ช่างกล้าล้วงคองูเห่า

ช่างกล้าล้วงคองูเห่า แก๊งมิจฉาชีพคอลเซ็นเตอร์เหิมเกริมหนัก

อ้างชื่อ บิ๊กแรก-พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลอกผู้เสียหายโอนเงิน โดยขบวนการนี้จะโทร.มาหาผู้เสียหาย บอกมีส่วนในกระบวนการฟอกเงิน

หากผู้เสียหายไม่เชื่อก็จะโอนสายให้กับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งอ้างตัวเป็น พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ หรือ  พ.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. และเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ทำการโอนเงินไปเข้าบัญชีของคนร้าย บิ๊กแรก เลยออกมาเตือนผู้ที่ได้รับสายในลักษณะดังกล่าวต้องมีสติ

อย่าหลงเชื่อตามคำกล่าวอ้างของคนร้าย และอยากแจ้งเตือนไปยังผู้ที่กระทำความผิดว่า การกระทำดังกล่าวนั้นเป็นความผิดตามกฎหมาย มีโทษหนักถึงขั้นจำคุก ตามประมวลกฎหมายอาญา แต่นอกเหนือจากคำเตือนแล้ว บิ๊กแรก น่าจะเดินหน้าตามล่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้อย่างเร่งด่วน  ป้องกันไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านตาดำๆ ต้องโดนหลอกอีก ที่สำคัญคือกล้า ล้วงคอ ระดับกระบอกเสียงสำนักงานตำรวจแห่งชาติขนาดนี้ หากจับไม่ได้เสียรังวัดกันทั้ง กรมปทุมวัน

ฉาวโฉ่ต่อเนื่องจริงๆ กับพฤติกรรม อมเงินลูกน้อง ครั้งนี้ไปโผล่ที่  จ.พังงา พื้นที่ บช.ภ.8 มีการแชร์ในโลกโซเชียลถึงหนังสือร้องเรียนขอให้ตรวจสอบ ผกก.ทุ่งคาโงก กระทำความผิด จากผู้ที่ใช้ชื่อว่า ตำรวจผู้น้อย สภ.ทุ่งคาโงก เนื้อหาในทำนองร้องเรียนเรื่องการเบิกเบี้ยเลี้ยง การตั้งด่านตรวจปัสสาวะ ซึ่งให้ลูกน้องในสังกัดเบิกเบี้ยเลี้ยง จากนั้นนำเงินจากการเบิกเบี้ยเลี้ยงไปให้ ผกก.ทุ่งคาโงก 20% ในแต่ละวัน นอกจากนี้ยังมีเบี้ยเลี้ยงโควิด-19 แบ่งเป็นแต่ละครั้ง โดยให้ทำเบิกย้อนหลังลักษณะลูกน้องที่ไม่สนิทจะมีการเบิกเบี้ยเลี้ยงให้ แต่จำกัดรายละไม่เกิน 1,600-5,000 บาท ไม่ต้องให้ ผกก. ส่วนลูกน้องที่สนิทให้เบิกรายละ 1,200-20,000 บาท ทุกคนต้องนำเงินกลับมาให้ ผกก. โดยคงเหลือเงินในบัญชีไว้ 5,000 บาท เมื่อหนังสือว่อนขนาดนี้  .ต.อ.จิรศักดิ์ เสียมศักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.พังงา จึงสั่งการไปที่ ผกก.ทุ่งคาโงก ให้ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้น และตั้งทีมสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ส่วน .ต.อ.ประจักษ์ ชุมพลวีระพงษ์ ผกก.สภ.ทุ่งคาโงก ก็ออกมายืนยัน “การตรวจปัสสาวะเป็นไปตามระเบียบ มีขั้นตอนตามกฎหมายชัดเจน ไม่มีเรียกรับเงินต่างๆ โดยมีการส่งดำเนินคดี มีผลการจับกุมและกล่าวโทษตามกฎหมายตลอด ส่วนเงินเบี้ยเลี้ยงโควิด มีการโอนเข้าบัญชีของแต่ละคน ไม่สามารถจะเกิดการทุจริตได้”....งานนี้ก็คงต้องรอฟังคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงที่ รอง ผบก.ภ.จว.พังงาตั้งขึ้น จะสรุปปมร้อนๆ โรงพักทุ่งคาโงกออกมาอย่างไร ต้องติดตาม

