ประเทศไทยประกาศเชิญชวนให้มหาอำนาจที่ขัดแย้งกันมาตั้งวงเจรจากันใน 3 เวทีระดับโลกในอาเซียนสิ้นปีนี้
คือระหว่างวันที่ 13-14 พฤศจิกายนที่พนมเปญ, กัมพูชา ซึ่งจะมีการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับคู่เจรจา ที่รวมถึงมหาอำนาจเกือบทุกประเทศ
ระหว่างวันที่ 15-16 พฤศจิกายน ที่บาหลี, อินโดนีเซีย ประชุมสุดยอดผู้นำ G-20
และ 18-19 พฤศจิกายนที่กรุงเทพฯ อันเป็นเวทีประชุมสุดยอด APEC ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
คุณดอน ปรมัตถ์วินัย ในฐานะรองนายกฯ และรัฐมนตรีต่างประเทศเชิญชวน “ผู้มีส่วนได้เสีย” ทั้งหมดให้ใช้ “โอกาสทอง” นี้มาพบปะกันที่ 3 เวทีนี้เพื่อหาทางออกจากวิกฤตโลกที่รวมถึงสงครามยูเครนและความขัดแย้งอื่นๆ ทั้งหลายทั้งปวง
เพราะเป็น “โอกาสทอง” ที่จะแก้วิกฤต
และยังยกสุภาษิตตะวันออกเรื่อง “ลงจากหลังเสือ” โดยไม่แคล้วคลาดเสียด้วย
3 เวทีใหญ่ในอาเซียนปลายปีนี้เป็นเรื่องสำคัญจริงๆ และเป็นโอกาสที่ไทยเราจะได้แสดงบทบาทระดับโลกร่วมกับเพื่อนอาเซียนของเราคืออินโดนีเซียและกัมพูชา
ผมเชื่อว่าไม่ว่าผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในวันศุกร์นี้จะออกมาในรูปไหน ไม่ว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะอยู่ในตำแหน่งผู้นำประเทศหรือไม่...ความสำคัญอยู่ที่รัฐบาลไทยจะต้องประสานงานอย่างใกล้ชิดกับประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดฯ และนายกฯ ฮุน เซน ของกัมพูชา
เพื่อให้ “โอกาสทอง” ที่ว่านี้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมที่สุด
เพราะพลาดจากจังหวะนี้ก็จะไม่มี “ความสอดคล้องโดยไม่บังเอิญ” ของการประชุมระดับโลก 3 เวทีนี้เกิดขึ้นอีกในระยะเวลาอันใกล้นี้
กระทรวงต่างประเทศไทยรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 กันยายน ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา คุณดอนขึ้นกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 77 โดยกล่าวถึงเวทีสำคัญ 3 เวทีที่จะมีขี้นในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤศจิกายน ประกอบด้วย
หนึ่ง พนมเปญ ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน
สอง บาหลี ในช่วงการประชุม G20
และสาม กรุงเทพมหานคร ในช่วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก
ว่าเป็นโอกาสแรกและโอกาสทองให้แก่ “ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย” ทั้งหมดของวิกฤตยูเครนได้มารวมตัวกัน
คุณดอนได้ยกคำกล่าวในช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านั้นของนายโจเซฟ บอร์เรล ผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคงที่ระบุว่า
อย่ามองข้ามความเป็นไปได้ของการใช้อาวุธนิวเคลียร์ในวิกฤตยูเครน
“ผมอยากกล่าวถึงสุภาษิตของชาวตะวันออกเกี่ยวกับการขี่หลังสัตว์ในเชิงสันทนาการ ซึ่งผมขอใช้เสือเป็นตัวอย่างในบริบทนี้ การขี่หลังเสืออาจเป็นเรื่องที่สนุกและท้าทาย แต่คงไม่มีใครที่อยากจะสนุกกับการขี่หลังเสือนั้นต่อไปโดยไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้น คำถามที่อาจเกิดขึ้นในใจคือ เราจะลงจากหลังเสืออย่างไรให้แคล้วคลาด โดยไม่จำเป็นต้องฆ่าเสือตัวนั้น” คุณดอนกล่าว
