นอกเสียจาก..หนูไม่ผิด

พี่คนดี (กวีสมัครเล่น) น่ะ แค่ตบปาก!

แต่..คุณสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษา ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎรนั้น..

ต้องบอกว่า “แสบถึงทรวงกว่า”!

 เพราะวานซืนเดินทางไปที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อร้องขอให้ตรวจสอบดำเนินการหาข้อเท็จจริงและคดีตามกระบวนการกฎหมาย

การกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มาตรา 114 และ 115 ของนักร้องจำนวน 4 คน ที่ได้ร่วมกันแสดงคอนเสิร์ต “สี่แยกปากหวาน” เมื่อ 17-18 กันยา.ที่ผ่านมา

ซึ่งนักร้อง 4 คนที่ว่า ประกอบด้วย คุณอ๊อฟ-ปองศักดิ์ รัตนพงษ์, คุณว่าน-ธนกฤต พานิชวิทย์, คุณป๊อป- ปองกูล สืบซึ้ง และคุณโอ๊ต-ปราโมทย์ ปาทาน

คุณสนธิญาณเผยว่า..นักร้องทั้ง 4 ท่าน ได้แต่งเพลงพิเศษจำนวน 2 เพลงในการแสดงสดวันนั้น และ นำลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์ TikTok และระบบคอมพิวเตอร์ในยูทูบ

และนำมาลงในเฟซบุ๊กบางส่วน ที่เป็นระบบสาธารณะ มีประชาชนเข้าถึงได้แบบไม่จำกัด..ในรายละเอียดของเนื้อเพลงที่แต่งขึ้นมาเป็นพิเศษจำนวน 2 เพลงนั้น

 มีข้อความแซะ ด่าทอ ใส่ร้ายด้วยความเท็จ ต่อรัฐบาล และผู้บริหารประเทศ เป็นลำดับ ตลอดเวลา ที่ไม่จริง

และ นำความจริงมาไม่หมด บิดเบือน สร้างความเสียหายวุ่นวายให้เกิดขึ้นได้ จากข้อมูลที่มีการแสดง แล้วนำมาลงในระบบคอมพิวเตอร์..

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้ เสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป!

ซึ่งก็คอยตามดูว่าทางกฎหมายจะสามารถเอาผิดนักร้องทั้ง 4 ได้หรือไม่ แต่ได้-ไม่ได้ เรื่องนี้ก็น่าจะได้เป็นอุทาหรณ์สำหรับศิลปิน-นักร้องให้ได้คิด-ตระหนัก

ว่าการแสดงคอนเสิร์ตเก็บเงิน-ขายตั๋วเพื่อความบันเทิง ถ้าเผื่อเลี่ยง-ไม่นำเอาเรื่องการเมือง อุดมคติ-ทัศนคติส่วนตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวเสียได้ก็จะเป็นการดี

ดี..ทั้งตัวนักร้องเอง และดีทั้งต่อผู้ชม-คนดู ที่จะได้ไม่รู้สึกอึดอัด ลำบากใจที่ต้องทนได้ยิน-ได้ฟังในสิ่งคิดต่าง-เห็นต่างทางการเมือง เพราะบางคนอาจจะชอบ-ศรัทธาในผลงานของนักร้อง..

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอุดมการณ์ทางการเมืองจะต้องตรงกัน-เหมือนกัน!

ฉะนั้น เพื่อความเป็นธรรม เพื่อความสบายใจของคนดูบางคนที่ยอมควักเงินสี่ซ้าห้าพันซื้อตัวแพงเข้าไปดูคอนเสิร์ต นักร้องก็ไม่ควรทำลายบรรยากาศให้เกิดความขุ่นมัว..

และไม่เพียงแต่จะทำลายบรรยากาศดีๆ.. ดี-ไม่ดีอาจจะทำลายตัวนักร้องเอาด้วยอย่างเช่นกรณีนี้ ถ้าเกิดเข้าข่ายกระทำผิดขึ้นมาจริง..

ก็จะนำมาซึ่งความเดือดร้อนให้ต้องเสียเวลา เสียโอกาส!

ดูอย่าง นายอนิวัต ประทุมถิ่น หรือ “นารา เครปกะเทย” ที่เคยโดนมาตรา 112 นั่นไง วันก่อนหลังโดนตำรวจกอง บก.ปคบ. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

บุกจับกุมในข้อหาร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 (2-ไดเฟนิลเมทิลโพโรลิดีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าตัวก็ได้ออกมาร้องไห้คร่ำครวญอ้อนวอน..

