เปิดศูนย์นวัตกรรมช่วยคุมอุบัติเหตุ

เมื่อพูดถึงอุบัติเหตุบนท้องถนน แม้ว่าที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะบูรณาการร่วมกันเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะหน่วยงานรัฐ เช่น กรมการขนส่งทางบก ได้ดำเนินโครงการกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนในทุกมิติที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับประเทศและในระดับพื้นที่ เพื่อต้องการสร้างความตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา แต่ก็ยังพบว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกวัน ทุกเวลา ท้ายที่สุดนำมาซึ่งการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

แน่นอนว่า การปลูกฝังสร้างจิตสำนึกให้ผู้ขับขี่บนท้องถนนรักษากฎ กติกา มารยาท ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่ง แต่ที่สุดแล้วก็ยังพบว่าไม่สามารถยับยั้งการเกิดอุบัติเหตุได้ แต่เพื่อเป็นการบรรเทาการเกิดอุบัติเหตุ และเพื่อให้หน่วยงานได้ติดตามเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นกรมขนส่งทางบกที่มีบทบาทสำคัญในการจัดระบบจัดระเบียบการขนส่งทางถนน เพื่อให้ระบบการขนส่งทางถนนมีประสิทธิภาพ เชื่อมโยง ทั่วถึง และเพียงพอ เพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชน

ล่าสุดได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพมายกระดับการให้บริการตอบสนองความต้องการของประชาชน โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2561 จนถึงปี 2565 แล้วเสร็จ ซึ่งถือเป็นก้าวสําคัญในการผลักดันให้เกิดการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาระบบการขนส่งทางถนนอย่างเป็นรูปธรรม โดยการใช้เทคโนโลยี GPS ในการกํากับ ดูแลความเร็วและชั่วโมงการทํางานของผู้ขับรถสาธารณะให้ปลอดภัย

ภารกิจของ “ศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยีการขนส่งทางถนน” คือ การควบคุม กำกับดูแลการเดินรถ ความเร็ว ชั่วโมงการทำงาน และบริหารข้อมูลการเดินรถให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งด้านการป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุ ลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ โดยใช้ประโยชน์จากข้อมูล GPS ซึ่งเป็นนวัตกรรมดิจิทัลที่สำคัญด้านหนึ่ง เพื่อกำกับ ควบคุม ดูแลการขนส่งรถสาธารณะทุกประเภท ทั้งรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป รถบรรทุกวัตถุอันตราย และรถลากจูง รถโดยสารสาธารณะ เช่น รถตู้ รถโดยสารประจำทาง รถโดยสารไม่ประจำทาง (ยกเว้นรถสองแถว) จำนวนกว่า 5 แสนคัน

โดยทางด้านของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้เป็นประธานในการเปิดศูนย์ดังกล่าว และให้ข้อมูลว่า ภายใต้การทำงานของศูนย์นวัตกรรมฯ แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง (ชม.) เช่น ภารกิจการตรวจสอบและควบคุมการใช้ความเร็วของรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก ซึ่งจะสามารถส่งข้อมูลแจ้งตำแหน่งของรถเพื่อประสานสั่งการสำนักงานขนส่ง ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และสำนักงานขนส่งจังหวัด 76 แห่งทั่วประเทศ 

ขณะเดียวกันยังสามารถดำเนินการควบคุมกำกับพฤติกรรมการขับรถที่อาจเป็นอันตรายอย่างทันท่วงที ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางถนน เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ พัฒนาคุณภาพผู้ประกอบการขนส่งและพนักงานขับรถสาธารณะให้มีความรับผิดชอบและเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น 

นอกจากนี้แล้วในอนาคตได้มอบนโยบายให้ ขบ. ศึกษาเรื่องการนำระบบ GPS มาใช้ในการป้องกันอุบัติเหตุ เพื่อควบคุมการขับขี่ได้อย่างปลอดภัยเหมือนกับประเทศที่มีการพัฒนาแล้ว รวมทั้งให้ลองไปศึกษาการบูรณาการร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมที่จะกำหนดเรื่องมาตรฐานรถใหม่ที่จะเข้ามา จะต้องติดตั้งอุปกรณ์ GPS มาในตัวรถให้เรียบร้อย อย่างประเทศสิงคโปร์ ที่เมื่อจำหน่ายรถจะมีการติดตั้งระบบ GPS มาพร้อม ไม่ใช่มาซื้อติดตั้งทีหลัง

