เกิดขึ้นดับไปเป็นธรรมดา!
แต่..ที่ดูจะไม่ธรรมดา คือว่าตั้งต้นปีมา ทำไมศิลปิน ดารา นักร้อง ตลกถึงได้พากันตายจากไปเป็นว่าเล่น?
อย่างวานซืน ขณะเตรียมยกศพ “หม่อมน้อย” ผู้กำกับคนดังขึ้นสู่เมรุฌาปนกิจ วงการบันเทิงก็มาสูญเสียอดีตราชินีนักบู๊ “หม่อมหลวงสุรีวัลย์ สุริยง” ในวัย 59 ปีตามไปอีกคน
เรียกว่า “น้ำตา-ความเศร้าโศก” ไม่ต้องแห้ง-ต้องคลายกันเลยสำหรับผู้คนในวงการมายา ซึ่งก็ได้แต่ภาวนา จากนี้ไป (ยาวๆ) อย่าได้มีศิลปิน ดาราใคร-ท่านไหนมาสิ้นใจลงอีกก็แล้วกัน!
พูดถึงความตาย..ช่วง 2-3 ปีมานี้ จะด้วยเพราะกลัวหรือจะด้วยเพราะ “เชื่อหมอ” ก็สุดแท้ แต่การที่คนไทยสามารถผ่านพ้น-รอดตายจากโรคโควิด-19 มาได้ก็ถือเป็นความโชคดี
และต้องขอบคุณทั้งกับตัวเองที่ “ไม่เชื่อหมา” ทั้งกับรัฐบาล บุคลากรทางการแพทย์ที่คอยเอาใจใส่ ดูแล-รักษาเป็นอย่างดี..
กระทั่งถึงตอนนี้ก็ยังไม่ทอดทิ้ง..ป่วยจากโควิดยังรักษาฟรีเหมือนเดิม!
เวลา 2-3 ปีที่ต่อสู้กันมา ต้องยอมรับว่าคนไทยต่างได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ-เงินในกระเป๋ากันทั่วหน้า แต่ก็ได้อดทนต่อสู้-ฟันฝ่ากันมา
จนเริ่มพอจะลืมตาอ้าปากกันขึ้นมาได้บ้างตามศักยภาพของแต่ละคน และถึงขณะนี้ที่สถานการณ์โรคโควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้นทั่วโลก
รวมถึงประเทศไทย ที่ผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยกำลังรักษา ผู้ป่วยหนัก และผู้เสียชีวิตมีจำนวนลดลงต่อเนื่อง ประชาชนส่วนใหญ่มีภูมิต้านทานจากการฉีดวัคซีนครอบคลุมมากกว่า 82%
ประกอบกับบางส่วนมีภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อ ทาง ศบค.-กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ประกาศ..
ปรับโควิด-19 จากโรคร้าย เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่ 1 ตุลาคมนี้!
อย่างไรก็ตาม ในขณะสงคราม(โรค)ใกล้สงบ ก็ได้มีผู้พยายามทำตัวเป็นศาสดา-กูรู รู้ดี รู้ลึกไปเสียทุกเรื่อง ได้ออกมากระแทกกระทั้น..
ทำนอง.. “โควิดไม่ได้เป็นโรคร้ายอะไร ที่เป็นเรื่องร้ายแรงใหญ่โต ก็มาจากการสร้างกระแสผิดๆ จากการลวงโลก เพื่อผลประโยชน์ของขบวนการลวงโลกแห่งโลก
โดยมีพวกใส่เสื้อกาวน์ที่ขายตัวขายชาติทรยศต่อประชาชนเข้าผสมโรง”
ก็..ไม่ทราบว่า ภาพคนตายที่ฝังกันแทบไม่ทันในหลายประเทศตอนนั้น เป็นแค่ฉากในหนังหรือโลกความจริงกันแน่ แต่ก็เห็นมีคนบางกลุ่มพยายามเอาความตายนั้นมาสร้างฉากในประเทศไทย..