รองนายกฯ และ รมว.กต.กล่าวว่า คำถามดังกล่าวเป็นเรื่องลำบากใจที่จะตอบ
จึงมีข้อเสนอที่ได้ประมวลจากเหตุปัจจัยทั้งปวง และไม่ได้หลุดไปจากสัจนิยมทางการเมืองระหว่างประเทศว่า
ทางออกหนึ่งที่ดูเหมือนจะสามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนก่อนสุดท้ายของปีคือ การสร้างโอกาสแรกและโอกาสทองให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดของวิกฤตยูเครนได้รวมตัวกัน ณ 3 แห่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะผู้ที่มีสิทธิ์ในการเข้าร่วมอย่างชอบธรรม
คุณดอนกล่าวว่า ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดสามารถเลือกพบกันในสถานที่ใดสถานที่หนึ่งข้างต้น หรือทั้งหมดตามแต่ความเหมาะสม เพื่อหารือทางออกที่เป็นไปได้สำหรับวิกฤตความตึงเครียดระดับโลกในยูเครน
ขณะที่สหประชาชาติ ในฐานะองค์การระหว่างประเทศที่มีบทบาทและกลไกที่เกี่ยวข้องในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของโลก สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในความพยายามหาทางออกร่วมกันของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียข้างต้น
คุณดอนกล่าวทิ้งท้ายด้วยการแสดงความหวังว่า เหล่ามหาอำนาจ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จะไม่ปล่อยให้โอกาสทองในการแก้ไขปัญหาวิกฤตยูเครนครั้งนี้ผ่านไป
ขณะที่เขียนอยู่นี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ จะยอมเปลี่ยนใจบินมาร่วมวงกับ APEC หรือไม่ยังไม่ทราบ
เพราะกระทรวงต่างประเทศไทยกำลังพยายามตื๊อให้ไบเดนแวะมากรุงเทพฯ ด้วยตัวเอง
แทนที่จะส่งรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส มาแทน
เพราะข่าวทำเนียบขาวอ้างว่าไบเดนติดงานแต่งงานของหลานสาวที่จะจัดที่ทำเนียบขาวในช่วงนั้น
โดยที่ไบเดนจะมาร่วมประชุมสุดยอด G-20 ที่บาหลี 15-16 พฤศจิกายน แต่จะไม่บินมากรุงเทพฯ สำหรับการประชุม APEC วันที่ 18-19 พฤศจิกายน
หากไบเดนไม่มากรุงเทพฯ คงจะเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้บอกผ่านรัฐมนตรีต่างประเทศ หวัง อี้ ว่าหากไม่มีเหตุสุดวิสัยจริงๆ ก็จะมาร่วมประชุม APEC ที่กรุงเทพฯ
เพราะจีนเห็นความสำคัญของบทบาท APEC สำหรับโลกและภูมิภาคนี้
มีความเป็นไปได้เช่นกันว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ก็จะมาร่วมประชุมที่กรุงเทพฯ ด้วย
หากอเมริกาส่งรองประธานาธิบดีแฮร์ริสมาแทนไบเดน ก็จะเป็นการพลาดโอกาสที่จะแสดงความจริงใจของอเมริกาในการแสวงหาทางออกจากวิกฤตสงครามยูเครน
เพราะไม่แน่ว่า สี จิ้นผิง และปูตินจะได้เจอไบเดนที่พนมเปญและบาหลีหรือไม่
ไทยต้องถือโอกาสที่ระดมสรรพกำลังและใช้กลไกทางการทูตทุกช่องทางเพื่อบรรลุเป้าหมายของการทำ “โอกาสทอง” ระดับโลกนี้ให้เกิดขึ้นให้จงได้!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