'ผู้อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ'

รู้จักเกม "รัสเซียน รูเล็ต" กันใช่มั้ย?

ที่เทลูกปืนออกจากลูกโม่ทั้ง ๖ นัด ยัดกลับเข้าไป "นัดเดียว"

แล้วหมุนลูกโม่ แกร๊กกกก....

คาดเดาไม่ได้ว่า "นัดเดียว" นั้น ไปอยูู่รังผึ้งไหน?

จากนั้น ผู้เล่นเกม "เดิมพันชีวิต" นั่งเผชิญหน้ากัน แล้วหมุนปืนกระบอกนั้นกับพื้น

ปืนไปหยุด โดยปลายกระบอกปืนชี้ตรงใคร

คนนั้น ต้องหยิบปืนขึ้นมา "จ่อขมับ" ตัวเอง

แล้ว "ลั่นไก"!

ถ้า...โป้ง ก็ จบ ถ้า...แชะ ก็ถึงตาเพื่อน ต้องจ่อขมับ แล้วลั่นไกบ้าง

เวียนกันไป จนกว่า "โป้ง...." ที่ใคร คนนั้นก็ "โชคดี...ที่ตายก่อน"!

ก็วันนี้แหละ "๑๕ สิงหา" ที่ฝ่าย "กลับกลอกธิปไตย" กับฝ่าย "โจราธิปไตย" จะดวลเกม "รัสเซียน รูเล็ต" กันที่รัฐสภา

ตลกสัสตรงที่ว่า....

รัสเซียน รูเล็ต "ของแท้" เขาใช้ชีวิตตัวเองเป็นเดิมพัน

แต่รัสเซียน รูเล็ต "อสัตย์ผู้ทรงเกียรติ" เดิมพันเป็นเกียรติ+ศักดิ์ศรี "รัฐสภา"

คู่ดวล "ฝ่ายกลับกลอกประชาธิปไตย" กับฝ่าย "โจราธิปไตย" ถึงโป้งตรงใคร ก็ไม่ตาย

ที่ตายคือ "ความเชื่อถือเกียรติ-ศักดิ์ศรีรัฐสภา"

ขณะเดียวกัน "ฝ่ายค้าน-รัฐบาลสมคบ" WIN... WIN หาร ๑๐๐ ด้วยกัน!

จะต้องไปสนใจเกียรติศักดิ์ศรีที่กินไม่ได้และสายตาตำหนิของชาวบ้านทำไม?

ในเมื่อ เลือกตั้ง ก็ "เงินมา-กาไป"

ประชาธิปไตยระบบรัฐสภา ที่ไหนก็แบบนี้

มันคือปาหี่ "ลวงโลก-ลวงประชาชน" ให้หลงทึกทักกับคำว่า "ประชาธิปไตย" มีจริง

ซึ่งเนื้อแท้มัน "ไม่มีอยู่จริง" ในโลกใบนี้ หรือใบไหน!?

ประชาธิปไตยก็แค่ "กระดูกพลาสติก" เสรีภาพ-เสมอภาค-ภราดรภาพ ที่ "ฝ่ายอำนาจลวงโลก" แต่งกลิ่น แล้วโยนให้หมาหน้าโง่แทะ

หมาก็แย่งกันแทะไป กัดกันไป....
ที่ได้ ก็คือ "อร่อยน้ำลาย" ตัวเอง!

เคยมีเนื้อหนังประชาธิปไตยซักชิ้นมั้ย ที่ตกถึงปาก-ถึงท้องประชาชน?

คิดสิ...ช่วยกันคิด

ฝรั่งตะวันตก เขามีปัญหาทางการปกครองในบ้านเมืองเขาในยุคนั้นๆ

นักคิด-นักปรัชญา ก็ประดิษฐ์กระดูกหมาประชาธิปไตยให้คนในบ้านเมืองเขาแทะเพื่อผลทางการปกครอง ในหลากหลายรูปแบบ

แต่งสี-แต่งกลิ่น-แต่งรส ให้ต้องตามรสนิยมคนของเขา ทดลองไปเรื่อยๆ

ไอ้ประชาธิปไตย "เสรีภาพ-เสมอภาค-ภราดรภาพ" กลิ่นชีส ไม่ต่างขี้เต่า จากนมเนย กลิ่นแอนโชวี ปลาร้าฝรั่ง ทั้งตุ ทั้งเค็มปี๋ นี่แหละ ดูจะต้องตามรสนิยมพวกเขามากที่สุด

แต่คนไทยเรา ถูกปาก-ถูกคอซะที่ไหนล่ะ ยิ่งเจ้าแอนโชวีด้วยแล้ว คำเดียวก็อ้วกแตก

ไทยเราต้องกลิ่นกะปิ กลิ่นบูดู กลิ่นปลาร้า กลิ่นถั่วเน่า กลิ่นพริก หอม-กระเทียม มะนาว รสชาติถึงจะ แซ่บ นัว, หรือหรอยจังฮู้, ลำแต๊แต๊

ผมว่า มันต้องสังคายนา "กฎหมายรัฐธรรมนูญ" ของไทยกันซักที

ร่างกันด้วย "วัตถุดิบส่วนผสมสูตรของไทยและปรุงด้วยรสชาติ ให้มันถูกปาก-ถูกคอ ต้องตามรสนิยมของคนไทย"

ไม่งั้น โตมาแต่ละรุ่น ก็หลงแทะกระดูกประชาธิปไตยแต่งกลิ่น แล้วปากก็ฟูมน้ำลายว่าอร่อย..อร่อย ไปแบบนี้่

กลายเป็นหมาสายพันธุ์ฝรั่ง เป็นมนุษย์วัตถุ ถามกระทั้งว่า

"ต้องกราบแม่ทำไม?"

รัฐธรรมนูญไทย ตั้งแต่ ๒๔๗๕ จนถึงฉบับปัจจุบัน ก็เอามาจากฝรั่งเศสนิด เยอรมันหน่อย วัตถุดิบ-ส่วนผสมที่ต้องตามรสนิยมไทย แทบไม่มี

เป็นรัฐธรรมนูญสูตร "ข้าวผัดอเมริกัน" ซะส่วนใหญ่  คนไทยก็ไม่นิยมกิน ก็ต้องฝืนกิน

อเมริกันเองยังงง..."อิหยังวะ บ้านกูไม่เห็นมี ไหงเมืองไทยมีสูตรข้าวผัดอเมริกัน?"

ไม่เพียงรัฐธรรมนูญ "กฎหมายแม่"...
ว่าไปแล้ว ประเทศไทยมีสารพัดกฎหมายซ้ำซ้อนมากที่สุดในโลก เป็นประเทศเดียวในโลก มีกฎหมายแล้วใช้บังคับไม่ได้บ้าง คนไม่ปฏิบัติตามบ้าง มากที่สุดในโลก

เห็น "คุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" ตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ ท่านเป็นทั้งนักกฎหมาย ทั้งนักปฏิบัติ เคยได้ยินท่านบ่นเรื่องนี้

มีโอกาสเข้ามาบริหารประเทศเมื่อไหร่ละก็ ช่วยเป็นตัวตั้ง-ตัวตี "สังคายนารัฐธรรมนูญไทย" โดยออกแบบให้ถูกปาก-ถูกคอรสนิยมไทยซักทีเถอะ

เหมือนอดีตนายกฯ บรรหาร ศิลปอาชา ท่านมีความมุ่งมั่น ตั้ง ส.ส.ร.ทำหน้าที่สังคายนา "กฎหมายรัฐธรรมนูญ" ออกมาเป็น ฉบับปี ๒๕๔๐ ประมาณนั้น

ประเทศไทยเรา......

"รากเหง้า-รากฐาน" คือ "ชาติ-ศาสนา-สถาบันพระมหากษัตริย์" ที่ธำรงอยู่ได้ตราบถึงวันนี้

และก็ด้วย "รากเหง้า-รากฐาน" ชาติ-ศาสนา-สถาบันพระมหากษัตริย์ นี่แหละ ทำให้ประเทศไทย เติบโต-ยิ่งใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ สู่อนันตกาลแห่งอนาคต

เมื่อคณะราษฎรก่อการ ๒๔๗๕ ยึดอำนาจพระมหากษัตริย์ไปใช้กันเอง ให้พระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ

แล้วใช้คำสวยๆ ห่อหุ้มการ "ปล้นพระราชอำนาจ" นั้นว่า "ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข"

แล้วบ้านเมือง ที่ชาติกำเนิดประเทศผูกพันโดยตรงกับพระมหากษัตริย์เป็นไง?

ประชาธิปไตยระบอบคณะราษฎร "ลอกกากฝรั่งเศส" ทำอะไรให้ประเทศชาติบ้านเมืองสงบเรียบร้อย เจริญขึ้น และประชาชนอยู่เย็นเป็นสุขบ้างมั้ย?

