ตื่นมาตอนเช้าของวันจันทร์ที่ผ่านมา คนยูเครนในหลายเมืองรวมทั้งเมืองหลวง “กรุงเคียฟ” ได้ยินเสียงไซเรนเตือนภัยจากทางอากาศ...หนีตายกันหัวซุกหัวซุน
ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียประกาศในเวลาต่อมาว่าได้สั่งให้ถล่มเมืองสำคัญ ๆ ของยูเครนด้วยอาวุธที่มีความแม่นยำสูง โดยมีเป้าหมายที่โครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวกับพลังงานและที่ตั้งทางทหาร
สำทับด้วยว่านี่เป็นการ “เอาคืน” ที่ยูเครนส่งหน่วยก่อวินาศกรรมไประเบิดสะพานไครเมียเมื่อวันเสาร์
และย้ำว่าหากยูเครนยังเดินหน้าโจมตีรัสเซียก็จะได้เจอกับการตอบโต้ที่ “หนักหน่วงและรุนแรง”
เหตุระเบิดสะพานเชื่อมคาบสมุทรไครเมียกับแผ่นดินใหญ่รัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นประเด็นร้อนที่มีผลตามมาหลาย ๆ ด้านทีเดียว
เพราะประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินออกโรงเอง เรียกกรณีนี้เป็นการ “ก่อการร้าย” ที่มอสโกจะอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ จะต้องมีการตอบโต้ให้สาสม
สื่อรัสเซียบอกว่าปูตินกล่าวหายูเครนอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน และเป็นฝีมือของหน่วยรบพิเศษยูเครนที่ได้พยายามโจมตีโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนภายในรัสเซีย
หัวหน้าคณะสอบสวนเหตุการณ์นี้ยืนยันว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มาจาก “รถบรรทุกระเบิด” หรือ truck bomb ที่ถูกวางไว้เพื่อการก่อวินาศกรรม
มีการกล่าวอ้างว่ารถบรรทุกคันนี้ได้เดินทางผ่านหลายประเทศก่อนจะเข้าไครเมีย
เช่นวิ่งผ่าน บุลกาเรีย จอร์เจีย อาร์เมเนีย ออสเซเตียก่อนจะวิ่งเข้ามายังรัสเซียด้านเหนือ
การสอบสวนยังพบว่ามีการสมรู้ร่วมคิดของคนอื่น ๆ ในการก่อเหตุร้ายครั้งนี้ด้วย
รวมถึงชาวรัสเซียและต่างชาติที่ถูกเกณฑ์โดยยูเครนมากระทำต่อรัสเซีย
ร้อนถึงปูตินต้องเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาตินัดพิเศษ
ปูตินเคยย้ำหลายครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาว่าถ้ายูเครนโจมตีดินแดนของรัสเซียกก็มีความเป็นไปได้ที่จะต้องตอบโต้
ซึ่งอาจจะหมายถึงการใช้อาวุธนิวเคลียร์แบบยุทธวิธีหรือ Tactical Nuclear Weapons
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนบอกว่าเขาไม่คิดว่าปูติน “พูดเล่น” และโลกเข้าใกล้วัน “โลกาวินาศ” เพราะความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา
บางสำนักข่าววิเคราะห์ว่ายูเครนเตรียมการก่อเรื่องอย่างนี้ตรงกับวันเกิดปีที 70 ของปูตินเมื่อสัปดาห์ก่อน
ทำนองเป็น “ของขวัญวันเกิด” ให้ปูติน
โดยมีเป้าหมายหลักคือเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของปูติน และทำลายขวัญของชาวรัสเซียโดยเฉพาะนักรบรัสเซียในยูเครน
เป็นจังหวะที่ดูเหมือนว่ารัสเซียกำลังเผชิญอุปสรรคจากหลาย ๆ มิติในการเดินหน้าทำสงครามในยูเครน
อีกทั้งเพิ่งประกาศแต่งตั้งนายพลคนดัง Sergei Surovikin เป็นผู้บัญชาการรบของปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครนทั้งหมด
นายพลสุโรวิกินมีสมญานามว่าเป็น General Armageddon หรือ “นายพลโลกาวินาศ”
เพราะมีประสบการณ์เป็นแม่ทัพของทหารรัสเซียในสมรภูมิซีเรียและเชเชนมาแล้ว อีกทั้งยังเคยนำทัพรัสเซียในดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน
ก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งให้มาบัญชาการรบภาพรวมในยูเครน เขาเป็นแม่ทัพของทหารรัสเซียทางใต้ของยูเครน
เขาเคยได้รับเหรียญกล้าหาญในฐานะเป็น “วีรบุรุษสงคราม” จากปูตินมาแล้ว
การแต่งตั้งตำแหน่งนี้จึงถือว่าเป็นการ “จัดทัพใหม่ครั้งใหญ่” ที่ปูตินต้องการจะตั้งหลักใหม่เพื่อการรุกคืบในยูเครนเพื่อแก้ไขปละปรับปรุงจุดบกพร่องในแนวรบหลายด้าน
จนทำให้ทหารรัสเซียต้องถอยร่นจากหลายเมืองทางตะวันออกและทางใต้
ยิ่งเมื่อเกิดเหตุระเบิดที่สะพานไครเมียด้วยแล้ว ก็ยิ่งกดดันให้ปูตินต้องปรับทัพครั้งสำคัญ
ภาพของการก่อวินาศกรรมสะพานไครเมียนั้นเกิดจากรถบรรทุกระเบิดก่อน
จากนั้นไฟก็ลุกไหม้ถังบรรจุน้ำมันบนรถไฟที่วิ่งขนานกัน
และไม่กี่นาทีต่อมา สะพานรถยนต์บางส่วนก็ถล่มลงมา
มีคำสั่งให้ซ่อมแซมสะพานนี้โดยด่วนเพราะจะปล่อยให้กลายเป็นข่าวที่สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของรัสเซียยาวนานไม่ได้
ภายในไม่ถึง 24 ชั่วโมง บางส่วนของสะพานก็กลับมาเปิดให้รถยนต์กลับมาวิ่งได้ แต่ก็มีภาพยืนยันว่าอีกส่วนหนึ่งของสะพานได้ถล่มลงทะเลไป
มีคำยืนยันว่ามีมีผู้เสียชีวิต 3 ราย ซึ่งเป็นคนที่ขับรถแล่นใกล้รถบรรทุกที่เป็นต้นตอของการระเบิด
แรกทีเดียว ที่ปรึกษาของเซเลนสกีคนหนึ่งบอกสื่อยูเครนว่าความเสียหายครั้งนี้เป็นแค่ “จุดเริ่มต้น”
แต่ไม่มีแหล่งข่าวทางการใดของยูเครนยอมรับว่ากองทัพยูเครนอยู่เบื้องหลังเหตุในครั้งนี้
ถ้อยแถลงของคนใกล้ชิดเซเลนสกีคนนี้ขึ้นในทวิตเตอร์ว่า
“ทุกอย่างที่สร้างขึ้นมาอย่าง]ผิดกฎหมายต้องโดนทำลายให้หมดสิ้น ทุกอย่างที่โดนขโมยไปต้องนำมาคืนให้ยูเครน ทุกอย่างที่รัสเซียไปยึดครองต้องถูกขับไล่ออก”
สะพานแห่งนี้มีความสำคัญทั้งทางด้านยุทธศาสตร์และจิตวิทยา
สะพานชื่อเคิร์ช (Kirch) ถูกสร้างขึ้นหลังจากรัสเซียเข้าผนวกไครเมียเมื่อปี ค.ศ.2014
จึงถูกมองเป็นสัญลักษณ์ของการผนวกดินแดนครั้งนั้น
ยิ่งเมื่อปูตินเป็นคนสั่งให้สร้างสะพานนี้เอง ก็ยิ่งกลายเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีส่วนตัวของผู้นำรัสเซีย
ในแง่ยุทธศาสตร์ สะพานนี้มีความสำคัญเพราะเป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งเดียวที่เชื่อมระหว่างไครเมียกับรัสเซีย
ตั้งแต่ปูตินสั่งทหารรัสเซียเข้ายุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ของปีนี้ มอสโกได้ใช้สะพานแห่งนี้เคลื่อนย้ายกำลังพลและอุปกรณ์ ยุทโธปกรณ์ไปยังสนามรบทางตอนใต้ของยูเครน
เป้าหมายดังกล่าวได้โดยถูกต้องตามกฎกติกาสงคราม และพวกเขาก็ต้องการยึดไครเมียคืนด้วย
สะพานซึ่งเปิดใช้งานเมื่อปี 2018 โดยรัสเซียถือเป็นสัญลักษณ์ว่าสะพานแห่งนี้คือการเชื่อมต่อระหว่างรัสเซียและไครเมียและจะเชื่อมต่อ “ตลอดไป”
ที่ทำให้ปูตินต้องเสียหน้าเป็นพิเศษก็เป็นเพราะว่าเจ้าหน้าที่รัสเซียอ้างเสมอว่าว่าสะพานนี้ได้รับการปกป้องคุ้มครองอย่างดี
ไม่กลัวการโจมตีใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นการถล่มจากทางอากาศ ทางบก หรือทางอากาศ
ตอนเกิดเรื่องใหม่ ๆ ทางการยูเครนไม่ยอมยืนยันว่าเป็นฝีมือของฝ่ายตน ไม่ต่างกับตอนโจมตีฐานทัพอากาศรัสเซียในไครเมียเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ที่ถึงวันนี้ก็ยังไม่คำอธิบายว่าเป็นฝือมือของใคร ทั้ง ๆ ที่ฝ่ายรัสเซียยืนยันว่าเป็นการวินาศกรรมจากยูเครน
สงครามยูเครนถูกยกระดับขึ้นมาอย่างร้อนแรงอีกรอบ!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