ข่าวดี-ข่าวปลอม

ในโซเชียลเต็มไปด้วยรอยยิ้มจากความสำเร็จของทีมวอลเลย์บอลสาวไทย  ที่ตบเอาชนะสาวตุรกีไป ๓ ต่อ ๒ เซ็ตแบบสุดมัน

ถือว่าเก่งทุกคนครับ

บุ๋มบิ๋ม ชัชชุอร โมกศรี , ปิยะนุช แป้นน้อย ,พรพรรณ เกิดปราชญ์ ,ทัดดาว นึกแจ้ง ,หัตถยา บำรุงสุข, อัจฉราพร คงยศ ฯลฯ

เก่งทั้งทีม

แต่ที่ฉายแววโดดเด่น ในเซ็ตสุดท้ายคือ "น้องออมสิน" ศศิภาพร จันทวิสูตร ตำแหน่งหัวเสา

ตบแต่ละที ลูกวอลเลย์บอลแทบแตก

เกมรับก็สุดยอด เหนียวหนึบ

เห็นได้ฉายาว่า "อรอุมา๒" 

ครับ...ก็เป็นความสุขที่คนไทยทุกคนได้เสพไปพร้อมๆกัน

ช่วงดึกวันเสาร์โซเชียลเปลี่ยนโหมดไล่งับเฟนิวส์กันเป็นแถว

สื่อหลังบางสื่อเอากับเขาด้วย

เล่นกันครึกโครม มีรัฐประหารที่จีน

"สี จิ้นผิง" ถูกจับ กักบริเวณ

ลือเป็นไปลามทุ่ง!

ไอ้ข่าวลือนี้แรกๆจับต้นชนปลายกันไม่ถูก ไม่มีใครรู้ว่ามาจากไหน  แต่ก็กดไลท์กดแชร์แสดงความเห็นกันอย่างกว้างขวาง

ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกว่าข่าวลือรัฐประหารจีนกลายเป็นข่าวเล็กจิ๋วหลิว แต่ข่าวใหญ่คือ ความเห็นในโซเชียลเมืองไทย

มันมีเรื่องประหลาดเกินขึ้น พวกที่ต้องการให้จีนรัฐประหารจริงๆกลับเป็นพวกที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย

เพจสามนิ้ว เพจพวกหนีคดีไปต่างประเทศแทบทุกเพจ หรืแม้กระทั่งนักวิชาเกินสีแดง เชียร์ให้เกิดรัฐประหารในจีน

พวกที่ติดตามเพจพวกนี้นะคุณเอ๊ย...อยากจีนเป็นประชาธิปไตยโดยการรัฐประหาร

กลับกันกลุ่มครบสิบนิ้ว ครบ ๓๒ ประการ เคยไม่โอ้อวดว่าตัวเองคือฝ่ายประชาธิปไตย  แถมยังถูกกระแนะกระแหนว่าเป็นพวกนิยมรัฐประหาร พากันออกมากระตุกเตือนว่านั่นมันข่าวปลอม

ไม่ได้ผลหรอกครับ พวกงับเฟกนิวส์เข้าไปแล้ว ก็เคี้ยวต่อยันวันอาทิตย์  เชื่อหัวปักหัวปำจีนจะเปลี่ยนระบอบการปกครองแล้ว

คอมมิวนิสต์จะเป็นประชาธิปไตย

เกลียดรัฐประหารในไทย ดันชอบใจข่าวปลอมจีนมีรัฐประหาร

นักวิชาการสามนิ้วบางคนถึงกับวิเคราะห์ว่าคิวต่อไปเป็น ปูติน จะมีรัฐประหารที่รัสเซียตามมา

ตรรกะป่วยอย่างแรงครับ!

เรื่องมันคงมาจาก รัฐบาลไทยมีความใกล้ชิดกับรัฐบาลรัสเซีย และจีน เป็นพิเศษ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเลยไม่ขอนับญาติ

ในโซเชียลมีกระแสเกลียดจีน เกลียดรัสเซีย มาพักใหญ่แล้ว เหตุผลไม่มีอะไรมาก นอกจากมักจะรับรองการกระทำของรัฐบาลลุงตู่แล้ว ยังถูกมองว่าเป็นเผด็จการด้วย

ก็เอามาผสมโรงกัน เกลียดรัฐบาลไทยต้องเกลียดรัฐบาลชาติที่สนับสนุนรัฐบาลไทยด้วย

มันเรื่องของความรู้สึกล้วนๆ ไม่มีเหตุผลอะไรรอบรับเลย

ถึงได้งับข่าวปลอมกันจมเขี้ยว

หลังจากตรวจสอบการเบื้องต้นแล้ว พอทราบว่าข่าวรัฐประหารในจีน มีจุดเริ่มต้นมาจากอินเดีย ที่ไม่กินเส้นกับจีนมาเป็นเวลานานแล้ว 

