โกหก...บิดเบือน...ด้อยค่า หมดเวลากันแล้วหรือยัง

     ประเทศไทยติดกับดักความขัดแย้งมาเกือบจะสองทศวรรษแล้ว ทั้งนี้เพราะนักการเมืองบางพรรค บางกลุ่ม บางคนกระหายอำนาจ ต้องการเข้ามาบริหารประเทศ เป้าหมายไม่ใช่การเข้ามาทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน แต่เพื่อเข้ามากอบโกยผลประโยชน์เพื่อตนเองและพวกพ้องด้วยการโกงบ้านโกงเมืองสารพัดรูปแบบ ทั้งการคอร์รัปชันเชิงนโยบาย การทำโครงการที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน การแสวงหาเงินทอนจากโครงการต่างๆ โดยมีลิ่วล้อที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนทำหน้าที่เป็นผีโม่แป้ง หรืออาจจะเรียกว่าทำหน้าที่พายเรือให้โจรนั่ง ทำตามคำสั่งของคนที่ใช้อำนาจทางการเมืองและทางการเงิน

เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ไม่แยกแยะผิดชอบชั่วดี ไม่คิดถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดกับประเทศชาติและประชาชน ขอเพียงแต่ตนเองได้รับผลประโยชน์ในรูปแบบของตำแหน่ง อำนาจ และทรัพย์ศฤงคาร พวกเขาจะทำทุกอย่างในการทำลายฝ่ายตรงกันข้ามที่อยู่ในอำนาจ หวังที่จะโค่นล้มเพื่อให้ฝ่ายของตนได้อำนาจในการบริหารบ้านเมือง

     วิธีการของเขามีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยข่าวที่ไม่เป็นความจริงเพื่อกล่าวหานายกรัฐมนตรี บางครั้งก็มีการบิดเบือนความจริงด้วยการพูดความจริงไม่หมด บางครั้งก็สร้างวาทกรรมด้อยค่าตัวนายกรัฐมนตรี การทำงานของนายกรัฐมนตรี การทำงานของรัฐบาล หลายอย่างที่พวกเขาพูดนั้นไม่ตรงกับความเป็นจริงเชิงประจักษ์ พวกเขาก็ไม่มีความละอายที่จะพูด เวลาที่มีคนเอาความจริงมาแย้ง พวกเขาก็จะไม่เคยแสดงความรับผิดชอบใดๆ ไม่เคยออกมาแสดงความเสียใจ หรือขอโทษที่ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องกับประชาชน

     นอกเหนือจากการใช้ข่าวสารและวาทกรรมในการด้อยค่านายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่มีผลกระทบไปถึงประเทศชาติโดยรวมแล้ว พวกเขายังใช้กระบวนการทางกฎหมายในการจะเล่นงานนายกรัฐมนตรีให้หลุดจากเก้าอี้ให้ได้ โดยหวังว่าถ้าหากพวกเขาใช้กระบวนการทางกฎหมายสำเร็จ นายกรัฐมนตรีจะต้องตกจากเก้าอี้ แล้วมีการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ จัดตั้งรัฐบาลใหม่ ที่พวกเขาหวังว่าจะเป็นพวกเขาที่จะได้เข้ามาเป็นผู้มีอำนาจแทน ไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะมีการกระทำใดๆ ที่อาจจะผิดกฎหมาย พวกเขาก็จะยื่นตีความครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ว่าจะเป็นการถวายสัตย์ฯ การอยู่บ้านหลวง การเป็นข้าราชการอื่นของรัฐ และการดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปี แต่นายกรัฐมนตรีก็รอดมาได้ทุกครั้ง จนกระทั่งพวกเขาพูดจาหมิ่นศาล หาว่าเลี่ยงบาลีในการตีความกฎหมาย ใช้วาทกรรมในการหมิ่นและไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมของไทย ทุกครั้งที่มีการเปิดสภา พวกเขาจะต้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ทั้งที่มีการลงคะแนนและไม่มีการลงคะแนน แต่ละครั้งก็จะบอกว่ามีหมัดเด็ดที่จะจัดการเด็ดหัวนายกรัฐมนตรีได้ แต่แล้วประชาชนที่ติดตามการอภิปรายแต่ละครั้งก็ต้องผิดหวัง เพราะการอภิปรายไม่มีหมัดเด็ดอะไรที่จะทำให้นายกรัฐมนตรีตกเก้าอี้ การอภิปรายแต่ละครั้งจึงกลายเป็นการหลอกด่านายกรัฐมนตรีออกอากาศทางโทรทัศน์เสียมากกว่า แม้แต่การเปิดสภาครั้งสุดท้ายนี้ที่ไม่อาจจะมีการลงคะแนนไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีได้แล้ว พวกเขาก็ยังไม่ลดละที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงคะแนนอีก ก็คงหวังที่จะด่าและด้อยค่านายกรัฐมนตรีให้ประชาชนฟัง เพื่อตัดคะแนนนิยมนายกรัฐมนตรีที่มีผลงานเด่นชัด

     บัดนี้น่าจะถึงเวลาที่พวกเราคนไทยทุกฝ่ายหันหน้ามาช่วยกันฟื้นฟูประเทศ หลังจากที่เราเผชิญกับวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มาเป็นเวลาเกือบ 3 ปี บัดนี้ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เบาบางลงแล้ว เพราะความร่วมมือกันหลายฝ่าย ทั้งรัฐบาล เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้ประกอบการ และประชาชน จนเราสามารถเปิดประเทศรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้แล้ว และรัฐบาลก็มีนโยบายในการจะฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ การแซะแขวะด่าด้อยค่านายกรัฐมนตรีและการทำงานของรัฐบาลควรจะยุติได้แล้ว เพราะเรารับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จนเป็นที่ยอมรับของชาวโลก และองค์การอนามัยโลกก็ยกย่องและเชิญชวนให้ประเทศต่างๆ เรียนรู้ประสบการณ์ของประเทศไทยในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการดูแลรักษาคนที่ติดเชื้อ การที่ฝ่ายตรงกันข้ามกล่าวหาว่ารัฐบาลจัดการแก้ปัญหาไวรัสโควิด-19 ได้แย่มาก เป็นเรื่องที่สวนกับความเป็นจริงที่ฝ่ายตรงกันข้ามกับรัฐบาลไม่ควรจะพูดอีกต่อไป

ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศนั้น บัดนี้เป็นที่ประจักษ์อย่างชัดเจนแล้วว่า การฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้นเป็นยุทธศาสตร์ที่ถูกต้อง รัฐบาลมาถูกทางแล้ว บัดนี้นักท่องเที่ยวมาเป็นจำนวนมากแล้ว สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยมหาศาล ธุรกิจหลายอย่างกำลังฟื้นตัว ปีนี้และปีหน้าเราจะได้เห็น GDP ของประเทศเติบโตแน่ๆ ขณะเดียวกันการส่งออกก็โตขึ้นแล้ว การลงทุนจากต่างประเทศก็เติบโตขึ้น เราจัดการกับปัญหาเงินเฟ้อได้ดีกว่าหลายๆ ประเทศในโลก ตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจของเรา ทั้งเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ปริมาณทองคำของไทยเราอยู่ในระดับต้นๆ ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของ ASEAN ในหลายๆ เรื่อง ทั้งหมดนี้ทำให้เห็นได้ว่าสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นขาขึ้นชัดเจนแล้ว สิ่งที่ยังน่าเป็นห่วงก็คือเรื่องราคาพลังงานเพราะสงครามรัสเซีย-ยูเครน และกลุ่มประเทศ OPEC ประกาศจะลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงอีก เรื่องนี้น่าจะส่งผลทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นแน่ๆ และจะส่งผลต่อราคาสินค้าที่จะแพงขึ้น

ในขณะที่หลายสิ่งหลายอย่างกำลังไปได้ดี สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือความแตกแยกของคนไทยที่นำโดยพรรคการเมืองบางพรรคที่กระหายอำนาจ ตั้งหน้าตั้งตาด้อยค่าการทำงานของรัฐบาลสวนกับความจริงเชิงประจักษ์ บัดนี้ทิศทางของประเทศกำลังไปได้ดี หยุดแซะแขวะด่าและด้อยค่านายกรัฐมนตรี รัฐบาลและประเทศชาติ หันมาช่วยกันฟื้นฟูประเทศชาติกันเถิดนะคะ...ขอร้องค่ะ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลัคนาธนูกับเค้าโครงชีวิตปี 2568

ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการเปลี่ยนแปลงใหญ่สุขภาพอนามัย-หนี้สิน-ลูกน้องบริวาร และเกือบตลอดปีผู้หลักผู้ใหญ่อวยสถานะ-ยศ-เงินทองให้ แต่มีช่วงซ้อมรับทุกข์และการได้ความผิดที่ไม่ได้ก่อ

เด็กฝึกงาน...ไม่ผ่านโปร

ฉากทัศน์ทางการเมืองของประเทศไทยหลังจากรู้ผลของการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เป็นภาพที่สร้างความกังวลให้กับคนไทยจำนวนมากที่ไม่ได้เลือกพรรคส้มหรือพรรคแดง

'ความเป็นไทย' กับกรณีน้ำท่วมภาคเหนือ-ภาคใต้

ถึงแม้จะก่อเกิด ถือกำเนิด ที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี...แต่ด้วยเหตุเพราะไปเติบโตที่ภาคใต้ ไม่ว่าเริ่มตั้งแต่อำเภอทุ่งสง จังหวัดหน่ะคอนซี้ทำหมะร่าด ไปจนอำเภอกันตัง

ได้ฤกษ์ 'นายพล' ล็อต 2

ผ่านเดดไลน์ตามคำสั่ง ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ทุกหน่วยส่งบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น

'ดร.เสรี' กรีดเหวอะ! ใครมีลูกสาวเก่งพอที่จะเป็นนายกฯ ต้องบอกลูกให้มีผัว 9 คนอยู่ใน 9 ภาค

ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสารโพสต์เฟซบุ๊กว่า ใครมีลูกสาวที่เก่งพอที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ต้องบอกลูกนะคะ