แห่มอบรางวัลอุตสาหกรรม

เหน็ดเหนื่อยผ่านการทำงานมาอย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่ต้องดำเนินงานในช่วงที่มีวิกฤตทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งกว่าจะหมดทุกข์หมดโศกมาได้ก็ใช้เวลา ใช้กำลัง และแรงเงินไปไม่รู้เท่าไหร่ แต่เชื่อว่าในช่วงปีนี้ก็เริ่มเห็นความชัดเจนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และคาดว่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจหลายๆ แขนงในตลาด จนทำให้มีแนวโน้มกลับมาเติบโตได้ ซึ่งความมุ่งมั่นและความบากบั่นแม้จะยังไม่ได้ส่งผลต่อยอดขายหรือกำไรที่ชัดเจน แต่ก็มีบางมุมมองที่ได้สะท้อนกลับมาชื่นชมการทำงานอย่างจริงจังครั้งนี้ได้อย่างดี

เนื่องจากล่าสุด กระทรวงอุตสาหกรรม โดยหน่วยงานกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) และสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้จัดงานมอบรางวัลตอบแทนความมุ่งมั่นในการทำงานทั้งในกลุ่มเหมืองแร่และชาวไร่อ้อย รวมถึงโรงงานน้ำตาลดีเด่น ผ่านรางวัลเหมืองแร่สีเขียว หนุนอุตสาหกรรมเหมืองแร่ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และอีก 213 รางวัลของเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่มีผลงานการพัฒนาด้านอ้อยดีเด่น และโรงงานน้ำตาลที่มีประสิทธิภาพการผลิตสูงสุด

โดยพิธีมอบรางวัลเหมืองแร่สีเขียวประจำปี 2565 หรือ Green Mining Award 2022 กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กพร.ได้ดำเนินนโยบายในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ด้วยการกำกับดูแล ควบคู่การสนับสนุนในด้านต่างๆ เพื่อทำให้ผู้ประกอบการมีมาตรฐานการประกอบการที่ดี มีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรแร่อย่างคุ้มค่าและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยอยู่บนพื้นฐานของการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมของชุมชนใกล้เคียง เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป

ซึ่งการมอบรางวัลเหมืองแร่สีเขียวจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 โดยผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลเหมืองแร่สีเขียว ต้องผ่านเกณฑ์การประเมินตามมาตรฐานเหมืองแร่สีเขียวทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ 1.ด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมเป็นที่ตั้ง 2.ด้านการลด ป้องกัน และแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม 3.ด้านการดูแลความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยของคนงานและชุมชนผู้อยู่อาศัยใกล้เคียง 4.ด้านการมีพื้นที่สีเขียวและทัศนียภาพเรียบร้อยสะอาดตา 5.ด้านความโปร่งใสตรวจสอบได้ และ 6.ด้านการใช้ทรัพยากรแร่อย่างคุ้มค่า

และในปีนี้มีสถานประกอบการที่ได้รับรางวัลเหมืองแร่สีเขียว รวมทั้งสิ้น 212 ราย ประกอบด้วย สถานประกอบการที่ได้รับรางวัลเหมืองแร่สีเขียว (รายใหม่) จำนวน 38 ราย รางวัลรักษามาตรฐานเหมืองแร่สีเขียวต่อเนื่องดีเด่น ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่มีการรักษามาตรฐานดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 7 ปี และมีคะแนนเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด จำนวน 16 ราย และรางวัลรักษามาตรฐานเหมืองแร่สีเขียว จำนวน 158 ราย 

