อยู่กรุงเทพฯ ไม่ได้ปะหน้ามาจะสิบปี!
วันดี-คืนดี..ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผมได้เจอเกลอ “นักปราชญ์” คุณอภิชาติ ดำดี แบบไม่ได้นัดหมาย ก็ให้รู้สึกดีใจตามประสาคนรักใคร่ถูกคอ!
หลังสวมกอด-ทักทายแบบไม่เกรงใจโคบ้า การสนทนาภาษาใต้ก็ได้เริ่มขึ้นบนโต๊ะข้าวที่ได้รับความเอื้อเฟื้ออาหารทะเลกุ้ง หอย ปู ปลา จาก “โกเด๊ะ” คุณพรัญชัย อดิเทพวรพันธ์..
น้องชายผู้มากน้ำใจ ดูแลอาหารการกินชนิด..เลี้ยงคนไม่ได้ดูกำลัง!
“ผอมลงนะอาจารย์” ผมทักด้วยห่วงใย.. “เป็นเบาหวานเกือบตาย” คุณอภิชาติยิ้มว่า ก่อนจะเล่าเรื่องราวชีวิตหลังไม่ได้พบหน้าค่าตากันมาร่วมทศวรรษ
ก็ได้รู้.. หลังจากได้เป็น “สมาชิกวุฒิสภา” ที่มาจากการเลือกตั้งอยู่ได้แค่ 22 วัน เพราะถูก คสช.ยึดอำนาจ คุณอภิชาติก็ไม่ได้ข้องแวะกับแวดวงการเมืองเลย
แต่ได้หันไปทำรายการทีวีบ้าง-วิทยุบ้าง พร้อมๆ ไปกับรับเป็นวิทยากร และเขียนบทกวี จนเมื่อโควิด-19 อาละวาดไปทั่วโลก ประกอบอาการเบาหวานกำเริบขั้นหนักหน่วง..
จึงเลยเก็บตัวอยู่กับบ้าน เป็น “กบจำศีล” ไปเลย 2-3 ปี ว่างั้น!
และที่ได้เจอกันที่นครศรีฯ คุณอภิชาติบอกว่า เป็นการออกงานครั้งแรกในรอบ 2 ปี เพื่อทำหน้าที่กรรมการตัดสินการประกวดสุนทรพจน์นักเรียนทั่วประเทศ..
ในงานมหกรรมการจัดการศึกษาท้องถิ่นประจำปี 2565 ที่จัดแข่งขันขึ้นที่ อ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราช!
ไม่ได้ตัดสินคนเดียว แต่ได้ร่วมกับอาจารย์พะเยาว์ พัฒนพงศ์ และอาจารย์กรรณิกา ธรรมเกษร ที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย
นี่..ผมก็เพิ่งได้รู้ว่าอาจารย์พะเยาว์ท่านเป็นคนอำเภอทุ่งสงโดยแท้ และก็ได้เห็นว่าอาจารย์กรรณิกา ท่านยังคงสวย-สง่าอย่างน่าทึ่ง!
ก่อนไปทุ่งสง-นครศรีฯ คุณอภิชาติเล่าว่า เพิ่งไปเข้ารับรางวัล “รองชนะเลิศ” ประเภทบทกวี ในการประกวดวรรณกรรมรางวัล “พานแว่นฟ้า”ประจำปี 2565 จากผลงาน “เธอกับฉันนั้นคือเรา” ที่รัฐสภา
ซึ่งรางวัล “พานแว่นฟ้า” นี้ ก่อเกิดขึ้นมาด้วยจุดประสงค์ เพื่อสร้างสรรค์วรรณกรรมการเมือง เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2545 ตอนรัฐสภาครบ 70 ปี
ปีแรกๆ มีแต่ “ประกวดเรื่องสั้น” ต่อมาได้เพิ่มรางวัล “บทกวี” ขึ้น โดยจัดติดต่อมาทุกปี มาเว้นวรรคเอาในปี 57 ช่วง “เราจะคืนความสุขให้ประชาชน” นั่นแหละ!
อย่างไรก็ตาม ปี 58 รางวัลพานแว่นฟ้าก็กลับมาจัด-แจกอีกครั้ง ซึ่งนับเป็นรางวัลเกียรติยศที่ผู้ที่ได้รับมีความภาคภูมิใจ เพราะมีผู้เชี่ยวชาญกว่า 200 ท่าน หมุนเวียนกันมาเป็นกรรมการตัดสิน..
