นายกรัฐมนตรีจีนคนใหม่คือ “หลี่ เฉียง” ซึ่งเป็นหัวหน้าใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เซี่ยงไฮ้...จะต้องเจอกับความท้าทายมากมายหลายด้าน
เพราะจีนกำลังเผชิญกับปัญหาทั้งด้านเศรษฐกิจ, การเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างร้อนแรง
“การพลิกฟื้นเศรษฐกิจ’ คือโจทย์ใหญ่ของคนที่มานั่งเก้าอี้แทนหลี่ เค่อเฉียง, นายกฯ คนเดิมที่ยืนเคียงข้างสี จิ้นผิง มาตลอด 10 ปี
วันนี้สีดึงเอาคนที่ไว้วางใจที่สุดคนหนึ่งมาข้างกายเพื่อจะได้สั่งการโดยตรงและเกาะติดการแก้ปัญหารอบด้าน
จีนต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจที่โดนผลกระทบจากพิษโควิด-19 เป็นอันดับแรก
แม้ว่าตัวเลขเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนที่เพิ่งเปิดเผยสำหรับไตรมาส 3 จะดูดีกว่าที่คาดการณ์กัน...คืออยู่ที่ 3.9% แทนตัวเลขพยากรณ์ของผู้เชี่ยวชาญที่ 3.5% แต่สถานการณ์ก็ยังไม่น่าไว้วางใจในหลายด้าน
เครื่องมือของหลี่ เค่อเฉียง ที่จะสู้กับความมั่นใจของเขามีไม่มากนัก
พอประกาศรายชื่อกรรมการชุดใหม่ของพรรคออกมา ตลาดหุ้นปักกิ่งและฮ่องกงก็มีปฏิกิริยาไปทางลบ
ภารกิจหลักของหลี่คือการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และแก้ปัญหาการจ้างงานที่มีผลต่อเสถียรภาพทางสังคม
สี จิ้นผิง ย้ำเน้นมาตลอดว่าเสถียรภาพของสังคมจะต้องไปคู่กับการเติบใหญ่ทางเศรษฐกิจ
ที่เขาเรียกว่าเป็น “สองปาฏิหาริย์” ของจีนตลอดเวลา 40 ปีที่ผ่านมา
แต่ความสามารถของการที่จะรักษาให้ยั่งยืนไว้นั้นกำลังถูกท้าทายจากความผันผวนทั้งในและต่างประเทศอย่างหนัก
พอรายชื่อของคณะกรรมการประจำของกรมการเมือง หรือ Politburo ถูกประกาศออกมาวันอาทิตย์...วันต่อมาตลาดหุ้นฮ่องกงก็ร่วงหนัก
รวมไปถึงตลาดหุ้นจีนและค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง สะท้อนถึงความไม่แน่ใจของตลาดต่อโครงสร้างอำนาจใหม่ของจีนที่เห็นได้ชัดว่า สี จิ้นผิง สามารถกระชับอำนาจเบ็ดเสร็จ
ความจริงตลาดหุ้นและการเงินมักจะชอบอะไรที่แน่ชัดและเด็ดขาด
แต่ในกรณีนี้อาจจะมีคำถามว่า การเปลี่ยนตัวนายกฯ มาเป็นคนที่ไม่เคยเป็นรองนายกฯ มาก่อน และไม่มีประสบการณ์ด้านการบริหารจากศูนย์กลางอำนาจอย่างหลี่ เค่อเฉียง นั้นจะทำให้เกิดอาการชะงักหรือไม่
แต่นักวิเคราะห์บางสำนักตั้งข้อสังเกตว่า เหตุแห่งความลังเลของตลาดนั้นอาจจะมีจากการที่เห็นว่า มาตรการควบคุมการระบาดของโควิดจะยังไม่ผ่อนคลายลงไปในเร็ววันนี้
อีกทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์จะไม่ฟื้นตัวในระยะเวลาอันใกล้ และต้องสร้างความมั่นใจว่าจะไม่เกิด “ฟองสบู่” ในวงการนี้อย่างที่บางกระแสกลัวกัน
จึงมีการมองกันว่าทีมเศรษฐกิจใหม่ที่มองเห็นขณะนี้มีทางเลือกค่อนข้างจำกัด
ที่เห็นชัดก็คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจปีหน้าคงหนีไม่พ้นการลงทุนในประเทศและการเปิดตัวโครงการขนาดใหญ่
โครงสร้างการบริหารใหม่มีการปรับเปลี่ยนตัวจาก ลิ่ว เหอ ซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่เรียนจบจากสหรัฐฯ แทนที่ด้วย เหอ ลี่ เฟิง (He Lifeng) ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นคนสนิทของสี จิ้นผิง
ตำแหน่งที่สำคัญอีกตำแหน่งหนึ่งคือ ผู้ว่าธนาคารกลาง แต่ข่าวบางกระแสบอกว่าคนปัจจุบันคือ อี้ กัง จะเกษียณอายุในปีหน้า
อัตราการว่างงานของจีนในเดือนกันยายนพุ่ง 5.5% สูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน
สาเหตุสำคัญมาจากผลกระทบของโรคระบาดโควิดที่กดดันธุรกิจจีน
ตัวเลขที่สร้างความกังวลให้กับทางการไม่น้อยคือ คนหนุ่มสาวอายุ 16-24 ปี ว่างงานพุ่งถึง 17.9%
อัตราโตทางเศรษฐกิจทั้งปีนี้จะเข้าเป้าที่ 5.5% หรือไม่ เป็นอีกคำถามหนึ่งที่น่าสนใจ
เพราะบางสำนักคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโตที่ 3.2% ปีนี้โดยเฉลี่ย และจะฟื้นตัวกลับมาโตได้ 5.0% ในปีหน้า
ที่ต้องจับตาอีกประเด็นหนึ่งคือ การประสานงานระหว่างหลี่ เค่อเฉียง ที่มาจากเซี่ยงไฮ้กับหัวหน้าใหญ่จากปักกิ่งและกวางตุ้งจะราบรื่นมากน้อยเพียงใด
เพราะผู้บริหารสูงสุดของพรรคจาก 3 มณฑลนี้เป็นแกนสำคัญของการผลักดันให้สามารถบรรลุเป้าหมายของสี จิ้นผิง
ไช่ ฉี (Cai Qi) คือเลขาธิการพรรคจากปักกิ่ง
เขาเป็นหน้าใหม่อีกคนในคณะกรรมการประจำของ Politburo ชุดใหม่
ไช่ ฉี ถือว่าเป็นนักการเมืองที่มีความสามารถ และที่สำคัญคือมีความสัมพันธ์อันยาวนานกับสี จิ้นผิง เช่นเดียวกัน
ไช่ ฉี เคยทำงานร่วมกับ สี จิ้นผิง ที่จังหวัดชายฝั่งของฝูเจี้ยนและเจ้อเจียง
เขามาถึงปักกิ่งในปี 2559 ในตำแหน่งนายกเทศมนตรี ก่อนที่จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคที่นั่น
ขณะดำรงตำแหน่งที่ปักกิ่ง เขาต้องเจอกับงานหินหลายเรื่อง
เช่น การจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2022 ที่ปักกิ่ง
ซึ่งมาตรงกับช่วงโควิดที่ตามนโยบาย สี จิ้นผิง “ต้องเป็นศูนย์”
ปีนี้ ไช่ ฉี อายุ 66 ปี เป็นชาวฝูเจี้ยน และถือว่าเป็นหนึ่งในปัญญาชนชั้นนำของพรรค
ได้รับปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์การเมืองจาก Fujian Normal University
คนใกล้ชิดบอกว่า เขาได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นผู้จัดการบริหารที่มีความสามารถ
ส่วน หลี่ ซี (Li Xi) นั้นเป็นหัวหน้าใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์ประจำมณฑลกวางตุ้ง
การที่เขาได้ขึ้นมาเป็น 1 ใน 7 อรหันต์ เท่ากับเป็นการยอมรับถึงความสำเร็จของเขาในการส่งเสริมการบูรณาการระหว่างกวางตุ้ง กับศูนย์กลางเทคโนโลยีของเซิ่นเจิ้น และศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศของฮ่องกง
นอกจากนี้ หลี่ในวัย 66 ปี ยังได้รับการเสนอชื่อให้สืบทอดตำแหน่งต่อจาก จ้าว เล่อจี้ ในตำแหน่งหัวหน้าคณะกรรมาธิการกลางเพื่อการตรวจสอบวินัย
นั่นคือกลไกการปราบปรามคอร์รัปชัน และ “ผู้ออกนอกลู่นอกทาง” ที่สี จิ้นผิง ให้ความสนใจเป็นพิเศษ
เห็นได้ว่าหัวหน้าของพรรคจาก 3 มณฑลหลักคือ เซี่ยงไฮ้, ปักกิ่งและกวางตุ้ง มาบรรจบพบกันในคณะกรรมการประจำของกรมการเมืองอย่างพร้อมหน้ากันในคราวนี้
เท่ากับว่า สี จิ้นผิง ต้องการจะระดมมือทำงานชั้นเซียน หรือ “3 ทหารเสือ” มาอยู่รอบตัวเขาอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
เพื่อเปิดศักราชแห่งการก้าวเข้าสู่ “สมัยที่ 3” ของเขาอย่างร้อนแรงกว่า 2 เทอมที่ผ่านมา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