พอประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศระดมทหารสำรอง 3 แสนคน เข้าเสริมกองทัพรัสเซียในยูเครน ผมก็เฝ้ามองว่าปฏิกิริยาจากมหาอำนาจอื่นๆ ว่าอย่างไร
ที่อยากรู้เป็นพิเศษคือ ตอนที่ปูตินเจอกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และนายกฯ นเรนทรา โมดี ของอินเดีย ที่อุซเบกิสถานเมื่อไม่กี่วันก่อนนั้น ได้คุยกันเรื่องรัสเซียเตรียมระดมพลใหม่เพื่อทำสงครามในยูเครนหรือไม่
เพราะในการพบปะนอกรอบการประชุมสุดยอด Shanghai Cooperation Organization (SCO) ที่นั่นปูตินได้คุยกันสองต่อสองกับผู้นำจีนและอินเดีย
ปูตินยอมรับกับนักข่าวว่า ทั้งสีและโมดีได้แสดง “ความกังวล” เกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน
ผู้นำรัสเซียบอกว่าเข้าใจถึงความกังวลของทั้ง 2 ผู้นำที่ถือว่าเป็นมิตรในยามยาก
และจะพยายามอธิบายให้เข้าใจว่ารัสเซียประเมินสถานการณ์ในยูเครนอย่างไร
ในจังหวะนั้น นายกฯ โมดียังบอกปูตินว่า “นี่ไม่ใช่ยุคสมัยสำหรับสงคราม” ด้วยซ้ำ
ที่ผมสงสัยมากก็คือว่า ในการพบปะพูดจากับสี จิ้นผิง และโมดีที่อุซเบกิสถานนั้นได้กระซิบให้รู้ล่วงหน้าไหมว่าเขากลับจากที่ประชุมนี้ไปถึงบ้านก็จะประกาศระดมพลเพิ่มเพื่อยกระดับการสู้รบในยูเครน
ถ้าปูตินไม่ได้บอกสีและโมดีล่วงหน้า และผู้นำจีนกับอินเดียมารู้พร้อมๆ กับชาวโลก ก็คงจะเป็นเรื่องแปลกประหลาดมากๆ
อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีของ 2 ผู้นำต่อปูติน
เพราะเท่ากับว่าปูตินตัดสินใจเสริมกำลังและทำประชามติในยูเครนโดยไม่ได้บอกกล่าวกับพันธมิตร
เรื่องระหว่างเพื่อนฝูงอย่างนี้ จะสร้างเซอร์ไพรส์กันไม่ได้
แต่หากปูตินได้กระซิบกระซาบบอกสีและโมดีล่วงหน้าว่าจะทำอะไรในยูเครนเช่นนี้ ผมก็อยากจะรู้ต่อว่าทั้งสีและโมดีมีปฏิกิริยาอย่างไร
มีการเตือนว่าอย่าทำหรือส่งเสริมหรือแสดงความเห็นไปในทางใดทางหนึ่งหรือไม่
เพราะหากสีและโมดีได้รับรู้จากปูตินว่าจะส่งทหารสำรองตั้ง 3 แสนคน เข้าไปในสนามรบที่ยูเครน ก็ย่อมแปลว่าทั้งจีนและอินเดียมีสิทธิ์ที่จะ “เพิ่มความกังวล” ต่อบทบาทของรัสเซียในยูเครนได้เช่นกัน
การตัดสินของปูตินในครั้งนี้จึงมีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับจีนและอินเดียไม่น้อยเลย
ส่วนถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ นั้นพอจะคาดการณ์ได้ว่าจะต้องซัดปูตินแน่นอน
และก็เป็นไปตามที่คาด เพราะไบเดนได้จังหวะที่ขึ้นปราศรัย ณ ที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติที่นิวยอร์กพอดี
จึงออกมากล่าวหาว่าปูตินกำลังจะละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และโลกตะวันตกจะไม่อยู่เฉยๆ แน่ๆ
ที่ทำให้นักวิเคราะห์ต้องคิดต่อคือปฏิกิริยาจากจีน
โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนออกมายืนยันว่าจุดยืนของจีนในเรื่องนี้ไม่เปลี่ยนแปลง
คือจีนต้องการเห็นคู่กรณีทุกฝ่ายในความขัดแย้งนี้หาทางออกด้วยการเจรจา มิใช่ทำสงคราม
และย้ำว่าจีนยึดมั่นในหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ, การเคารพในอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของทุกประเทศ
สื่อทางการจีนคือ Global Times รายงานพร้อมกับอ้าง “ผู้เชี่ยวชาญชาวจีน” บอกว่า
การที่ปูตินประกาศส่งทหารเข้าในยูเครนอีก 3 แสนคน และเตรียมทำ “ประชามติ” ใน 4 ภูมิภาคของยูเครนเพื่อจะผนวกให้เป็นของรัสเซียนั้น “เป็นสัญญาณที่ชัดเจนของวิกฤตยูเครนที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกลุ่มตะวันตกได้ยึดเวทีประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่กำลังดำเนินอยู่ และเปลี่ยนให้เป็นเวทีต่อต้านรัสเซีย ยังคงจุดไฟเผาอย่างต่อเนื่อง และทำให้โอกาสของการเจรจาเพื่อความสงบสุขลดลง”
สื่อจีนรายงานต่อว่า ผู้เชี่ยวชาญชาวจีนบางคนกล่าวว่า หากทั้ง 4 ภูมิภาคจัดให้มีการลงประชามติ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนจะซับซ้อนยิ่งขึ้น
และมีความเสี่ยงที่ความขัดแย้งจะทวีความรุนแรงขึ้นเป็น "สงครามเต็มรูปแบบ" ระหว่างรัสเซียและยุโรป ซึ่งอาจลุกลามออกไป
ผู้เชี่ยวชาญจีนเสริมว่า นอกจากนี้ยังอาจหมายถึงการสูญเสียโอกาสในการเจรจาสันติภาพ เนื่องจากอาจมีความแตกแยกถาวรระหว่างรัสเซียและยูเครน
“สถานการณ์ที่น่าเศร้าเช่นนี้ควรค่าแก่การไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งว่าใครเป็นผู้นำไปสู่วิกฤตที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และพวกเขาตั้งข้อสังเกตอย่างไร”
สื่อจีนอ้างคำพูดของ Zhao Huirong ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาของยุโรปตะวันออกจาก Chinese Academy of Social Sciences ว่า
“ส่วนหนึ่งของคำสั่งระดมกำลังแสดงให้เห็นว่ารัสเซียได้ปรับยุทธวิธีในการปฏิบัติการในปัจจุบันและการตอบโต้ของยูเครน เป็นการแสดงว่าความขัดแย้งได้เข้าสู่ขั้นตอนใหม่แล้ว”
“การเผชิญหน้าจะลากยาวและยืดเยื้ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายต่างกระตือรือร้นที่จะบรรลุความได้เปรียบอย่างแท้จริง และแม้กระทั่งชัยชนะในสนามรบครั้งสุดท้าย ความเป็นไปได้ของการเจรจาจึงมีโอกาสน้อยลง” จ้าวกล่าว
ในขณะที่ปูตินเตือนตะวันตกว่า เขาไม่ได้ "บลัฟ" เกี่ยวกับการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ผู้เชี่ยวชาญชาวจีนบางคนเชื่อว่านี่เป็นกลวิธีที่จะเตือนตะวันตกไม่ให้จัดหาอาวุธให้กับยูเครนมากขึ้น
“แต่ในขณะที่ความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้น ความเสี่ยงในการใช้อาวุธสังหารที่ใหญ่กว่า และแม้แต่อาวุธนิวเคลียร์ในสนามรบก็เพิ่มขึ้น และการลดความเสี่ยงนั้นจำเป็นต้องมีการเจรจาระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย โดยเฉพาะระหว่างรัสเซียและตะวันตก” ผู้เชี่ยวชาญจีนกล่าว
สื่อจีนแจ้งว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ รัสเซียเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากกองกำลังยูเครนได้ผลักดันอย่างหนักในการตอบโต้ด้วยการสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์จากตะวันตก และรัสเซียก็ถูกบังคับให้ถอนตัวจากสถานที่สำคัญบางแห่งในยูเครน
ในปัจจุบัน สหรัฐฯ และพันธมิตรหลักกำลังเปลี่ยน UNGA ที่กำลังดำเนินอยู่ให้กลายเป็นสมรภูมิทางการทูต โดยประณามการปฏิบัติการทางทหารพิเศษของปูตินในยูเครน โดยเรียกการลงประชามติที่จะเกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องหลอกลวง
ผู้เชี่ยวชาญจีนมองว่า การประชุม UNGA ที่กำลังดำเนินอยู่ ควรเป็นเวทีที่เน้นประเด็นปัญหาระดับโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ วิกฤตอาหาร และการฟื้นตัวหลังโควิด
แต่ผู้นำจากประเทศตะวันตกจำนวนหนึ่งประณามการปฏิบัติการทางทหารพิเศษของปูตินในยูเครนอย่างรุนแรง
“ประเทศที่ปฏิเสธที่จะเข้าข้างในสงครามของรัสเซียในยูเครนนั้นสมรู้ร่วมคิดกับจักรวรรดินิยมใหม่ของมอสโก” ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง บอกกับ UNGA เมื่อวันอังคาร ตามรายงานของสื่อ
เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของเขากล่าวว่า "สหรัฐฯ จะไม่มีวันยอมรับคำกล่าวอ้างของรัสเซียในส่วนที่แอบอ้างของยูเครน"
ไปๆ มาๆ ปฏิกิริยาจากโลกตะวันตกไม่มีอะไรผิดคาด
แต่ถ้อยแถลงทางการของจีนและการรายงานข่าวของจีนในเรื่องนี้น่าสนใจน่าวิเคราะห์ระหว่างบรรทัดอย่างยิ่ง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