ขณะเดียวกัน ขบ.เตรียมเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านที่วิ่งระหว่างประเทศไทยเกี่ยวกับเรื่องระบบ GPS เพื่อเกิดการดำเนินงานกำกับดูแล ควบคุม ไม่ให้มีการใช้รถผิดไปจากที่กฎหมายกำหนดด้วย และขอให้ตรวจสอบเรื่องรถบรรทุกน้ำหนักเกิน โดยมอบหมายให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ทล., กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และตำรวจทางหลวง (ตร.ทล.)

แน่นอนว่า นำระบบ GPS มาใช้แล้วก็ยังมีการนำเทคโนโลยีการระบุตัวตนด้วยคลื่นความถี่ (RFID) มาใช้ด้วย ซึ่งจะช่วยตรวจคลื่นความถี่ได้ สามารถดู ทะเบียนรถ สีรถ เช็กความถูกต้อง และตรวจสอบประวัติอาชญากรรมได้ รวมทั้งนำมาตรวจสอบรถที่ใช้ระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติพิเศษแบบไม่มีไม้กั้น หรือ M-Flow ของกรมทางหลวง (ทล.) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ก็ได้แต่หวังว่าหากนำระบบเหล่านี้มาใช้ได้ไวเพื่อที่จะช่วยควบคุมความเร็วที่ใช้บนถนนให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงป้องกันการเกิดข้อโต้แย้งกับผู้ใช้ทาง รวมทั้งป้องกันปัญหาอาชญากรรมและอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นให้บรรเทาเบาบางลงได้บ้าง.

กัลยา ยืนยง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผ่าแผนรับมือรถติดสร้างสายสีส้ม

จากการที่รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะผู้อำนวยการโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เตรียมจัดการจราจรเพื่อดำเนินงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม

เปิดขุมทรัพย์จากพฤติกรรมสุดขี้เกียจ

เชื่อหรือไม่ว่า มีคนจำนวนไม่น้อยที่กดสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันเดลิเวอรี ทั้งที่ร้านอยู่ใกล้แค่ใต้คอนโดฯ สั่งซื้อของจากร้านสะดวกซื้อทั้งที่ร้านอยู่แค่ฝั่งตรงข้าม หรือยอมจ่ายเงินจ้างคนไปต่อคิวเพื่อซื้อของ ทำธุระ

สงครามการค้าเวอร์ชัน 2.0

อย่างที่ทราบกันดีว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐล่าสุด ผู้ชนะก็คือ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งคว้าชัยแบบทิ้งห่างคู่แข่งอย่างนางกมลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต

แห่ส่งเสริมนวัตกรรมพลิกโลก

เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต ออฟ ติงส์ หรือ IoT(ไอโอที) เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญในยุคสมัยนี้ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพราะเป็นนวัตกรรมที่ทำให้การสื่อสารระหว่างมนุษย์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไร้รอยต่อยิ่งขึ้น

OCAแก้วิกฤตพลังงานไทย

ปัจจุบันปริมาณสำรองก๊าซของไทยลดลงอย่างต่อเนื่องจนเข้าขั้นวิกฤต ส่งผลให้ต้องนำเข้าก๊าซ LNG ในราคาที่ผันผวนเพิ่มมากขึ้น มีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นของประชาชนและรายได้งบประมาณของรัฐลดลง

แอ่วเหนือ...คนละครึ่งบูมเศรษฐกิจ

จากสถานการณ์อุทกภัยในช่วงที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ ทั้งในแง่ของการคมนาคม เดินทางเข้าสู่พื้นที่และความเสียหายต่อแหล่งท่องเที่ยว