เป็นอีกหนึ่งภาพความประทับใจในแวดวง สีกากี เมื่อ หมู่มิก-ส.ต.ต.นิตินัย คลองสม ตำรวจควบคุมฝูงชนที่เคยได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์การชุมนุมที่แยกดินแดง อาการดีขึ้นจนหายแล้วแวะมาเยี่ยมให้กำลังใจ หมู่เบส-ส.ต.ต.ธนาวุฒิ จิรคเชนทร์  และ หมู่เดวิท-ส.ต.ต.เดชวิทย์ เลทเท็สสัน ที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์การชุมนุมเช่นกัน ที่ยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจ โดยนายตำรวจ คฝ.ทั้งหมดต่างพูดให้กำลังใจซึ่งกันและกัน "ใครไม่รักเราไม่เป็นไร แต่เราต้องรักกัน" เป็นถ้อยคำกินใจจากทั้ง 3 นาย รวมทั้งให้สัญญาต่อกันว่าหายเมื่อไรจะกลับมาทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างเต็มความสามารถต่อไป รองฯ แจง-พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บอกถึงอาการบาดเจ็บของ หมู่เบส  และ หมู่เดวิท ว่ารู้สึกตัวดี ทำตามที่บอกได้ พูดคุยรู้เรื่อง พูดได้แต่เสียงยังแหบพร่า ไม่ชัด แขนข้างขวาขยับได้แนวราบ แขนซ้ายและขาสองข้างขยับได้ยกได้ ให้กายภาพบริหารกล้ามเนื้อแขนขา ฝึกเดินด้วยไม้ค้ำยัน  3 ขา โดยมีคนช่วยพยุง ตาซ้ายยังแดง ให้อาหารทางสายยาง เนื่องจากต้องฝึกกลืน ยังต้องเฝ้าดูแลการรักษาต่อเนื่องต่อไป 

เริ่มนับถอยหลังเข้าสู่เดดไลน์การแต่งตั้ง นายพันสีกากี ตำแหน่ง รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ลงมาถึง สารวัตร (สว.) วาระประจำปี  2564 ที่ตามกำหนดคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 พ.ย. จนถึง ณ ตอนนี้ต้องบอกอยู่ในช่วง  ลุ้นตัวโก่ง เพราะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา บิ๊กปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข แม่ทัพใหญ่สีกากี ก็ประชุมบอร์ดกลั่นกรองระดับ ตร. ประชุมพร้อมกับเรียก ผบช.หรือตำแหน่งเทียบเท่า ที่มิได้สังกัด สง.ผบ.ตร.เข้าให้ข้อมูลประกอบการพิจารณาแต่งตั้งตำรวจดำรงตำแหน่งระดับ ผกก.  และรอง ผบก.วาระประจำปี 2564 ซึ่งเป็นอำนาจของ ตร.ไปเรียบร้อยแล้ว จากนั้นในสัปดาห์นี้ก็จะเป็นคิวของรอง ผกก.และ สว. ซึ่งอยู่ในอำนาจของ ผบช.ดำเนินการจัดทำบัญชี ก่อนที่จะเสนอให้ ตร.ผ่าน สำนักงานกำลังพล เพื่อตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง ซึ่งตามไทม์ไลน์ที่วางเอาไว้รายชื่อทุกตำแหน่ง ทุกเก้าอี้ น่าจะประกาศออกมาหลังการเลือกตั้งนายก อบต.และสมาชิกสภา อบต.วันที่ 28 พ.ย.ไปแล้ว 

เดือนตุลาคมที่ผ่านมา กองกำลังป้องกันชายแดนโดยเฉพาะด้านตะวันตก จับกุมแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายนับพันราย ถือเป็นสถิติที่สูงมากในช่วงที่ทางการไทยกำลังเดินเข้าสู่ช่วงการเปิดประเทศ ส่งผลให้ขบวนการเทาๆ ที่ทำมาหากินตามแนวชายแดนที่เคยร่วมมือกับ คนมีสี ได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน แต่อยู่ดีๆ ก็มีเหตุการณ์แปลกแปร่งเกิดขึ้น เมื่อ อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม มายื่นหนังสือร้องขอให้กองทัพบกสอบข้อเท็จจริง โดยระบุว่ากองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ โดยปล่อยให้มีการนำอาวุธสงครามและรถยนต์ที่ผิดกฎหมายข้ามไปยังฝั่งประเทศเมียนมา พร้อมมีหลักฐานเป็นเอกสารและภาพถ่ายยื่นให้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก  (ผบ.ทบ.) ผ่านนายทหารเวรตรวจสอบ ส่งผลให้ ทบ.ต้องแจงว่า เหตุการณ์ดังกล่าว พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9 ได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบลงโทษ ปิดจ๊อบไปแล้ว พร้อมกับมีรายงานว่า ได้มีคำสั่งปลดนายสิบสังกัดกรมทหารราบที่ 29 รวมไปถึงการปรับย้ายผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทั้งผู้พัน และผู้การกรม ในโผเดือนตุลาคมเรียบร้อยไปแล้ว จึงน่าสนใจว่าการเคลื่อนไหวของ “นักร้อง” ที่เกาะติดตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลในกองทัพ เหตุใดจึงเพิ่งมาจุดพลุเรื่องนี้ทั้งที่เหตุการณ์ผ่านมาสามเดือน หรืองานนี้จะมีเป้าหมายกระทบชิ่งถึงใครเป็นพิเศษ

