สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า'บิ๊กตู่'ไปต่อ-ไม่ไปต่อ!!!

    ขณะที่เขียนต้นฉบับชิ้นนี้...ยังไม่รู้ว่า ท่าน ป.ประยุทธ์ ท่านจะได้ ไปต่อ-ไม่ไปต่อ หรือไม่? อย่างไร? เพราะแม้ว่าต้นฉบับชิ้นนี้จะออกวันอาทิตย์ หลังจากศาลรัฐธรรมนูญท่านได้ชี้ขาด ชะตากรรม ของนายกรัฐมนตรีไปแล้วถึง 2 วัน แต่จังหวะที่ลงมือเขียน ลงมือปั่นต้นฉบับ คงต้องขึ้นอยู่กับช่วงแห่งการพักฟื้นเรี่ยวแรง กำลังวังชา ตามประสาผู้ที่อยู่ในวัย ไม้ใกล้ฝั่ง เต็มที หรือได้จังหวะปั่นเอาไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ดึกดื่น คืนวันพฤหัสฯ โน่นเลย...

    ดังนั้น...โอกาสที่จะรับรู้เรื่องใหญ่-เรื่องโต เรื่องที่จัดอยู่ในระดับ คอขาดบาดตาย ของบรรดาทวยไทยทั้งหลาย จึงคงมิอาจคาดเดาและสรุปได้อย่างถนัดชัดเจน เหลือแต่ต้องคอยตะแคงหูฟัง บรรดาท่านผู้เชี่ยวชาญ ผู้เชี่ยวชำนาญเรื่อง การเมือง

อย่างเช่น ป๋าเปลว สีเงิน ของหมู่เฮาอะไรประมาณนั้น ที่ถึงกับรับประกัน การันตีล่วงหน้า ว่า ลุงตู่ชัวร์ 99.99 เปอร์เซ็นต์ เอาเลยถึงขั้นนั้น ส่วนอีก 0.1 เปอร์เซ็นต์ จะออกซ้าย-ออกขวา จะพลิกหน้า-พลิกหลัง หรือไม่? อย่างไร? ป่านนี้...ท่านทั้งหลาย คงพอได้รับรู้ รับทราบ กันไปเป็นที่เรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว...

    แต่โดยถ้าว่าถึงการ ฟันธง และ ฟันเฟิร์ม ของ ป๋าเปลว สีเงิน เอาไว้ก่อนล่วงหน้า ที่ถึงกับ ชัวร์ป้าด หรือชัวร์โดยไม่ได้คิดจะมั่วนิ่ม ถึง 80-90 เปอร์เซ็นต์เอาเลยถึงขั้นนั้น ถ้าว่ากันตามภาษา สมิงขาว (เซียนมวย) ต้องเรียกว่า...เป็นอะไรที่ น่ารอง เป็นอย่างยิ่ง!!! คือประมาณเจอกับราคาต่อรองแบบ 100 บาทเอาอุจจาระสุนัขกองเดียว ทำนองนั้น แต่เสียดายเท่าที่คบหาสมาคมกันมานาน ดูเหมือน... ป๋าเปลว ท่านดูจะไม่ค่อยสนใจเรื่องการ เดิมพัน การพนันขันต่อมากมายซักเท่าไหร่ ต่างไปจากคุณพี่ ประกิต หลิมสกุล แห่งไทยรัฐ ผู้มีฉายานามว่าคุณพี่ กิเลน ประลองเชิง ที่อันตัวข้าพเจ้าเองเคย โดดใส่ มาแล้ว และสามารถ -กเรียบ คือสามารถ ชนะเดิมพัน ได้รับประทานอาหารอิตาลีฟรีๆ หนึ่งโต๊ะ หนึ่งมื้อ โดยมีสิทธิเชื้อเชิญตัวประกอบอดทนทั้งหลาย ไปร่วมรับประทานได้อย่างเต็มที่ เต็มสูบ เต็มกระเพาะ...

    คือช่วงนั้น...คุณพี่ ประกิต ท่านค่อนข้างชัวร์ป้าด หรือชัวร์โดยไม่ได้คิดจะมั่วนิ่ม คล้ายๆ ป๋าเปลว สีเงิน ของหมู่เฮาในทุกวันนี้ หรือทุกวินาทีนี้นั่นแหละ ชัวร์ว่าท่านอดีตนายกฯ ทักษิณ น่าจะสามารถอยู่ต่อ อยู่ยาวว์ว์ว์ โดยไม่น่าจะมีทวยทหารรายใด กล้า หรือ บังอาจ ที่จะกระทำการ ปฏิวัติรัฐประหาร คิดโค่นล้มอำนาจโดยเด็ดขาด!!! แต่ในเมื่อมันยังหลงเหลือความเป็นไปได้อยู่อีกประมาณ 0.1 เปอร์เซ็นต์ การเดิมพันด้วยภารกิจที่ต้องแบกรับภาระเป็น เจ้าภาพ เลี้ยงอาหารอิตาลีหนึ่งมื้อ หนึ่งโต๊ะ ถ้าใครต้องตกเป็นฝ่ายแพ้ จึงทำให้คุณพี่ ประกิต จำต้องยอมรับสภาพ หอบเอาใครก็ไม่รู้มานั่งหัวโต๊ะคอยจ่ายบิลค่าอาหารอิตาลีมื้อใหญ่ มื้อโต โดยมีอันตัวข้าพเจ้าเอง และมิตรสหายผู้ใกล้ชิด อย่างคุณพี่ อำนวย สันติอโศก นั่งจ้วง นั่งรับประทาน อาหารมื้อนั้น อย่างสุดแสนจะเมามันซ์ซ์ซ์...

    อย่างไรก็ตาม...สำหรับกรณีท่านนายกฯ บิ๊กตู่ หรือ ลุงตู่ ของใครต่อใครก็แล้วแต่ ท่านจะ ไปต่อ-ไม่ไปต่อ หรือไม่? อย่างไร? คงไม่ใช่สาระสำคัญที่จะต้องหยิบยกมาพูดถึงไว้ ณ ที่นี้ หรือคงต้องปล่อยให้เป็นเรื่อง ชะตากรรม ไม่ก็เป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญท่านจะวินิจฉัย ชี้ขาด ไปตามตัวบท กฎหมาย แต่ท่ามกลางความคิดเห็น ที่ย่อมต้องผิดแผก แตกต่าง กันไปตามสภาพ ไม่ว่าตั้งแต่ปุถุชน คนธรรมดา ไปถึงนักกฎหมง กฎหมาย โน่นเลย เผอิญได้มีโอกาสไปอ่านข้อคิด ข้อเขียนของคุณน้อง สุรวิชช์ วีรวรรณ คอลัมนิสต์ของสำนักข่าว ผู้จัดการ เขา ว่าด้วยเรื่อง ฟันธงว่าประยุทธ์จะได้ไปต่อ ซึ่งไม่ว่าจะถูก-จะผิด จะเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย คงไม่อยากหยิบเอามา ปรุงแต่ง อะไรกันมากมาย แต่โดยรวมๆ แล้ว...คงต้องยอมรับว่าโดยทัศนคติ โดยจุดยืน จุดนั่ง ของท่าน ค่อนข้างออกมาในแนว กลางๆ อันเป็นสิ่งที่ออกจะสำมะคัญเอามากๆ สำหรับบรรยากาศบ้านเมือง โดยเฉพาะในช่วง ระยะเปลี่ยนผ่าน หรือช่วงระยะนับจากนี้...

    คือคุณน้อง สุรวิชช์ นั้น...เดิมทีท่านดูจะออกไปทางพวก ติสท์ๆ หรือพวก ศิลปิน อะไรประมาณนั้น หรือน่าจะเป็นประเภทวูบๆ-ไหวๆ แต่งกลอนก็เป็น จัดหน้า จัดรูปเล่ม ให้เป็นไปตามศิลปะ ศิลปิน แถมไว้ผมยาว ใส่รองเท้ายาง มาตั้งแต่เริ่มแรก แต่ครั้นเมื่อท่านยกระดับขึ้นมาเป็นนักข่าว นักเขียนและนักคิด กลับเป็นอะไรที่ค่อนข้างหนักแน่น มั่นคง ไม่ค่อยซัด ไม่ค่อยส่าย ไปตาม อารมณ์-ความรู้สึก ไม่ว่าจะรัก-โกรธ-เกลียด-โลภ-หลง ใครต่อใครไปตามสภาพ เรียกว่า...ถึงยังไว้ผมยาวชนิดยาวเฟื้อย เลื้อยลากดิน แต่เวลา ใส่สูท ก็ออกจะเข้าท่า เข้าทาง มิใช่น้อย แถมยังพยายามเพิ่มพูนวิชา ความรู้ ด้วยการไปเรียน วปอ.-วปร. อะไรต่อมิอะไรก็จำไม่ได้ถนัดชัดเจน แต่การที่ท่านออกมาในแนว กลางๆ อันนี้นี่เอง...ที่ต้องถือเป็น ประโยชน์ เอามากๆ...

    เพราะช่วงระหว่างนี้....ไม่ว่าจะในระดับโลก หรือระดับสังคมไทย ก็แล้วแต่ ทุกสิ่งทุกอย่างดูๆ มันจะออกไปทาง สุดขั้ว หรือ สุดสวิง ยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ จนบรรดา ความไม่ปกติ ทั้งหลาย แทบกลายเป็น ความปกติ ไปแล้วก็ว่าได้ ดังนั้น...อะไรก็ตามที่ออกไปในแนว กลางๆ หรือแนว มัชฌิมาปฏิปทา ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านถือเป็นทางออก ทางไป ในแทบทุกเรื่องทุกราว ย่อมถือเป็นสิ่งสำคัญเอามากๆ ไม่ว่าสำหรับส่วนตัว หรือส่วนรวม สำหรับปัจเจกบุคคล หรือกระทั่งชาติ บ้านเมืองที่กำลังก้าวเข้าสู่ ระยะเปลี่ยนผ่าน โดยยังมิอาจคาดคำนวณได้ชัดเจน ว่าอะไรตึงไป??? หรือหย่อนไป???.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ความจริง”เครื่องมือชิ้นสุดท้ายในห้วง“กลียุค”

นอกจากคนอินตะระเดียยุคโบร่ำโบราณ...ท่านจะแบ่งห้วงเวลาของแต่ละยุค ออกเป็น 4 ช่วง 4 ระยะ เริ่มจาก กฤตยายุค หรือ สัตตยายุค ที่บรรดาความดี-ความงาม-ความจริง ต่างมีอยู่ครบถ้วนสมบูรณ์ไปทั้ง 4 ส่วน

มติ 'ก.พ.ค.ตร.'

มีสัญญาณให้จับตา ต้นเดือนสิงหาที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วัน ปมปัญหาเรื่องสถานะ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ภายหลังจากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)

อริยสัจ 4...หลักการดีที่ควรใช้

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผู้คนนับถือศาสนาพุทธมากกว่า 92% และในคำสอนของศาสนาพุธก็มีอริยสัจ 4 เป็นหลักที่ใช้ในการแก้ปัญหาที่ยุ่งเหยิงไปสู่ความสงบ

โชคดี...ที่ตายก่อน!!!

เห็นข่าวคราวว่าด้วย หลานสาว ชาวไทยรายหนึ่ง...ซึ่งน่าจะเป็นปุถุชนคนธรรมดา ไม่ได้โดดเด่น โด่งดัง ใดๆ มาก่อนเลย แต่เมื่อเธอโพสต์คลิปวิดีโอ โดยตัวเธอเองนั่ง