ถ้ามาพร้อมหน้ากัน จะครึกครื้นหรือตึงเครียด?

ผมเชื่อว่า “สนุกแน่” ไม่ว่าจะออกมาในรูปไหน

หากการประชุมสุดยอด G-20 ที่บาหลีและ APEC ที่กรุงเทพฯในเดือนพฤศจิกายนนี้ได้ต้อนรับอาคันตุกะจากบรรดาประเทศที่กำลังมีข้อพิพาทระดับโลกกันอยู่ขณะนี้

ไม่ว่าจะเป็นสี จิ้นผิงจากจีน

วลาดีเมียร์ ปูตินจากรัสเซีย

โจ ไบเดนจากสหรัฐฯ

วลาดีเมียร์ เซเลนสกีจากยูเครน

และผู้นำอินเดีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์

และอย่าลืมคิมจองอึนแห่งเกาหลีเหนือด้วย (ถ้าไทยกับอินโดฯประสานมือกันสร้างประวัติศาสตร์โลก)

แน่นอนว่าผู้นำอาเซียนหลานคนก็คงจะมาปรากฏตัวในสองเวทีนี้ด้วยอย่างแน่นอน

ก่อนหน้านี้ มีข่าวจาก Wall Street Journal ว่าสี จิ้นผิงของจีนตกลงจะมาร่วมประชุมสุดยอดสองงานนี้

และเตรียมจะนัดกับไบเดนเพื่อมีโอกาสเจอกันตัวเป็น ๆ อีกด้วย

ไม่ว่าจะเป็นที่บาหลีหรือกรุงเทพฯ

ก็สร้างความตื่นเต้นได้ระดับหนึ่ง

แม้ว่าทั้งปักกิ่งและวอชิงตันจะยังไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธข่าวนี้

แต่ความน่าสนใจถูกยกระดับขึ้นทันทีเมื่อประธานาธิบดีโจโก วิโดโดให้สัมภาษณ์ Bloomberg ว่าปูตินและสี จิ้นผิงรับปากว่าจะมาร่วมประชุม G-20 ค่อนข้างแน่นอนแล้ว

ทำให้ผมเห็นภาพของความคึกคักในสองประเทศอาเซียน (อินโดฯกับไทย) ขึ้นอย่างทันที

เป็นจังหวะเวลาที่เหมาะเจาะและสำคัญยิ่ง

เรียกว่าถูกเวลา, ถูกสถานที่และถูกคน

ส่วนเอาเข้าจริง ๆ จะมาครบถ้วนหรือไม่ไม่สำคัญเท่ากับว่ามีสัญญาณจากเมืองหลวงใหญ่ ๆ ของโลกว่าผู้นำเขาเห็นความสำคัญของการมาที่อาเซียนเพื่อใช้เป็นเวทีของการพบปะหารือ

จะเป็นการมาเปิดใจ, ต่อรอง, เผชิญหน้าหรือหาทางออกร่วมกันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เอาเป็นว่าพอมีข่าวทำนองนี้ออกมาเท่านั้น บรรยากาศในเวทีระหว่างประเทศก็ร้อนแรงทันที ต่างจับตาดูความเคลื่อนไหวระดับสากลอย่างใกล้ชิดกันทันที

รายละเอียดที่ทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นมาจาก Andi Widjajanto – ที่ปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการของที่บอกกับนักข่าวยืนยันที่โจโกวีพูดไว้ก่อนหน้านั้น

"ผู้นำจีนและผู้นำรัสเซียจะเข้าร่วมการประชุม"

กระทรวงการต่างประเทศของจีนไม่ให้ความเห็นต่อข่าวนี้

ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะปกติปักกิ่งจะไม่แสดงจุดยืนอะไรในเรื่องเหล่านี้เร็วเกินไป

จะสงวนท่าทีและตรวจสอบรายละเอียดก่อน...เช่นใครจะมาบ้าง, วาระการประชุมเป็นอย่างไร, มีการประสานงานกันแล้วมากน้อยเพียงใด

ใครจะต้องเจอกับใคร และจะเจอกันแบบไหน

ทั้งหมดนี้เป็นพิธีกรรมสำคัญยิ่งสำหรับผู้นำจีนก่อนที่จะบอกกล่าวอะไรเป็นทางการ

ด้านรัสเซีย โฆษกเครมลินก็ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเช่นกัน

แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีกระแสข่าวที่ส่งสัญญาณว่าปูตินสนใจที่จะมาแสดงตนในเวทียักษ์อย่างนี้

เพราะเขาเห็นความสำคัญของการทูตระดับโลกที่ทำให้ปูตินมีความโดดเด่น

โดยเฉพาะเมื่อต้องการให้เวทีระหว่างประเทศเหล่านี้ได้ยินเสียงดัง ๆ จากปากของผู้นำรัสเซียเองว่า “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ของรัสเซียในยูเครนนั้นเป็นเรื่องถูกต้องชอบธรรมจากมุมมองของมอสโก

สำนักข่าวต่างประเทศบอกว่าเจ้าหน้าที่อีกคนที่คุ้นเคยกับสถานการณ์บอก "ปูตินจะเข้าร่วม"