ทั้งผลงานนิยาย บทกวี เรื่องสั้น บทความที่ได้รับรางวัล ต้องถือว่า “งานชั้นครู” เลยทีเดียวเชียว!
“เดี๋ยวกลับกรุงเทพฯ ผมจะส่งเธอกับฉันนั้นคือเราไปให้สันต์ฯ พิจารณา” คุณอภิชาติว่า และไม่ได้ผิดสัญญา วานซืนผมได้รับหนังสือเป็นที่เรียบร้อย
อ่านคนเดียวก็เกรงใจท่านผู้อ่าน..ถ้างั้น ขออนุญาตหยิบเอาบทกวีรองชนะเลิศ “เธอกับฉันนั้นคือเรา” มาให้ได้ลองทัศนากันสัก 4-5 บทเท่าที่เนื้อที่จะอำนวย เชิญ..
0 ในรั้วบ้าน-ร้านกาแฟ-แคร่ไม้ไผ่ กลางเมืองใหญ่-ในเถียงนา-ริมป่าเขา ทั้งโลกจริง-โลกเสมือน ล้วนเพื่อนเรา ในร่มเงาของประชาธิปไตย
0 ในวันคืนตื่นหลับเธอกับฉัน ต่างก็มีคืนวันให้ฝันใฝ่ ต่างคน-ต่างความคิด-ต่างจิตใจ ต่างเชื่อในความดีวิถีประชา
0 โลกเสมือน-เสมือนอย่าง เมืองร้างมิตร ต่างความคิดระดมด่าปานฆ่าเข่น จัดทัวร์ลงรุมล้อมไล่คอมเม้นท์ บล็อก-อันเฟรนด์ สรุปจบเลิกคบกัน
0 มองข้ามความเป็นมนุษย์กันสุดขีด เหมือนจิ้งหรีดจู่กระโจนเมื่อโดนปั่น เพียงคิดต่างก็ประกาศเข้าฟาดฟัน รอยร้าวเธอกับฉันใครบรรเทา
0 ถ้าทุกฝ่ายเฉลี่ยใจไม่สุดโต่ง ย่อมจรรโลงโลกได้ทั้งใหม่-เก่า ถ้าเธอ-ฉันไม่เห็น “ความเป็นเรา” แก่น-รากเหง้าสังคมคงล้มครืน
ขอบคุณครับ..อาจารย์ (ดำ)!
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขึ้นอยู่กับ“กรรม”แต่ละคน!
84 วันฝันร้าย! สุดท้าย คดีดิไอคอนกรุ๊ป อัยการฝ่ายคดีพิเศษมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง “บอสแซม” คุณยุรนันทร์ ภมรมนตรี กับ “บอสมิน” คุณพีชญา วัฒนามนตรี ทุกข้อหา..
อหังการ-ขี้โม้เป็นนิสัย
เกิดอะไรขึ้น? เพื่อนคนหนึ่งถามผมหลังเห็นข้อความที่ “เสก โลโซ” โพสต์.. “ประกาศจากพี่เสก โลโซ เรื่องลิขสิทธิ์เพลงที่นักดนตรีประจำสามารถนำเพลงไปร้องได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์
เก็บเชือกไว้ใช้เองเถอะ
“เส้นกูใหญ่.. ใครก็ทำกูไม่ได้ ใครก็เอากูไม่ลง เพราะกูใหญ่ ใหญ่ยิ่งกว่านายพล ใหญ่กว่านายกรัฐมนตรี ใหญ่กว่า... ใหญ่กว่าทั้งหมด กูแบ็กดี
คิดถึงนักรบลุง
กองเชียร์ กองหนุน กองรักลุงตู่.. มีใครพอจะทราบไหมว่า ตั้งแต่ปีเก่าจนลุเข้าปี 2568 บุคคล 2 ท่าน คุณแรมโบ้ คุณอ้น ทิพานัน ที่เคยร่วมรบเคียงบ่า-เคียงไหล่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หายหน้า-หายตาไปไหน?
เรื่องเล่าที่ชวนขนลุก
เห็นตัวเลขแล้วตาลาย.. งั้นสรุปเอาจากข่าวโปรย “ผู้จัดการออนไลน์” ก็แล้วกัน.. “ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘นายกฯ แพทองธาร’ พร้อมสามี มั่งคั่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน
นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร?
ก่อนจะสิ้นปี.. นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต บิดานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ผู้นอบน้อมถ่อมตน (ยามอยู่ไกลบ้าน)..จะกลับมาเลี้ยงหลาน เลิกข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับการเมือง..