ว่าด้วย...วงจร-วัฏจักรแห่งฤดูกาล

เห็นว่า หน้าหนาว นั้น...กำลังย่างเยื้องเข้ามาในช่วงปลายๆ ตุลาคมปีนี้ หรืออีกไม่นาน-ไม่ช้านับจากนี้ แต่ขณะ ลมหนาว ยังไม่ถึงกับโชยเข้ามาให้มีโอกาส ฮึ้มฮึม-ฮึ้มหึ่ม ได้แบบบทเพลงโบร่ำ-โบราณ ของคุณครู ล้วน ควันธรรม

การหาทางประคับประคองตัวเอง ให้อยู่รอดปลอดภัยจาก หน้าน้ำ หรือช่วงจังหวะที่น้ำทะเลยกระดับขึ้นสูง ขณะที่ฝนฟ้ายังไม่ถึงกับหายคลางจางไปซะทีเดียวนัก ก็ออกจะเป็นอะไรที่น่าเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า มิใช่น้อย...

คือต้องคอยระแวดระวัง ต้องคอยหมั่นยกข้าว-ของต่างๆ ขึ้นไว้ในที่สูง ก่อนที่น้ำท่านจะทะลักหลั่งควั่งพรู ไหลเข้ามาท่วมขังในบ้านแต่ละบ้าน จนอาจต้องเปียกๆ แฉะๆ หรืออาจต้องตกน้ำป๋อมแป๋ม เอาง่ายๆ ไม่ว่าการกิน-การอยู่-การนอน ก็เลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องย้ายจากชั้นล่าง ขึ้นมาบนชั้นสอง หรือชั้นที่สูงขึ้นๆ ตามสภาพ ยิ่งเป็นประเภท คนป่วย อย่างอันตัวข้าพเจ้าเองต้องตะเกียกตะกายถัดกระไดขึ้นมาเป็นชั้นๆ ก่อนที่จะกักตัวเองเอาไว้บนชั้นสอง ไปไหน-มาไหนแทบไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะเวลาถัดลง อาจหัวทิ่ม-หัวตำเอาง่ายๆ ระหว่างช่วงรอยต่อ หน้าน้ำ กับ หน้าหนาว จึงเป็นอะไรที่ออกจะยุ่งยากลำบาก เป็นอะไรที่เหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า อยู่พอสมควรเหมือนกัน...

แต่ก็นั่นแหละ...ความเป็นมา-เป็นไปของ ฤดูกาล ท่านก็เป็นของท่านอย่างนี้มานานแล้ว อาจจะวิปริต แปรผัน ไปบ้าง แต่ก็หนีไม่พ้นไปจากวงจร-วัฏจักรแห่งธรรมชาติ ที่ต้องหมุนเวียน-เปลี่ยนผันไปตามสภาพ มีหนาว มีร้อน มีแล้ง มีน้ำหลาก น้ำท่วม มีช่วงจังหวะใบไม้ผลิ ใบไม้ร่วง มีหิมะตก โดยเฉพาะแถบด้านเหนือๆ ของพวกฝรั่งเขา บรรดาวงจร-วัฏจักรเหล่านี้ต่างก็หมุนวนไป-วนมาเป็นรอบๆ ไม่ต่างไปจากวงจร-วัฏจักรของกลางวันและกลางคืน ที่มีทั้งมืด-ทั้งสว่าง สลับไป-สลับมากันโดยตลอด ไม่มีอะไรที่มืดมิดไปตลอดชั่วนิรันดร์กาล และไม่มีอะไรที่สว่างจ้า จนไม่เหลือความมืดติดปลายนวมเอาไว้เลย ส่งผลให้เกิดสภาพ ความเป็นไปตามธรรมชาติ ที่ไม่ต่างไปจากสภาพความเป็นจริง ความเป็นไปของมวลมนุษย์ทั้งหลายนั่นแหละทั่น!!! คือมีทั้งสุขๆ-ทุกข์ๆ ที่หมุนวนไป-วนมา หมุนเข้ามาในช่วงชีวิตไปเป็นห้วงๆ เป็นระยะๆ...

ด้วยเหตุนี้...จึงถือเป็นเรื่อง ไม่แปลก ที่ผู้คนนับตั้งแต่ยุคโบร่ำ-โบราณ ท่านจะมองความเป็นไปของสิ่งที่เรียกว่า กาลเวลา ในลักษณะไม่ได้ผิดแผก แตกต่าง ไปจาก ความเป็นไปตามธรรมชาติ คือมองเป็น วัฏจักร-วงจร ที่หมุนไป-หมุนมาเป็นรอบๆ มองเป็นวงกลม เป็นกงล้อ หรือเป็น หยิน เป็น หยาง ที่เคลื่อนไหวไป-มาภายในเส้นรอบวง ไม่ได้มองเป็น เส้นตรง เหมือนอย่างบรรดาพวกนักวิทยาศาสตร์ นักประวัติศาสตร์ฝรั่ง ที่พยายามแบ่งยุค-แบ่งสมัย แยกสัดส่วนของกาลเวลาออกไปเป็นท่อนๆ ดังนั้น...ไม่ว่าจะศาสนาพุทธ-คริสต์-อิสลาม-ฮินดู จนไปถึงศาสนาเชน หรือโซโรอัสเตอร์ ฯลฯ ก็แล้วแต่ เลยถึงต้องมีเรื่องราวของ มิคสัญญียุค กลียุค วันสิ้นโลก-สิ้นยุค ฯลฯ ติดปลายนวมเอาไว้เสมอๆ...

และถ้าหากมองถึงความเป็นไปของ กาลเวลา ในลักษณะที่ว่านี้...ก็ยิ่งไม่น่าแปลกใจ ไม่ถึงกับต้อง งุนงง-สงสัย อีกต่อไป ว่าเหตุใดแทบทุกสิ่ง-ทุกอย่างภายในโลกใบนี้ ณ ยุคนี้-สมัยนี้ มันถึงได้เสื่อมลงๆ ถึงได้มืดมนอนธกาลลงไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นคุณธรรม-ศีลธรรม สติ-ปัญญา-สัมปชัญญะ ตลอดไปจนความอดทน-อดกลั้น หรือ ขันติธรรม อันถือเป็นพื้นฐานของคุณธรรมในแต่ละระดับ หรือพูดง่ายๆ ว่า...ก็ด้วยเหตุเพราะความเป็นไปตามธรรมชาติของกาลเวลานั่นเอง ที่ย่อมต้องไหลไปในลักษณะนี้ หมุนวนไปในลักษณะเช่นนี้!!!

ดังนั้น...สำหรับใครก็ตาม ที่ไม่ปรารถนาและต้องการความมืด ไม่ชอบใจ-ไม่พึงพอใจในความเสื่อม มีแต่ต้องหาทาง ทำใจ ด้วยการอาศัยความ เข้าถึง-เข้าใจ ต่อสภาวะความเป็นไปตามธรรมชาติของกาลเวลานั่นแหละเป็นหลัก หรือไม่งั้นก็ต้องพยายามตะเกียกตะกาย ดิ้นรน พยายามถัดบันไดพาตัวเองขึ้นไปอยู่ในที่สูงๆ ให้ทันท่วงที ทันเวลา ไม่ว่าจะอยู่ในระหว่างเจ็บป่วย เจ็บไข้ ไปถึงขั้นไหน หรือไม่ว่าจะต้องอึดอัด-ขัดข้องใจ ไปไหน-มาไหนแทบไม่ได้ระหว่างอยู่บนชั้นสอง เพราะสุดท้าย...ด้วยความเป็นไปของวัน-เวลา ของฤดูกาลนั่นเอง โอกาสที่จะได้ ฮึ้มฮึม-ฮึ้มหึ่ม กับลมหนาวที่โชยเข้ามาด้วยความสดชื่น-รื่นเริง ก็คงอีกไม่ใกล้-ไม่ไกล ด้วยเหตุเพราะยิ่งมืดเท่าไหร่ ก็ยิ่งเท่ากับใกล้สว่าง ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น...

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฤๅประเทศไทยจะไร้ทางเลือก

เวรกรรมอะไรของประเทศไทย นักการเมืองไดโนเสาร์บางคนยังคงทำงานการเมืองแบบน้ำเน่า แย่งกันเป็นรัฐมนตรีโดยไม่สนใจความรู้ความสามารถของตน

โลกกับบ้านเรา...ใคร 'เละ' กว่าใคร???

มันก็น่าคิด น่าสะกิดใจ อยู่ตามสมควรเหมือนกัน...ที่เมื่อไหร่ที่ประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา เกิดมีผู้นำประเทศมีนายกรัฐมนตรีเป็น ผู้หญิง

สัญญาใจเก้าอี้ ผบ.ทร.

มีข้อสงสัย มีข้อถกเถียง ว่าเก้าอี้ "ประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ" หรือ "ประธาน ก.ตร." นั้น นายกฯ อิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

อ่านอาเพศปชป.กับแนวโน้มอายุรัฐบาล

หลังจากได้รับเทียบเชิญจากพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ก็มีมติเข้าร่วมรัฐบาลไปเมื่อ 29 สิงหาคม 2567 ในแบบ ไม่มีมิตรแท้ หรือ ศัตรูถาวรทางการเมือง 

สับสนอลหม่าน แพทองธาร...พาลแพแตก

เราเคยทำนายไว้ว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีที่ชื่อเศรษฐาพ้นจากการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 และได้แพทองธารมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31

โลกแห่งความเป็นจริงที่กำลังถูกกลืนกิน

ด้วยความก้าวหน้า-ก้าวไกลของเทคโนโลยีข้อมูล-ข่าวสาร ที่เตลิดเปิดเปิงไปถึงระดับ 5G-6G และไม่รู้จะอีกกี่ G ภายในอนาคตอันใกล้ แถมยังมีตัวเร่ง ตัวกระตุ้น