สี จิ้นผิงไม่ได้ออกต่างประเทศมาหลายปี ยกเว้นล่าสุดที่ไปเยือนเมียนมาเมื่อต้นปีนี้

ที่เป็นงานใหญ่ฮ่องกง 30 มิถุนายนที่ผ่านมาถือเป็นกรณีพิเศษเพราะเป็นโอกาสวันเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี ของการรับมอบเกาะคืนจากอังกฤษ

อีกทั้งการที่ผู้นำปักกิ่งไปฮ่องกงนั้นไม่ถือว่าเป็นการ “เดินทางต่างประเทศ”

เพราะจีนถือว่าฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีน

หรือแม้หากสี จิ้นผิงจะบินไปเยือนไต้หวัน (ไม่ว่าด้วยเหตุผลอันใด) ก็ต้องถือว่าเป็นการไป “ตรวจงานในประเทศ” เช่นเดียวกัน

แต่ภาพสมมตินี้คงไม่เกิดง่าย ๆ

ผมยกตัวอย่างให้เห็นเปรียบเทียบเท่านั้นเอง

ที่เป็นเครื่องหมายคำถามใหญ่ก็คือเซเลสกีจะมาร่วมประชุมที่บาหลีและกรุงเทพฯจริงหรือ

เป็นเรื่องใหญ่ที่ยังไม่มีใครตอบได้แม้แต่เซเลนสกีเอง

เพราะแม้ว่าโจโกวีจะไปพบเซเลนสกีที่กรุงเคียฟหลังไปคารวะปูตินที่มอสโกเมื่อเดือนที่ผ่านมา 

และออกคำเชิญให้ทั้งสองท่าน แต่ปูตินกับเซเลนสกีคงจะมีคำถามข้อเดียวกันว่า

แล้วจะให้เขาสองคนพบกันตัวเป็น ๆ หรือมีคนกลาง

หรือจะให้เซเลนสกีเข้าร่วมประชุมผ่านวีดีโอออนไลน์?

และก่อนจะถึงเดือนพฤศจิกายนนี้ ประธานาธิบดีตุรกี เรเจป ไตยิป แอร์โดอันก็อาสาเป็นกาวใจให้ทั้งสองคนไปพบกันที่ตุรกีก่อนแล้ว

ดังนั้น หากทั้งสองคนนี้พร้อมจะเจอกันจริงก็คงจะไม่ต้องรอถึงปลายปี

แต่ก็อีกนั่นแหละ จังหวะนี้ยังไม่เหมาะที่ปูตินกับเซเลนสกีพร้อมจะนั่งลงต่อรองกัน

เพราะเงื่อนไขเบื้องต้นของแต่ละฝ่ายห่างไกลกันเกินกว่าที่จะมีโอกาสได้ตั่งลงเจรจาใด ๆ ทั้งสิ้น

เอาเป็นว่ายังมีความเป็นไปได้ที่เซเลนสกีจะมาร่วมประชุมสุดยอดที่บาหลีหรือกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะมาในรูปแบบใดก็ตาม

ตั้งความหวังไว้ดีกว่าจะบอกปัดไปตั้งแต่ต้น

เพราะไม่มีสงครามใดไม่จบลงที่โต๊ะเจรจา

เดือนพฤศจิกายนนี้มีกิจกรรมทางการเมืองใหญ่ทั้งที่สหรัฐฯและจีน

เป็นจังหวะของการประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่จะได้เห็นการยืนยันรับรองให้สี จิ้นผิงต่ออายุการเป็นเบอร์หนึ่งของประเทศไปอีกหนึ่งสมัยค่อนข้างแน่นอน

และเป็นช่วงที่จะมีการเลือกสภาผู้แทนฯและวุฒิสภากลางเทอมของสหรัฐฯที่มีความหมายทางการเมืองอย่างยิ่งสำหรับโจ ไบเดน

แต่ถ้าผู้นำทั้งสองเห็นความสำคัญของการมาปรากฏตัวที่บาหลีและกรุงเทพฯ  ก็คงจะสามารถจัดตารางหน้าที่งานการให้สับหลีกให้เหมาะเจาะก็ได้

งานนี้ โจโกวีแห่งอินโดฯได้คะแนนความพยายามทางการทูตระหว่างประเทศไปเต็ม ๆ ... หากผู้นำมหาอำนาจและผู้เกี่ยวข้องกับสงครามยูเครนและความวุ่นวายรอบ ๆ ไต้หวันสำเร็จ

เขาพยายามวางตำแหน่งตัวเองให้เป็นคนกลางที่ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนและพร้อมจะทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกหรือไกล่เกลี่ย...แล้วแต่จะเรียกขาน

โจโกวีอ้างว่าทั้งจีนและรัสเซียยอมรับอินโดนีเซียเป็น "สะพานแห่งสันติภาพ"

ส่วนประเทศไทยเราจะได้ประโยชน์อย่างมหาศาลด้วยหากวางตัวให้เป็น “สะพานสันติภาพต่อเชื่อมกับอินโดฯ” ไปพร้อม ๆ กัน

หวังว่ากระทรวงต่างประเทศเราก็กำลังทำการบ้านกันอย่างหนักอยู่เพื่อผลักดันท่าทีของไทยให้เด่นชัด, สร้างสรรค์และจับต้องได้อย่างจริงจัง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