'อยู่' กับ 'ไป' เท่านั้นเอง

เร็วกว่าที่คิด!

ศาลรัฐธรรมนูญ ประชุมนัดพิเศษในวันพฤหัสที่ ๘ กันยายนนี้ เพื่อพิจารณาคดีวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ครบ ๘ ปี ตามมาตรา ๑๕๘ ของรัฐธรรมนูญปี ๒๕๖๐ แล้วหรือยัง

คำวินิจฉัยศาลอาจไม่ได้ระบุวันจุดเริ่มต้น หรือวันครบ ๘ ปี ในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์

แต่จะวินิจฉัยสภาพการบังคับใช้ รัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๕๘

วันที่ ๘ กันยายน หากศาลรัฐธรรมูญ พิจารณาแล้วยังมีประเด็นต้องแสวงหาหลักฐานเพิ่มเติม ก็ยังไม่มีการวินิจฉัยใดๆ

แต่หากสิ้นข้อสงสัย เพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ ก็จบในวันดังกล่าว

ประเด็นสำคัญ คือ คำชี้แจงของพยาน ๓  ปากสำคัญ ที่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว หนึ่งในนั้นคือ คำชี้แจงของ "มีชัย ฤชุพันธุ์" อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญปี ๒๕๖๐ ซึ่งถือว่ามีน้ำหนักมาก

ในคำชี้แจงของ "มีชัย ฤชุพันธุ์" ไม่มีใครทราบได้ว่าชี้แจงไปเช่นไร

แต่มีการหยิบยกคำพูดของ "มีชัย ฤชุพันธุ์" ในรายงานการประชุม คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ ๕๐๐ วันศุกร์ที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๑ มาขยายความ

ครั้งนั้น  "มีชัย ฤชุพันธุ์" กล่าวว่า..... 

"....เมื่อพิจารณาบทเฉพาะกาลมาตรา ๒๖๔ วรรคหนึ่ง บัญญัติไว้ว่า ให้คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ เป็นคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญนี้จะเข้ารับหน้าที่

และให้นำความในมาตรา ๒๖๓ วรรคสาม มาใช้บังคับแก่การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยโดยอนุโลม

การบัญญัติในลักษณะดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า แม้จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับก็สามารถนับรวมระยะเวลาดังกล่าวรวมกับระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกตามรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ ได้ ซึ่งเมื่อนับรวมระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็ต้องมีระยะเวลาไม่เกินแปดปี..."

หาก "มีชัย ฤชุพันธุ์" ยังยืนกรานความคิดเดิม  ก็ไม่เป็นคุณกับ พล.อ.ประยุทธ์

แต่รายงานการประชุมนี้ เป็นการรายงานการหารือกันในที่ประชุม โดยไม่มีการลงมติใดๆ

จะนับเป็นเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญได้หรือไม่

ขณะที่ ความมุ่งหมายและคำอธิบายประกอบรายมาตรา ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ซึ่งก็คือเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๖๐         อธิบายบทเฉพาะกาลมาตรา ๒๖๔  ไว้ว่า

 (๑) มาตรานี้บัญญัติขึ้นเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินของฝ่ายบริหารเป็นไปโดยต่อเนื่อง

 (๒) โดยที่คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้มีที่มาแตกต่างจากคณะรัฐมนตรีตามบทหลัก โดยเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๒๐ ของ            รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ การให้คณะรัฐมนตรีชุดดังกล่าวเป็นคณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญนี้ จึงต้องยกเว้นไม่นำคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามบางประการที่กำหนดไว้สำหรับ

รัฐมนตรีในบทหลักมาใช้บังคับแก่รัฐมนตรีในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ด้วย ดังต่อไปนี้

๑) คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามที่ได้กำหนดไว้ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ มาตรา ๒๐ หมายถึง

มีสัญชาติไทยโดยการเกิด มีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบปี

สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า

ไม่เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกพรรคการเมืองภายในระยะเวลาสามปีก่อนวันที่ได้รับการแต่งตั้งและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช

๒๕๕๗

ไม่เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหาร

ไม่เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้พิพากษาหรือตุลาการ อัยการ กรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรรมการตรวจเงินแผ่นดินผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หรือกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

จะเห็นได้ว่า สาระสำคัญในบทเฉพาะกาลมาตรา ๒๖๔  คือการกำหนดให้คณะรัฐมนตรีจากรัฐธรรมนูญปี ๒๕๕๗ เป็นคณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญปี ๒๕๖๐ เป็นไปตามหลักการความต่อเนื่องในการบริหารราชการแผ่นดิน

หลักการนี้นำไปวินิจฉัย ประเด็นการห้ามดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเกิน ๘ ปี ได้หรือไม่

เมื่อพิจารณาคุณสมบัติรัฐมนตรีของรัฐธรรมนูญทั้ง ๒ ฉบับที่แตกต่างกัน ในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญปี ๒๕๖๐ จึงต้องมีข้อยกเว้น

ไม่นำคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามบางประการที่กำหนดไว้สำหรับ รัฐมนตรีในบทหลักมาใช้บังคับแก่รัฐมนตรีในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ด้วย

ครับ...นี่คืออีกหนึ่งข้อกฎหมายที่อาจต้องตีความกัน เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่า ความต่อเนื่องในการบริหารราชการแผ่นดิน กับการนับความต่อเนื่องในวาระการดำรงตำแหน่งนั้น นับเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร

เพราะรัฐธรรมนูญทั้ง ๒ ฉบับระบุถึงคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามที่ต่างกัน จนต้องมีข้อยกเว้น ว่า...

ห้ามนำมาบังคับใช้!

ตุนปอบคอร์นไว้เยอะๆเลยครับ รับรองได้ลุ้นกันเหนื่อยแน่

วานนี้ (๕ กันยายน) มีสื่อใหญ่เคยติดคุกคดีไปโกงเขา จั่วหัวข่าวในเฟซบุ๊กว่า....

ด่วน!  นิพนธ์ บุญญามณี ยื่นหนังสือ เลขาธิการ ครม. ลาออก  จากตำแหน่ง ‘รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย’ แล้ว เพื่อสู้คดี ทุจริตจัดซื้อรถเอนกประสงค์  สมัย นั่ง นายก อบจ. สงขลา มีผล ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป

บรรดาแฟนคลับคอมเมนต์กันครื้นเครง

ด่าเลวบัดซบ ไม่ผิดแล้วออกทำไม หนีเหรอ แมนกว่าประยุทธ์อีก  คดีแมลงสาป คนดีย์ของสลิ่มไปอีกคนแล้ว ฯลฯ

แล้วแต่จะสรรหามาด่าครับ

ที่น่าตกใจคือ นี่คือคอมเมนต์ของผู้ติดตาม คนที่บอกว่าตัวเองคือสื่อสารมวลชน ที่ออกจากคุกจากคดีโกงก่อนกำหนด และไม่เคยขอโทษสังคมถึงความผิดที่ก่อขึ้น

คดีคอร์รัปชั่นมันร้ายแรงครับ ถ้าผู้คนในสังคมยังไม่ตระหนัก วันข้างหน้ามันมีแต่ฉิบหาย

อ่านจั่วหัวของสื่อรายนี้ หากไม่รู้รายละเอียด ทุกคนจะเชื่อตามว่า "นิพนธ์ บุญญามณี" ทุจริตจัดซื้อรถเอนกประสงค์  สมัย นั่ง นายก อบจ. สงขลา

โดยส่วนตัวไม่ได้ชื่นชอบ "นิพนธ์ บุญญามณี" เป็นพิเศษอะไรครับ  เพราะเสียงลือเสียงเล่าอ้าง จากคนสงขลา หาดใหญ่ ไม่เป็นบวกสักเท่าไหร่

แต่กรณีนี้มีความเข้าใจในข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อนกันเยอะพอควร

เพราะมันมีคดีที่ซ้อนคดีอยู่ หากไม่ทำความเข้าใจ ก็พากันเข้ารกเข้าพงได้

ก่อนอื่นต้องชื่นชมในสปิริตทางการเมืองของ "นิพนธ์ บุญญามณี" ที่ลุกจากเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยสถานะความเป็นรัฐมนตรี ในวันที่ ๑๔ กันยายนนี้  จากกรณีป.ป.ช.ชี้มูลผิดสมัยเป็นนายก อบจ.สงขลา ละเว้นไม่เบิกจ่ายเงินค่าซ่อมรถบำรุงทาง ๒ คัน ๕๐  ล้านบาท

ส่วนเรื่องทุจริตเป็นอีกกรณี

เป็นการฮั้วประมูล รถบำรุงทาง ๒ คัน ๕๐  ล้านบาท ที่่ว่านี้ โดยศาล อาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค ๙ ออกหมายจับ บริษัทที่้ร่วมฮั้วประมูลจนเจ้าของและพนักงานพากันหนีไปต่างประเทศเกือบหมดแล้ว

"นิพนธ์ บุญญามณี" ก็อ้างว่า เขาฮั้วประมูลกัน ตัวเองก็ไม่จ่าย

เรื่องคร่าวๆมันเป็นแบบนั้น

ไม่ใช่ "นิพนธ์ บุญญามณี" ไปทุจริตฮั้วประมูล

ก็จับตาดูครับ มี ๒ กรณีใหญ่รออยู่ ผลจะออกมาอย่างไรให้จบที่ศาล

อย่าจบบนถนน เพราะโรคแทรกซ้อนมันเยอะ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนึ่งในเหตุวิกฤต

ปล่อยไปไม่ได้ วันก่อน นายกฯ แพทองธาร พูดเรื่อง การจัดการพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ทำเอาโซเชียลร้อนฉ่า

จ่อคอหอย 'ทักษิณ'

สงสัยกันเยอะพอควร... พรรคเพื่อไทยกับพรรคส้ม ถล่มกันเละในสนามเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี มันของจริง หรือทะเลาะทิพย์

แบบนี้ต้องล้างคุกรอ

เสี่ยงคุกจริงๆ ครับ... วันนี้ไม่มีใครในรัฐบาลพูดเรื่องแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ๑ หมื่นบาท ผ่านระบบบล็อกเชน มีความปลอดภัยสูงสุดกันแล้ว

'ยิ่งลักษณ์' จะกลับไง

ตามที่จั่วหัวไว้เลยครับ "ยิ่งลักษณ์" จะกลับไทยด้วยวิธีไหน นิตยสาร Nikkei Asia อ้างถึงคำให้สัมภาษณ์ของ "ทักษิณ ชินวัตร" ช่วงที่ลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียงเลือกตั้ง อบจ.

ผลาญเงินแผ่นดิน

รอวันฉิบหายครับ... มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบสิ้นคิดของรัฐบาล นึกอะไรไม่ออกก็แจกเงิน ผลาญงบประมาณแผ่นดินหมดไปกับความมักง่ายของนักการเมือง