แนวชายแดนสองประเทศนี้ทหารใช้ก้อนหินขว้างใส่กันเป็นว่าเล่น

เพราะยังมีข้อพิพาทเรื่องดินแดนกันอยู่

สารพัดสำนักข่าวในอินเดีย เช่น เช่น อินเดียทีวี เอาท์ลุคอินเดีย โอพีอินเดีย อินเดียทูเดย์ ฯลฯ ละเลงว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ถูกกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) ก่อรัฐประหาร

                    จับตัว ประธานาธิบดีสี กักบริเวณภายในบ้านพัก ที่กรุงปักกิ่ง

แถมยังถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน

มีขบวนรถถัง และทหารเข้ามาอยู่ในสถานที่ต่างๆ ของกรุงปักกิ่ง

มีรายละเอียดถึงขั้นว่า อดีตประธานาธิบดีหู จิ่นเทา พร้อมด้วย "เหวิน เจียเป่า" อดีตนายกรัฐมนตรี โน้มน้าวให้ "ซ่ง ผิง" อดีตสมาชิกแห่งคณะกรรมาธิการกรมการเมือง (โปลิตบูโร) ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน มาเข้าร่วมด้วย ก่อนเข้าควบคุมสำนักงานกองกำลังพิทักษ์กลาง

เที่ยวบินระหว่างประเทศและภายในประเทศ ทั้งขาเข้า และขาอก จากกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน ถูกยกเลิก และกรุงปักกิ่ง ก็ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

เป็นตุเป็นตะ

ตั้งแต่คืนวันเสาร์หากใครติดตามเว็บไซต์ www.flightradar24.com  ก็จะพบว่า น่านฟ้าประเทศจีนมีเครื่องบิน บินว่อนเต็มไปหมด

คนไทยมีญาติที่เมืองจีนเช็กข่าวกันใหญ่  ไม่มีใครรู้เรื่อง

แต่สามนิ้วไทยอยากให้มีรัฐประหารที่จีย

วานนี้ (๒๕ กันยายน) มีผู้รู้หลายคนยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม

รศ.ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน แห่งสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจจีน โพสต์ในโซเชียลว่า

"ตรวจสอบให้แล้ว ข่าวปล่อยและปลอมนะคะ"

ที่จริงบรรดาผู้รักประชาธิปไตยแต่ปากในประเทศไทย น่าจะมีสติสักนิด ตรวจสอบดูว่า สำนักข่าวหลักของโลก ไม่ว่าจะเป็น รอยเตอร์ AP AFP BBC   สื่อไต้หวัน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รวมทั้งสื่อหลักในไทยส่วนใหญ่ นำเสนอข่าวนี้หรือเปล่า

ไม่มีครับ

มีแต่สื่อหิวแสงในไทยบางสื่อเท่านั้นที่งับข่าวปลอม ถูกเอาไปอ้างอิงต่อ เละเทะไปหมด

โครงสร้างอำนาจทางการเมืองของจีนมีองค์ประกอบ ๓ ประการ คือ พรรค รัฐ และกองทัพ

ผู้นำพรรคคือเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์

ผู้นำรัฐคือประธานาธิบดี

ผู้นำกองทัพคือประธานคณะกรรมาธิการทหาร

ทั้งหมดนี้ อยู่ในมือ “สีจิ้นผิง” คนเดียว

จนมีคำกล่าวว่า อำนาจของ "สีจิ้งผิง" แข็งแกร่งยิ่งกว่ากำแพงเมืองจีน

จีนมีระบอบการปกครองของเขาครับ  และจีนสร้างชาติเติบโตอย่างรวดเร็ว จนวันนี้หายใจรดต้นคออเมริกาแทบจะทุกด้าน

ไม่ต้องไปเชียร์ให้เขาเป็นประชาธิปไตยหรอกครับ แต่ละประเทศมีทางเดินของตนเอง ดูอินเดียเป็นตัวอย่าง ประเทศประชาธิปไตยใหญ่ที่สุดในโลก แต่การพัฒนาประเทศยังห่างชั้นจีน

ไทยก็เช่นกันเราเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย แม้จะทุลักทุเล แต่ก็ต้องเดินต่อ

วันที่ ๗ พฤษภาคมปีหน้า ได้เลือกตั้งแน่นอน

แต่ก็มีมาอีกแล้วครับ นักวิชาการ นักการเมืองสามนิ้ว   ไปป่าวประกาศทำนองจะมีความพยายามไม่ให้มีการเลือกตั้ง แล้วก็ด่าไปล่วงหน้าเป็นพวกใช้อำนาจมืดนอกรัฐธรรมนูญ

ต่อไปวัวก็จะกลายเป็นควายครับ.