือ 1) จะสนับสนุนยูเครนสู้เพื่อเสรีภาพต่อไป ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสนับสนุนให้รวมตัวกับสหภาพยุโรป 2) จะพิทักษ์แผ่นดินทุกตารางนิ้วของนาโต ทำให้ความเป็นพันธมิตรเข้มแข็งขึ้นเพื่อต้านรัสเซีย 3) สหรัฐจะตอบโต้หากรัสเซียคุกคามผลประโยชน์หลักของเรา 4) จะไม่ยอมให้รัสเซียหรือประเทศใดใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อข่มขู่ผู้อื่น ยึดสนธิสัญญา New START 5) ยังคงรักษารูปแบบความสัมพันธ์กับรัสเซียเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน
สหรัฐเคารพประชาชนรัสเซีย คนรัสเซียเท่านั้นที่เป็นผู้ตัดสินอนาคตของประเทศที่จะแสดงบทบาทสร้างสรรค์ต่อการเมืองระหว่างประเทศ ในระหว่างนี้สหรัฐจะต่อต้านความก้าวร้าวของรัฐบาลรัสเซียต่อไป
ความร่วมมือกับนานาชาติ:
ภายใต้บรรยากาศแข่งขัน สหรัฐจะร่วมมือกับนานาชาติในประเด็นที่จำต้องร่วมมือกัน เช่น การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ สหรัฐจะลงทุนในพลังงานสะอาดซึ่งช่วยจ้างงานเพิ่มอีกหลายล้านตำแหน่ง เตรียมระบบป้องกันการเปลี่ยนแปลงอากาศแบบสุดขั้ว ช่วยประเทศอื่นๆ ในด้านนี้ ยุติการถางป่าในทศวรรษหน้า ส่งเสริมนโยบายกำจัดคาร์บอนด้วยผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
จะร่วมมือกับสำนักงานพลังงานสากล (International Energy Agency) U.S.-EU Task Force on European Energy Security, Clean Energy Ministerial and Mission Innovation, Power Africa, the Eastern Mediterranean Gas Forum และอีกหลายองค์กร กำลังหารือสร้างเครือข่ายความมั่นคงด้านพลังงาน
อนาคตอาจมีโรคระบาดที่ร้ายแรงกว่าโควิด-19 ที่คร่าชีวิตคนทั่วโลก 6.5 ล้านคน จำต้องวางระบบป้องกันตั้งแต่ตอนนี้ เช่น ระบบเตือนภัยล่วงหน้า การแบ่งปันข้อมูล หาวิธีป้องกันรักษาทางการแพทย์อย่างรวดเร็ว รวมทั้งการผลิตยาและเวชภัณฑ์ ตระหนักว่าไม่มีใครปลอดภัยจนกว่าทุกคนจะปลอดภัย ป้องกันไม่ให้ผู้ก่อการร้ายใช้อาวุธชีวภาพ
โลกกำลังประสบปัญหาความมั่นคงทางอาหาร ทั้งจากรัสเซียบุกยูเครน ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 สภาพอากาศที่เป็นโทษต่อการเกษตร ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อเรื้อรัง (protracted conflicts) สหรัฐเป็นผู้บริจาครายใหญ่สุดของ World Food Programme และบริจาคช่วยเหลือหลายประเทศ ในระยะยาวต้องหากลไกให้ไม่มีใครขาดแคลนอาหาร โดยร่วมมือกับทุกสถาบัน องค์การภาคประชาชนทั่วโลก
การแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ อาวุธเคมีและชีวภาพเป็นเรื่องสำคัญยิ่งยวด สหรัฐจะร่วมมือกับพันธมิตรและทุกภาคส่วนช่วยกันควบคุมการแพร่กระจายอาวุธเหล่านี้ ยึดมั่นสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (Nuclear Non-Proliferation Treaty) สนธิสัญญาห้ามการทดลองอาวุธนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ (Comprehensive Test Ban Treaty) ร่วมมือกับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency) และหน่วยงานอื่นๆ ของสหประชาชาติ
ซีเรีย เยเมน และโซมาเลียเป็นแหล่งกบดานของกลุ่มก่อการร้าย ก่อความขัดแย้งในหลายพื้นที่ หลายกลุ่มยังคิดโจมตีสหรัฐกับผลประโยชน์สหรัฐในต่างแดน ในขณะเดียวกันมีกลุ่มสุดโต่ง (extremists) ในสหรัฐที่ก่อเหตุเป็นภัยคุกคามในประเทศ มักสัมพันธ์เชื้อชาติ กลุ่มชาติพันธุ์และกลุ่มต่อต้านรัฐบาล ในระยะยาวรัฐบาลจะควบคุมผู้สนับสนุนกลุ่มเหล่านี้ การบิดเบือนข้อมูลต้นเหตุยั่วยุให้กระทำผิด
สหรัฐมีขีดความสามารถจัดการก่อการร้ายอย่างอัลกออิดะห์ ไอซิส (ISIS) อัฟกานิสถานไม่เป็นที่ซ่อนตัวของผู้ก่อการร้ายอีกต่อไป ร่วมกับนานาชาติต่อต้านก่อการร้ายด้วยหลากหลายวิธี ตั้งแต่ป้องกัน ตรวจจับ บังคับใช้กฎหมาย แบ่งปันข้อมูล จัดการเส้นทางการเงิน การระดมสมาชิกผู้ก่อการร้าย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กระสุนนัดเดียวเปลี่ยนโลก
บรรยากาศหาเสียงตอนนี้ไม่ต้องคิดถึงเรื่องอื่นใดอีก ทรัมป์ควรชนะเลือกตั้ง กระสุนนัดเดียวชี้ขาดผลเลือกตั้ง ชี้นำโลกอนาคตควรทำตามนโยบายทรัมป์
เลือกตั้งสหรัฐ 2024 ประชามติเลือกประชาธิปไตย
ไบเดนชี้ว่าตนเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ส่วนทรัมป์อยู่ฝ่ายตรงข้าม ถ้าต้องการปกป้องประชาธิปไตยขอให้เลือกพรรคเดโมแครต
ทำไมสมาชิกอาเซียนสนใจเข้าBRICS
ประเทศไทย มาเลเซีย และเวียดนามพยายามสัมพันธ์ดีกับมหาอำนาจทั้งหลาย ไม่อิงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจนเกินตัว มอง BRICS เป็นโอกาสใหม่
ระบบโลกที่บิดเบี้ยว (2) สงครามยูเครน
เงื่อนไขสงบศึกของปูติน การใช้ทรัพย์รัสเซียที่ยึดได้เป็นหลักฐานชี้ว่าต่างฝ่ายต่างยืนยันรบต่อ บ่งชี้ระเบียบโลกที่บิดเบี้ยว ต้องสู้กันต่อไป
ปูตินยกระดับสัมพันธ์เกาหลีเหนือ-รัสเซีย
บัดนี้เกาหลีเหนือสามารถส่งกระสุนอาวุธต่างๆ ช่วยรัสเซียทำศึกยูเครน แม้กระทั่งส่งกองทัพเกาหลีเข้ารบโดยตรง ดังที่ผู้นำเกาหลีเหนือกล่าวว่า ปูตินคือเพื่อนแท้ที่ดีที่สุด
ระเบียบโลกที่บิดเบี้ยว (1)
สัจนิยมมีข้อดีหลายอย่างแต่เปิดช่องให้รัฐบาลบางประเทศตีความว่าสามารถรุกรานประเทศอื่นๆ เป็นเรื่องปกติของโลก บางประเทศพยายามทำให้ดูดีอ้างว่าเป็นการป้องกันตนเอง