เห็นมีแต่กัดกัน แย่งอำนาจกัน แย่งสมบัติที่ปล้นจากพระมหากษัตริย์กันไปเรื่อยมา

จากวันนั้น ถึงวันนี้ ด้วยรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย "ปล้นอำนาจ" สถาบันพระมหากษัตริย์ไป

นอกจากคำกลวงๆ ว่า "ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" แล้ว

ในทางปฏิบัติเป็นจริง คำว่า "ทรงเป็นประมุข" ไปพลิกดูซิ ในรัฐธรรมนูญนั้่น พระมหากษัตริย์ทรงมีสิทธิ์-มีอำนาจอะไรที่เป็นเนื้อ-เป็นหนังบ้าง?

พูดตามภาษาชาวบ้าน ฝ่ายอำนาจ ใช้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเพียง "พิธีกรรม" ให้ฝ่ายการเมืองเสียมากกว่า

แม้ขนาดนั้นแล้ว.......

ทุกวันนี้ ก็ยังมีขบวนการบ่อนเซาะ หวัง "ล้มล้าง-ทำลาย" สถาบันพระมหากษัตริย์ให้สิ้นไปจากแผ่นดิน

สถาบันบริหาร สถาบันนิติบัญญัติ ในความเป็น ๒ ใน ๓ สถาบันอำนาจสูงสุดของประเทศ

ขอถามว่า ในเมื่อประเทศซึ่งเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

แล้วพวกคุณ ปกป้อง-พิทักษ์รักษา "พระผู้ทรงเป็นประมุข" จริงจังกันได้ขนาดไหน อย่างไร?

ในเมื่อ ขบวนการกัดเซาะชาติ ล้มล้างสถาบัน ส่วนหนึ่งก็ "คนในสถาบันนิติบัญญัติ" พูดชัดๆ สมาชิกรัฐสภาบางพวกนั่นแหละ

ร่วมขบวนการ "ล่มชาติ-ล้มสถาบัน" ด้วย!

มันเป็น "ความจริงประจักษ์" อยู่ ไม่ต้องถาม "ใบเสร็จอยู่ไหน" หรอก

เหล่านี้แหละ

รวมถึงการรวมหัวกัน "ล่มรัฐสภา" เพื่อได้กฎหมายตามที่ต้องการ โดยมี "พระปรมาภิไธย" รับรองความถูกต้องให้ "ตามพิธีกรรม" ทางรัฐธรรมนูญลอกกากตะวันตก

ผมจึงเห็นว่า ถึงเวลา "ปฏิรูปกฎหมายรัฐธรรมนูญ" ให้สมกับคำว่า "พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" จริงๆ จังๆ เสียที

เพราะนี่แหละคือ "รัฐธรรมนูญที่ประชาชนไทย" ต้องการ

เพื่อ "ชาติ, พระศาสนา, สถาบันพระมหากษัตริย์" จะได้เปล่งประกาย นำไทยสู่รากเหง้าความเป็นไทย

ดำรงความเป็น "ชาติไทย" บนรากฐาน ๓ สถาบันสูงสุด มั่นคงและอยู่ยั้งยืนยงตลอดไป

วันนี้ ประชุมรัฐสภา "เฮือกสุดท้าย" ภายใต้กรอบ  ๑๘๐ วัน ร่างกฎหมายลูกเลือกตั้งที่ผ่านรัฐสภาวาระแรกมาแล้ว ต้องผ่าน

ฉะนั้น วันนี้ โปรดจับตา....

จะมี "โจราประชาธิปไตย" ร่วมกัน "ถ่วงให้กฎหมายตกไป" ด้วยการทำให้ "องค์ประชุมไม่ครบ" อีกหรือไม่?

แบบนั้น ก็จะได้รู้กันไป ว่า........

ในขณะที่พระมหากษัตริย์ "ทรงอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ"

แต่สมาชิกรัฐสภา "มากกว่ากึ่งหนึ่ง" สามารถทำได้ทุกอย่างตามที่ต้องการ

เพราะ พวกเขา "อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ"!

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ร่างฯ 'หัวขวด' เพื่อใคร?

"นักการเมือง" คือคนโง่ เพราะทำอะไรก็ยาก มีกฎหมายหลักคือรัฐธรรมนูญ และกฎหมายลูกคือ พ.ร.บ.ต่างๆ

'Grab rider ต้วง'

ดู "นาฬิกากรรม" แล้ว ก็อยากบอกว่า.... ช่วงนี้ ใครมีธุระอะไร ก็ไปทำซะให้เสร็จ ยังพอมีเวลา