พอรัสเซียถล่มยูเครนทางอากาศอย่างกว้างขวางและร้อนแรงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา...สองวันหลังจากการระเบิดสะพานหลักที่คาบสมุทรไครเมียก็มีคำถามใหญ่ที่ต้องหาคำตอบทันทีว่า
นี่ถือเป็น ‘จุดเปลี่ยนของสงคราม’ หรือไม่?
หรือไม่ก็ต้องถามว่า “สงครามจะบานปลาย” กลายเป็นการเผชิญหน้าระหว่างรัสเซียกับตะวันตกหรือไม่?
เพราะเห็นได้ชัดว่าประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียได้แสดงท่าทีที่แข็งกร้าว และคนใกล้ชิดออกมายืนยันว่า
นี่เป็นเพียง “จุดเริ่มต้น” หรือ Episode 1 ของการเปิดสงครามเต็มรูปแบบของรัสเซียต่อยูเครนที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตกอย่างชัดเจน
สัญญาณทั้งหลายบอกว่าสงครามจะบานปลายค่อนข้างแน่นอน และโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะใช้อาวุธร้ายแรงเพิ่มขึ้นก็ดูเหมือนจะสูงขึ้นมากที่สุดตั้งแต่สงครามเริ่มต้นมาเมื่อ 7 เดือนที่แล้ว
ปูตินตอกย้ำว่าการโจมตียูเครนครั้งล่าสุดเป็นการตอบโต้เหตุการณ์เมื่อวันเสาร์ที่เกิดการระเบิดที่สะพาน “เคิร์ช” ซึ่งเป็นเส้นทางหลักอันเป็นจุดเชื่อมทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญระหว่างรัสเซียกับแคว้นไครเมีย
ผู้นำรัสเซียบอกว่าระเบิดที่สะพานเป็น “การก่อการร้าย” และรัสเซียจะต้องตอบโต้ “อย่างหนัก” หากเกิดการโจมตีที่ท้าทายความมั่นคงของรัสเซียต่อไปจากนี้
รอบนี้อาจจะเป็นแค่การ “สั่งสอน” หรือ “เอาคืน” เท่านั้น
แต่ครั้งหน้าจะเป็นการ “ปิดเกมเบ็ดเสร็จ”
การถล่มรอบนี้พุ่งเป้าไปที่เขตพลเรือนด้วยอย่างชัดเจน
นั่นย่อมส่งผลทั้งทางด้านการต้องการจะสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของยูเครนจริง
แต่ขณะเดียวกันก็เปิดเกมสงครามจิตวิทยาอย่างแรงกล้าเช่นกัน
รัสเซียอาจคิดว่าไม่มีทางเลือกอื่นเมื่อทหารของตนในดินแดนที่เคยอยู่ใต้การควบคุมของรัสเซียทางตะวันออกของยูเครนต้องถอยร่นจากการโจมตีเอาคืนของทหารยูเครนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
จะมองว่าปูตินกำลังตกเป็นฝ่ายตั้งรับก็ไม่ผิดนัก
แม้ว่ากระทรวงกลาโหมรัสเซียจะอ้างว่าการโจมตีรอบล่าสุดมุ่งไปที่เป้าหมายทางทหารและระบบสื่อสารกับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน
แต่ทางการยูเครนระบุว่า รัสเซียสร้างความเสียหายต่อพื้นที่พลเรือนไม่น้อย
ประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนเองออกมายืนตรงสี่แยกกลางกรุงเคียฟวันเกิดเรื่อง เพื่อชี้ไปที่จุดพลเรือนหลายแห่งที่ถูกจรวดของรัสเซียถล่มโจมตีอย่างหนัก
ทางการยูเครนอ้างว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธทั้งหมด 84 ลูก ไปลง 10 เมือง โดย 56 ลูกถูก “สอย” ด้วยระบบป้องกันทางอากาศ
ตัวเลขทางการแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย และบาดเจ็บกว่า 60 คน
ทันใดนั้นเอง เซเลนสกีก็ประกาศขอให้ทางตะวันตกส่งขีปนาวุธที่ยิงจากพื้นสู่อากาศมากขึ้น
เซเลนสกีร้องขอให้นายกฯ เยอรมนีเรียกประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศ G-7 เป็นการด่วนเพื่อหามาตรการตอบโต้รัสเซีย
ตัวเขาเองก็มีกำหนดปราศรัยต่อที่ประชุมนี้ผ่านระบบออนไลน์
ไม่ต้องสงสัยว่าเขาจะกล่าวประณามการ “ก่อการร้าย” ของรัสเซียในรอบนี้อีกครั้ง
และตอกย้ำความจำเป็นที่โลกตะวันตกจะต้องยิ่งเร่งรัดการส่งความช่วยเหลือทางทหารมาให้ยูเดรน
ที่ผมเชื่อว่าสงครามจะหนักหน่วงรุนแรงขึ้น เพราะก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่วันปูตินได้แต่งตั้งพลเอกเซอร์เกย์ ซูโรวิกิน ให้รับหน้าที่มาบัญชาการรบของกองทัพรัสเซียในยูเครนทั้งหมด
นายพลคนนี้มีฉายาว่าเป็น General Armageddon หรือ "นายพลโลกาวินาศ"
หมายถึงประวัติการบัญชาการรบที่กร้าวและเด็ดขาดมาก่อน เพราะเขาเคยนำทัพกองกำลังรัสเซียในซีเรียมาก่อน
เคยถูกกล่าวหาว่าเป็นคนรับผิดชอบการโจมตีอย่างโหดร้าย และสร้างความเสียหายรุนแรงในเมืองอเล็ปโป
และเคยบัญชาการรบทหารรัสเซียในเชเชนมาอย่างโชกโชนแล้วเช่นกัน
อีกทั้งยังเคยได้เหรียญตราเป็น “วีรบุรุษแห่งสงคราม” ของรัสเซียอีกด้วย
การแต่งตั้งนายพลที่มีประวัติ “ลุย” อย่างหนักมาบัญชาการรบในยูเครน จึงสะท้อนว่าปูตินต้องการจะให้คนที่เขาไว้วางใจที่สุดในกองทัพวันนี้มา “เผด็จศึก” อย่างเด็ดขาดเสียที
หลังจากที่มีข่าวเรื่องความเพลี่ยงพล้ำของทหารรัสเซียในหลายจุดในสมรภูมิสงครามในยูเครนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ที่ควรจะต้องจับตาดูอีกด้านหนึ่งคือ คำประกาศของผู้นำเบลารุสที่ประกาศว่าจะช่วยรัสเซียในศึกสงครามครั้งนี้ด้วย
ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก บอกว่า เบลารุสซึ่งเป็นชาติพันธมิตรของรัสเซียก็จะส่งกองกำลังไปช่วยรัสเซียรบ
สื่อของเบลารุสอ้างคำพูดของลูกาเชนโกว่า อาจจะส่งทหารไปร่วมรบประมาณ 1,000 นาย
แต่ไม่ได้บอกว่าจะส่งไปเมื่อไหร่ หรือจะร่วมรบอย่างไร
ผู้นำเบลารุสบอกว่า รัสเซียกับเบลารุสเริ่มผนึกกำลังทางทหารหลังจากที่ยูเครนระเบิดสะพานเชื่อมต่อไปยังไครเมีย
อีกทั้งยังกล่าวหาว่ายูเครนมีแผนจะโจมตีเบลารุสด้วย
พร้อมทั้งชี้นิ้วกล่าวหายูเครน, โปแลนด์และลิทัวเนียว่าสมรู้ร่วมคิดฝึกฝน “พวกหัวรุนแรง” เพื่อเข้าไปก่อวินาศกรรมในรัสเซียและเบลารุส
สถานการณ์ที่ตึงเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดวันนี้จึงกำลังนำไปสู่การเผชิญหน้าระหว่างรัสเซียกับนาโตโดยตรง
ไม่ใช่เพียงแต่เป็นสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนอีกต่อไป
ทันทีที่เกิดการถล่มทางอากาศอย่างหนักต่อยูเครนเมื่อวันจันทร์ ประธานาธิบดีเซเลนสกีก็ต่อสายไปถึงผู้นำสหรัฐฯ, เยอรมนี, ฝรั่งเศส และแกนนำของนาโตกับสหภาพยุโรปทันที
เพื่อระดมสรรพกำลัง...และระบุว่า ต้องการจะได้ “ระบบต่อต้านอากาศยาน” อย่างเร่งด่วนเพื่อระงับยับยั้งการโจมตีรอบต่อไปของรัสเซียต่อยูเครน
โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ รับปากว่าจะส่งอาวุธชุดใหม่มาให้อย่างเร่งด่วน
สมาชิกนาโตก็แสดงความพร้อมที่จะยกระดับของการสนับสนุนต่อยูเครน
คำว่า “อาวุธนิวเคลียร์” แบบ “ยุทธวิธี” ก็ถูกเอ่ยขานอย่างต่อเนื่อง
ความเป็นไปได้ของสงครามที่จะบานปลายไปทั่วยุโรปที่เมื่อไม่กี่เดือนก่อนมองว่าเป็นเรื่องที่เป็นไม่ได้ เสี่ยงเกินไปสำหรับทุกฝ่าย และไม่มีผู้ชนะในเกมโหดก็กลับกลายเป็นประเด็นที่เริ่มจะเป็นเรื่อง “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้” อีกต่อไป!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