ขณะที่ ด้านพิธีมอบรางวัลชาวไร่อ้อยดีเด่นและโรงงานน้ำตาลดีเด่น ประจำปี 2564-2565 เพื่อเชิดชูเกียรติและเป็นขวัญกำลังใจให้เกษตรกรชาวไร่อ้อย และผู้บริหารโรงงานน้ำตาลที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายอย่างสม่ำเสมอ โดยในปี 2564-2565 ได้คัดเลือกเกษตรกรชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาลที่มีผลงานการพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพการผลิตดีเด่น รวมทั้งสิ้น 213 รางวัล เพื่อเข้ารับถ้วยเกียรติยศและโล่ประกาศเกียรติคุณจากกระทรวงอุตสาหกรรม

โดยนายเอกภัทร วังสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย กล่าวว่า สำหรับพิธีมอบรางวัลชาวไร่อ้อยดีเด่นและโรงงานน้ำตาลดีเด่น ประจำปี 2564-2565 เป็นเสมือนการยืนยันถึงความรู้ ความสามารถ ความวิริยอุตสาหะในการพัฒนาตนเอง และการประกอบธุรกิจเพื่อสรรค์สร้างสิ่งที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทยอย่างแท้จริง รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงการส่งเสริมสนับสนุนของภาครัฐ เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีการร่วมมือร่วมใจในการพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมนี้ให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป

แน่นอนว่า การมอบรางวัลดังกล่าวเป็นการสะท้อนความจริงใจของหน่วยงานที่กำกับดูแล และสะท้อนความจริงจังของกลุ่มผู้ประกอบการกับการทำงานที่สร้างเสถียรภาพให้กับภาคอุตสาหกรรม รวมถึงการมุ่งหน้าไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนอย่างแท้จริง สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปมากขึ้น และยังเป็นการสะท้อนถึงความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันทำงานต่างๆ อีกด้วย. 

ณัฐวัฒน์ หาญกล้า

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เร่งเครื่องดึงนักท่องเที่ยว

จากสถานการณ์การท่องเที่ยวไทยในปัจจุบัน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ให้ข้อมูลพบว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมในช่วงเกือบ 7 เดือนเต็ม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-28 ก.ค.2567 ทั้งสิ้น 20,335,107 คน

ต้องเร่งแก้ปัญหาปากท้อง

หลังจากนายกรัฐมนตรีหญิง แพรทองธาร ชินวัตร รับตำแหน่งอย่างชัดเจน ทำให้ภาคเอกชนต่างก็ดีใจ เพราะไม่ทำให้ประเทศเป็นสุญญากาศในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสิ่งแรกที่ภาคเอกชนอย่าง

แนะเจาะใจผู้บริโภคด้วย‘ความยั่งยืน’

คงต้องยอมรับว่าประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนได้รับความสนใจมากขึ้นทั้งจากผู้บริโภค ภาคเอกชน และภาครัฐ ส่งผลให้ผู้ประกอบการในภาคธุรกิจจำเป็นต้องมีการปรับตัว

รัฐบาลงัดทุกทางพยุงตลาดหุ้น

หลังจากปล่อยให้ตลาดหุ้นซึมมาอย่างช้านาน จนปัจจุบันอยู่ต่ำกว่า 1,300 จุด เรียกได้ว่าสำหรับนักลงทุนถือเป็นความเจ็บปวด เพราะดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาไม่ได้ไปไหน

ดันอุตฯไทยไปอวกาศ

แน่นอนว่าในยุคที่โลกต้องก้าวหน้าไปสู่อุตสาหกรรมที่ทันสมัยมากขึ้น และต่อไปไม่ได้มองแค่ในประเทศหรือในโลกแล้ว แต่มองไปถึงนอกโลกเลยด้วยซ้ำ เพราะจะเป็นหนึ่งในกลไกในการพัฒนาอุตสาหกรรมภาคพื้นที่มีความแข็งแกร่งส่งผ่านไปยังอุตสาหกรรมอวกาศได้

แบงก์มอง ASEAN ยังมาเหนือ

ยังคงมีอีกหลายประเด็นที่ต้องจับตามองกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งในสถานการณ์โลกและภายในประเทศ ที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจและการค้า โดยมุมมองของ อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ระบุว่า