 “วันนี้ทำให้หนูรู้เลยว่า 112 ที่หนูโดน กระทบกับหนูหลายอย่างมาก หนูเลยอยากจะขอโอกาสจากผู้ใหญ่ หนูขอคุณอานนท์ กลิ่นแก้ว ท่านศรีสุวรรณ จรรยา ที่ฟ้องหนูมา

ถ้าหนูทำอะไรไม่ดี หรือทำให้หนูขัดใจท่าน หนูขอโทษไว้ ณ ที่นี้ ในวันที่หนูไลฟ์สด หรือในวันที่หนูคิดว่าผิดพลาดในสายตาผู้ใหญ่ วันที่หนูเฟียสหรืออะไรก็ตาม หนูขอโทษ ณ ที่นี้

ท่านผู้ใหญ่คนไหนที่จะทำร้ายอะไรหนูอีก หนูขอโอกาสให้หนูได้มีช่องทางในการทำมาหากิน หนูรู้สึกผิดหมดแล้วทุกอย่าง ทุกอย่างที่หนูทำไปหนูไม่เคยคิดร้ายกับใคร หนูไม่เคยคิดที่จะฆ่าใคร

ทุกเรื่องทุกราวที่หนูมีส่วนเกี่ยวข้อง หนูขอสัญญาและสาบาน หนูขอโอกาสจากพวกท่าน อย่าได้ทำอะไรให้หนู ... อีกเลย หนูขอให้ของของหนูได้กลับมาเลี้ยงชีพตัวเองต่อ..

ใครก็ตามที่สามารถทำให้หนูหลุดพ้นได้ เพราะเจตนาที่หนูทำไม่มีความตั้งใจอย่างที่เป็นหมายออกมาเลย..”

 อ่านแล้ว คงจะสะท้านสะเทือนใจหลายๆ คน แต่..ใครก็ตามไม่อาจทำให้หนูหลุดพ้นได้หรอก..

นอกเสียจาก..หนูไม่ผิด นะจ๊ะ!

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ขึ้นอยู่กับ“กรรม”แต่ละคน!

84 วันฝันร้าย! สุดท้าย คดีดิไอคอนกรุ๊ป อัยการฝ่ายคดีพิเศษมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง “บอสแซม” คุณยุรนันทร์ ภมรมนตรี กับ “บอสมิน” คุณพีชญา วัฒนามนตรี ทุกข้อหา..

อหังการ-ขี้โม้เป็นนิสัย

เกิดอะไรขึ้น? เพื่อนคนหนึ่งถามผมหลังเห็นข้อความที่ “เสก โลโซ” โพสต์.. “ประกาศจากพี่เสก โลโซ เรื่องลิขสิทธิ์เพลงที่นักดนตรีประจำสามารถนำเพลงไปร้องได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์

เก็บเชือกไว้ใช้เองเถอะ

“เส้นกูใหญ่.. ใครก็ทำกูไม่ได้ ใครก็เอากูไม่ลง เพราะกูใหญ่ ใหญ่ยิ่งกว่านายพล ใหญ่กว่านายกรัฐมนตรี ใหญ่กว่า... ใหญ่กว่าทั้งหมด กูแบ็กดี

คิดถึงนักรบลุง

กองเชียร์ กองหนุน กองรักลุงตู่.. มีใครพอจะทราบไหมว่า ตั้งแต่ปีเก่าจนลุเข้าปี 2568 บุคคล 2 ท่าน คุณแรมโบ้ คุณอ้น ทิพานัน ที่เคยร่วมรบเคียงบ่า-เคียงไหล่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หายหน้า-หายตาไปไหน?

เรื่องเล่าที่ชวนขนลุก

เห็นตัวเลขแล้วตาลาย.. งั้นสรุปเอาจากข่าวโปรย “ผู้จัดการออนไลน์” ก็แล้วกัน.. “ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘นายกฯ แพทองธาร’ พร้อมสามี มั่งคั่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน

นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร?

ก่อนจะสิ้นปี.. นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต บิดานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ผู้นอบน้อมถ่อมตน (ยามอยู่ไกลบ้าน)..จะกลับมาเลี้ยงหลาน เลิกข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับการเมือง..