“ของแพง”ทำครัวเรือนปรับพฤติกรรมใช้จ่าย

ต้องยอมรับว่า “สถานการณ์ค่าครองชีพ” ในปัจจุบันมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจนตามทิศทางอัตราเงินเฟ้อที่เร่งขึ้น จากราคาพลังงานที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคหลายรายการเร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งปัญหาดังกล่าวได้กดดันกำลังซื้อของประชาชนอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่ยังได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลให้ครัวเรือนส่วนใหญ่ขาดรายได้ หรือมีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่ายเหมือนปกติ

แต่ในช่วงที่ผ่านมา ครัวเรือนส่วนใหญ่ก็มีการปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์เศรษฐกิจและรายได้ในปัจจุบัน โดย “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” ระบุว่า ครัวเรือนเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย หลังส่วนใหญ่มีมุมมองว่าสถานการณ์ราคาสินค้าสูงจะลากยาวไปอีกอย่างน้อย 1 ปี

แม้ราคาพลังงานจะยังอยู่ในระดับสูง แต่ปรับลดลงเล็กน้อยจากเดือน มิ.ย.2565 หนุนให้ดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนในปัจจุบัน และ 3 เดือนข้างหน้าที่สำรวจในเดือน ก.ค.2565 ปรับดีขึ้นจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 32.5 และ 34.0 จาก 30.8 และ 32.9 ในเดือน มิ.ย.2565 ได้รับปัจจัยหนุนจากระดับราคาน้ำมันที่แม้จะอยู่ในระดับสูงแต่ก็ปรับลดลงจากเดือน มิ.ย.2565 เล็กน้อย สะท้อนจากดัชนีเงินเฟ้อในหมวดพลังงานที่ลดลง 4.69% เมื่อเทียบกับรายเดือน หรือการรายงานข่าวเกี่ยวกับราคาน้ำมันเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ในเดือน ก.ค. ที่ปรับลดลงรวม 6.40 บาทต่อลิตร ทำให้ครัวเรือนมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อราคาน้ำมัน

ขณะเดียวกัน มุมมองเกี่ยวกับการจ้างงานปรับดีขึ้น อีกทั้งการทยอยผ่อนคลายมาตรการการเปิดประเทศ ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไทยเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเดือน ก.ค.2565 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามามากกว่า 1 ล้านคน ถือเป็นเดือนแรกตั้งแต่เกิดโควิด-19 ช่วยหนุนมุมมองเกี่ยวกับรายได้และการจ้างงาน และเมื่อพิจารณาถึงองค์ประกอบของดัชนี พบว่า ครัวเรือนส่วนมากยังมองว่าค่าใช้จ่ายโดยรวมสูงขึ้น ขณะที่จำนวนครัวเรือนที่กังวลเรื่องอนาคตจึงใช้จ่ายลดลงในปัจจุบัน เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” ได้สำรวจเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นเรื่องระยะเวลาและสถานการณ์ราคาสินค้าที่อยู่ในระดับสูง พบว่า ครัวเรือนส่วนใหญ่กว่า 65.6% มองว่าระดับราคาสินค้าจะอยู่ในระดับสูงไปอีกเป็นระยะเวลามากกว่า 1 ปี ขณะที่ครัวเรือนเริ่มมีการระมัดระวังการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น เมื่อเทียบกับผลสำรวจในเดือน เม.ย. โดยปัจจุบันได้เริ่มมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย ส่วนมากกว่า 27.7% มีการปรับลดการใช้จ่ายในกิจกรรมที่ไม่จำเป็นเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น เช่น กินเลี้ยงสังสรรค์ บริโภคสินค้าเดิมในปริมาณที่ลดลง และใช้สินค้าในปริมาณที่น้อยลงเพื่อให้ใช้ได้นานขึ้น

 “ปัจจัยดังกล่าวบ่งชี้ว่า การฟื้นตัวของการบริโภคในภาคครัวเรือนจะยังถูกดันจากความเชื่อมั่นที่อยู่ในระดับต่ำ และมุมมองที่ว่าสถานการณ์สินค้าราคาสูงจะยาวนาน จึงต้องระมัดระวังการใช้จ่าย”

และเมื่อมองไปในระยะข้างหน้า ภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนยังมีแนวโน้มเปราะบาง จากสถานการณ์ราคาสินค้าที่มีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง การส่งผ่านต้นทุนจากผู้ประกอบการสู่ผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น โดยครอบคลุมไปถึงอาหารและบริการ ขณะที่ราคาสินค้าและบริการต่างๆ เช่น แก๊สหุงต้ม ค่าไฟฟ้า ยังมีทิศทางปรับเพิ่มขึ้นในลักษณะขั้นบันได

 “การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวจะเข้ามาช่วยให้มุมมองเกี่ยวกับรายได้และการจ้างงานปรับดีขึ้น โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มเดินทางเข้ามามากขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 (high Season) นอกจากนี้มาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 วงเงิน 800 บาท ที่มีเป้าหมายครอบคลุม 26.5 ล้านสิทธิ ที่จะเริ่มใช้ในเดือน ก.ย.-ต.ค.2565 ก็จะเข้ามามีส่วนช่วยประคับประคองครัวเรือนได้บางส่วน”

โดยสถานการณ์ราคาที่สูงขึ้นนี้ยังไม่มีจุดสิ้นสุดในระยะอันใกล้ นอกจากเงินช่วยเหลือแล้ว ภาครัฐอาจต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างความเชื่อมั่น หรือสร้างเสริมในส่วนของรายได้และการจ้างงานเพิ่มเติมอย่างยั่งยืน.

ครองขวัญ รอดหมวน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เร่งสปีดSMEไทยด้วยนวัตกรรม

เอสเอ็มอีไทยถือเป็นกำลังสำคัญของระบบเศรษฐกิจประเทศ แต่ในขณะเดียวกันกลับต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งต้นทุนที่สูงขึ้น การแข่งขันที่รุนแรง และข้อจำกัดในการเข้าถึงเทคโนโลยีและองค์ความรู้ ซึ่ง กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ

ผนึกพลังพัฒนากำลังคน

ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก เทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็ว และการแข่งขันด้านต้นทุนที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คำถามสำคัญของอุตสาหกรรมไทยไม่ใช่เพียง “จะผลิตอย่างไรให้ได้มากขึ้น” แต่คือ “จะสร้างคนและองค์ความรู้แบบใดให้ยืนระยะในเวทีสากลได้จริง”

ปีใหม่เป้าลดอุบัติเหตุ 5%

ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ประชาชนจำนวนมากออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และมักตามมาด้วยความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุทางถนน

เมื่อสุขภาพคือความลักชัวรีแบบใหม่

ในยุคที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ทำให้เทรนด์นี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กับข้อมูลสุดอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” รับเทรนด์เศรษฐกิจอายุยืน

องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน

ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)

แรงงานคืนถิ่น:ทางเลือกที่เป็นโอกาส

‘การเคลื่อนย้ายแรงงาน’ จากภูมิลำเนาเข้าสู่จังหวัดเศรษฐกิจเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานตอนต้น ซึ่งเป็นกำลังแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา อย่างไรก็ตาม