นอกจาก พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ  (ผบ.ทร.) จะเดินสายตรวจเยี่ยมหน่วยกองทัพเรือในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ประกอบด้วยหน่วยต่างๆ ที่อยู่ในส่วนบัญชาการ ส่วนกำลังรบ ส่วนยุทธบริการ และส่วนการศึกษาและวิจัย เพื่อให้กำลังใจและมอบนโยบายที่ได้ให้ไว้ในปีงบประมาณ 2565 แล้ว ยังเปิดโอกาสให้คณะของ ไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เข้าพบที่กองทัพเรือ (ราชวังเดิม) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยอุปทูตได้ทวีตข้อความ ยินดีที่ได้พบกับ “ผบ.ทร.” ของไทย และหารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านความมั่นคง และการกลับมาฝึกซ้อมและอบรมระหว่างกองทัพเรือของทั้งสองชาติ  พร้อมตอกย้ำความสัมพันธ์ในฐานะพันธมิตรตามสนธิสัญญาไทยและสหรัฐฯ ที่ยังคงมุ่งมั่นต่อเสถียรภาพและความมั่งคั่งในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ส่งสัญญาณให้เห็นว่าการฝึกร่วมผสมภายใต้รหัส คอบราโกลด์ 2022 ที่คาดหวังจะจัดขึ้นเต็มรูปแบบในวาระ เฮฟวีเยียร์ น่าจะเป็นไปได้ตามที่คาดหวังไว้ รวมไปถึงการฝึกร่วมรหัสอื่นๆ ที่หยุดกันไปช่วง 2 ปีจากสถานการณ์โควิด-19 น่าจะได้กลับมาฝึกอีกครั้ง

แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะถูกค่อนแคะเรื่องการสั่งให้ ปลูกผักชีในค่ายทหาร ว่าเป็นแนวคิดที่ไม่เข้าท่า แต่ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ก็ได้กำชับกับเหล่าทัพระหว่างการประชุมให้สนับสนุนพื้นที่ในหน่วยทหารปลูกพืชผักสวนครัวที่จำเป็น เพื่อช่วยเหลือชุมชนรอบหน่วยทหาร ผ่อนเบาปัญหาค่าครองชีพและราคาพืชผักที่สูงขึ้นในระยะสั้น ซึ่งในความเป็นจริง “ค่ายทหาร” ก็มีโครงการปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เพื่อนำไปบริโภคภายในหน่วย ลดค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว ข้อสั่งการจึงเป็นการขีดเส้นใต้สิ่งที่มีอยู่ให้ชัดเจน และขยายวงช่วยเหลือประชาชนที่อยู่โดยรอบในช่วงกระแส  “ผักชีแพง” เท่านั้น แต่ถึงขนาดจัดพื้นที่เป็นไร่ปลูกขายเป็นล่ำเป็นสันอย่างที่ตีความกันนั้น “คงไม่ใช่”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข้าอยากได้อะไร...ข้าต้องได้

เราคนไทยมักจะอ้างว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐ มีการบริหารกิจการต่างๆ ภายในประเทศตามหลักการของนิติธรรม แต่สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเวลานี้ หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐจริงหรือ

เมื่อ 'ธรรมชาติ' กำลังแก้แค้น-เอาคืน!!!

เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาของบ้านเรา...ท่านเคยคาดๆ ไว้ว่า ฤดูหนาว ปีนี้น่าจะมาถึงประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม

จ่ายเงินซื้อเก้าอี้!

ไม่รู้ว่าหมายถึง "กรมปทุมวัน" ยุคใด สมัยใคร จ่ายเงินซื้อเก้าอี้ ซื้อตำแหน่ง ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ตามที่ "ทักษิณ ชินวัตร" สทร.แห่งพรรคเพื่อไทย ประกาศเสียงดังฟังชัดในระหว่างขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก

ไม่สนใจใครจะต่อว่า เสียงนกเสียงกา...ข้าไม่สนใจ

ถ้าหากเราจะบอกว่านายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีเสียงตำหนิ มีการนำเอาการพูดและการกระทำที่ไม่ถูกไม่ต้อง ไม่เหมาะไม่ควร

จาก 'น้ำตา' ถึง 'รอยยิ้ม' พระราชินี

ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา...ได้อ่านข่าวพระราชาและพระราชินีสเปน เสด็จฯ ทรงเยี่ยมเยียนผู้คนที่ประสบภัยน้ำท่วมในเมืองปอร์ตา แคว้นบาเลนเซีย