หมายมั่นจะประจานให้คนทั้งโลกเห็น.. รัฐบาลไทยไม่สามารถบริหารจัดการโควิด-19 ได้ ทำให้คนต้องตายกันเกลื่อนตามท้องถนน!
ทีตอนนั้น กูรูทำไมไม่พูด-ไม่หืออือล่ะ เพราะถ้าโคบ้าไม่ใช่โรคร้ายอะไร ก็น่าจะได้เบิ๊ดกะโหลกพวกเด็กจัญไร ที่เอาศพมาหลอกชาวบ้าน-ชาวโลกให้เข้าใจผิดซักผัวะ!
หรือเกรงด่า 3 กีบ จะโดนสวน-โดนถอนหงอก ไม่เหมือนผรุสวาทเอากับแพทย์ กับหมอ “ขายตัวขายชาติ” สาดใส่เท่าไหร่ ก็ไม่มีใครย้อนให้เจ็บ-ให้อาย?
ว่าแต่.. ด้วยความเป็นธรรม เพื่อแพทย์-หมอท่านอื่นจะได้ไม่ต้องพลอยแปดเปื้อน ถูกมองให้เป็นที่เสื่อมเสียต่อชื่อเสียง-วงศ์ตระกูล..
“พวกใส่เสื้อกาวน์ ที่ขายตัวขายชาติทรยศต่อประชาชนเข้าผสมโรงอย่างเอาจริงเอาจัง” ที่ว่านี้ น่าที่จะบอกชื่อ-สกุลเสียให้ชัดเจนเป็นใคร?
เคยได้ยินแต่นักการเมือง-นักวิชาการ-สื่อที่ “ขายตัว-ขายชาติ” ส่วนแพทย์-หมอที่อุทิศตัว-เหน็ดเหนื่อยกับการร่วมศึกสู้กับโควิด-19 มาตั้งแต่ต้น..
ไม่เกรงบาปกรรมรึ ที่ไปปรักปรำท่านเช่นนั้น?.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขึ้นอยู่กับ“กรรม”แต่ละคน!
84 วันฝันร้าย! สุดท้าย คดีดิไอคอนกรุ๊ป อัยการฝ่ายคดีพิเศษมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง “บอสแซม” คุณยุรนันทร์ ภมรมนตรี กับ “บอสมิน” คุณพีชญา วัฒนามนตรี ทุกข้อหา..
อหังการ-ขี้โม้เป็นนิสัย
เกิดอะไรขึ้น? เพื่อนคนหนึ่งถามผมหลังเห็นข้อความที่ “เสก โลโซ” โพสต์.. “ประกาศจากพี่เสก โลโซ เรื่องลิขสิทธิ์เพลงที่นักดนตรีประจำสามารถนำเพลงไปร้องได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์
เก็บเชือกไว้ใช้เองเถอะ
“เส้นกูใหญ่.. ใครก็ทำกูไม่ได้ ใครก็เอากูไม่ลง เพราะกูใหญ่ ใหญ่ยิ่งกว่านายพล ใหญ่กว่านายกรัฐมนตรี ใหญ่กว่า... ใหญ่กว่าทั้งหมด กูแบ็กดี
คิดถึงนักรบลุง
กองเชียร์ กองหนุน กองรักลุงตู่.. มีใครพอจะทราบไหมว่า ตั้งแต่ปีเก่าจนลุเข้าปี 2568 บุคคล 2 ท่าน คุณแรมโบ้ คุณอ้น ทิพานัน ที่เคยร่วมรบเคียงบ่า-เคียงไหล่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หายหน้า-หายตาไปไหน?
เรื่องเล่าที่ชวนขนลุก
เห็นตัวเลขแล้วตาลาย.. งั้นสรุปเอาจากข่าวโปรย “ผู้จัดการออนไลน์” ก็แล้วกัน.. “ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘นายกฯ แพทองธาร’ พร้อมสามี มั่งคั่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน
นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร?
ก่อนจะสิ้นปี.. นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต บิดานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ผู้นอบน้อมถ่อมตน (ยามอยู่ไกลบ้าน)..จะกลับมาเลี้ยงหลาน เลิกข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับการเมือง..