"ลุงป้อม"จะเป็นนายกฯ?

หลังจากนั้นก็จะเป็นการเอานายกฯคนนอก เป็นก๊อก ๒ ซึ่งตรงนี้เต็งหนึ่งน่าจะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  แต่มีเงื่อนไขระบุอยู่ว่า การที่พล.อ.ประวิตร จะขึ้นเป็นนายกฯ ได้จะต้องใช้เสียงโหวตของฝ่ายค้านจำนวนหนึ่งอยู่ด้วย..."

 “...ผมยังไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง แต่ข่าวลือเขาระบุชัดว่า มีการฮั้วกันระหว่างคน ๒ คน โดยประชาชนที่ติดตามข่าวน่าจะรู้ว่าหมายถึงใคร ว่าใครมีอิทธิพลบารมีมากพอที่จะไล่ ส.ส.และ ส.ว.กลับบ้านได้

และใครมีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทย  ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนเป็นหาร ๑๐๐ เพื่อแลกเปลี่ยนกัน เราคงต้องจับตาดูกันต่อไป...”

ครับ...ฟังหูไว้หู

ประเด็นนี้นอกจากคุณหมอระวีแล้วยังมีส.ส.อีกสองสามคนออกมาพูดในลักษณะเดียวกัน

มองในแม่ข่าวลือ หรือปั่นกระแส ก็มองได้

พูดปากต่อปาก  แต่ไม่มีใครยืนยันในข้อเท็จจริง

หรือจะมองในแง่พรรคเล็กเสียประโยชน์ เพราะแทนที่จะเป็นหาร ๕๐๐ กลับกลายต้องถอยหลังไปหาร ๑๐๐ พรรคเล็กมีโอกาสสูญพันธุ์สูงมาก

พรรคเล็กจึงไม่พอใจ "ลุงป้อม" อย่างรุนแรง

อีกหนังตัวอย่าง "ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ" จากพรรคเพื่อชาติ  แม้ความน่าเชื่อถือจะต่ำ  แต่ในภาวะเลือดเข้าตา  ที่ลับลวงพรางกันอาจเป็นเรื่องจริงก็ได้

 “...วันนี้สองเผด็จการผสมพันธุ์กันกันเรียบร้อย บ้านเมืองเกิดอาเพศแล้ว กลายเป็นพวกมาลากไปเอาหาร ๑๐๐ ส่วนพรรคเล็กจะสูญพันธุ์แน่นอน ทำแบบนี้ประชาชนได้อะไร

ผมขอท้าสองเผด็จการว่ากล้าสาบานหรือไม่ คนไทยฝากถามพล.อ.ประวิตร กล้าตอบหรือไม่ ว่าไม่ได้ดีลลับกับพรรคเพื่อไทยหรือเจ้าของพรรคเพื่อไทย

และถามไปยังพรรคเพื่อไทยว่ากล้าสาบานหรือไม่ว่า ไม่มีการดีลกับ พล.อ.ประวิตร ถ้ามีการดีลกันจริง ขอให้พรรคคุณมีอันเป็นไป ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยไม่ให้แตะพล.อ.ประวิตร เด็ดขาด สมัยยังอยู่พรรคเพื่อไทย ผมไม่เคยได้อภิปรายพล.อ.ประวิตรเลย..."

หรือกรณี "หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม" หัวหน้าพรรคไทยภักดี  ซัดเต็มๆ

เอาขวานผ่าไปตรงๆ  ประจานว่า พลังประชารัฐทรยศประชาชน

"...ผมไม่แปลกใจ ถ้าพรรคเพื่อไทยจะหักการประชุมร่วมกฏหมายเลือกตั้งส.ส. เพื่อนำไปสู่สภาล่มและหวังให้หาร ๑๐๐ กลับมา

แต่การที่พรรคพลังประชารัฐ รวมทั้งสว.สายลุงป้อมนี่สิ ที่จะร่วมมือกับพรรคเพื่อไทย เพื่อให้องค์ประชุมร่วม วันที่ ๑๐ สิงหาคมนี่ล่ม ด้วยหวังคืนชีพหาร ๑๐๐ นี่ซิ คิดกันได้อย่งไร

สิ่งที่พวกท่านทำ ท่านก็เห็นไม่ใช่หรือ พรรคเพื่อไทยเจอหาร ๕๐๐ ดิ้นจะเป็นจะตาย ด่าได้ทั้งวัน กระแสแลนด์สไลด์แผ่วทันที แต่กระนั้น เด็กอมมือยังรู้เลยว่า จะเกิดอะไรขึ้น

พรรคพลังประชารัฐ ท่านต้องยอมรับนะว่า พรรคนี้เป็นพรรคที่หนุน ๓ป. ที่ประชาชนให้โอกาสมาก เพราะวันนั้นไม่ต้องการให้ทักษิณกลับมาสร้างปัญหา

การที่พวกท่าน ร่วมมือกับพรรคเพื่อไทย ท่านมองไม่ออกหรือว่า ประเทศจะกลับสู่ความวุ่นวาย ผมเชื่อว่าพวกท่านมองออก แต่อาจจะมีดิวพิเศษบังตา คนบางคน จนหลงลืมไป และเดินเข้าไปในเกมของเขา ที่วางเหยื่อล่อ จนเขากล้าประกาศแลนด์สไลด์อีก

ขอเตือนพวกท่าน เป็นครั้งสุดท้าย การกระทำเหล่านี้ การเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา การไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่ในสภา การร่วมมือกับโจรปล้นชาติ สิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่วิกฤติของประเทศในอนคต

เท่ากับว่าพรรคพลังประชารัฐ กำลังทรยศต่อประชาชน วิญญาณของพี่น้องกปปส. ที่เสียชีวิต เขาต้องสาปแช่งพวกท่านแน่นอน...."

ความเคลื่อนไหวที่หยิบยกมานี้  สะท้อนว่า พรรคเล็ก พรรคเกิดใหม่ ซึ่งต้องการสูตรเลือกตั้งหาร ๕๐๐ มีทัศนคต่อพรรคพลังประชารัฐในมุมมองอที่เปลี่ยนไป

พลังประชารัฐกำลังสมคบคิดกับระบอบทักษิณ ชู "ลุงป้อม" เป็นนายกฯ

แต่ "ลุงป้อม" ก็มาในสไตล์ ไม่รู้ ไม่รู้

 “ไม่ใช่ผม ผมจะไปพร้อมได้อย่างไร ผมยังไม่ได้คิดเลย นายกฯ ยังอยู่ต่ออีก ๒ ปี”

ที่สำคัญ "ลุงป้อม" บอกว่า ไม่สามารถบังคับให้ส.ส.พลังประชารัฐเข้าร่วมประชุมสภาเพื่อพิจารณากฎหมายเลือกตั้งส.ส.ในวันนี้ (๙ สิงหาคม) ได้

สำหรับ "ลุงป้อม" ทุกอย่างคือ "ไม่" ไม่รู้ ไม่ใช่ ไม่สามารถ

ยามนี้หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ เมื่อหาความชัดเจนไม่ได้ ข่าวลือ ข่าวเขาเล่าว่า มักจะได้รับความสนใจลำดับต้นๆเสมอ

จะจริงหรือเท็จ ผลมันก็จะออกมาให้เห็นในไม่ช้า

นึกภาพตามนะครับ  หาก "ลุงตู่" ไปต่อไม่ได้ จากกรณี นายกฯ ๘ปี  ถึงวันนั้นต้องเลือกนายกฯคนใหม่

ตามเส้นทางที่ควรเป็นก็พูดกันไปหลายครั้งว่า รายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ที่เหลืออยู่ จะถูกนำมาพิจารณาก่อน

เอาที่เป็นไปได้จริง ก็มีอยู่ ๒ คนคือ ชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย และ อนุทิน ชาญวีรกูล จากภูมิใจไทย

แต่การจะเสนอชื่อ "ลุงป้อม" จะยุ่งยากซับซ้อน อีกทั้งพรรคเพื่อไทยเคยวิจารณ์ที่มานายกฯก็อกสองอย่างหนักหน่วงมาก่อน

มาคราวนี้จะกลืนน้ำลายตัวเอง เพื่อแลกกับสูตรหาร ๑๐๐ ที่จะนำไปสู่การชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์จริงหรือไม่

หากลุงป้อมจะเป็นนายกฯ  ต้องอธิบายเหตุผลให้ประชาชนเข้าใจก่อนว่า แคนดิเดตนายกฯที่พรรคการเมืองเสนอชื่อมาตั้งแต่การเลือกตั้ง ปี ๒๕๖๒ นั้น  ไม่เหมาะสมอย่างไร

ทางนิตินัยจนถึงวันนี้  "ชัชชาติ สุทธิพันธุ์"  ยังเป็นหนึ่งในรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่ แม้จะได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯกทม.แล้วก็ตาม

ฉะนั้นต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจในจุดนี้เสียก่อน

เมื่อประชาชนเข้าใจแล้วก็เข้าสู่กระบวนการเลือกนายกฯ นอกบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง

ตัวเลขกลมๆ ต้องได้รับความเห็นชอบ ๒ ใน ๓ ของที่ประชุมรัฐสภา

ปัจจุบัน ส.ส.มี ๔๗๗ คน ส่วนส.ว. ๒๕๐ คน รวมเป็น ๗๒๗ คน

๒ ใน ๓ ของ ๗๒๗ ประมาณ ๔๘๔ คน

รัฐบาลมีส.ส. ๒๖๙ คน  มีส.ว. ๒๕๐ คน รวมเป็น ๕๑๙ คน ในทางทฤษฎีมากพอที่จะอุ้ม "ลุงป้อม" เป็นนายกฯก็อกสองได้

เพราะเสียงเกินไปร่วม ๓๕ เสียง

แต่ในทางปฏิบัติ ต้องตัดเสียงพรรคเล็กที่ไม่พอใจสูตรหาร ๑๐๐ ออก  ที่สำคัญต้องไปถามพรรคร่วมรัฐบาลก่อนว่า พร้อมที่จะชู "ลุงป้อม" เป็นนายกฯหรือไม่

ถึงจุดนี้หากเป็นดีลของคนแค่ ๒ คน ก็ถือว่าปิดฉาก

การอธิบายให้ประชาชนเข้าใจความจำเป็นต้องมีนายกฯก็อกสองว่ายากแล้ว อธิบายกับพรรคร่วมรัฐบาลยังยากกว่า

หากปรากฎการณ์ร่วมมือกับระหว่างเพื่อไทยกับพลังประชารัฐ ในการทำสภาล่มเพื่อให้ร่างกฎหมายเลือกตั้งส.ส.ตก เกิดขึ้นจริง เสถียรภาพของรัฐบาลอาจมีปัญหา เพราะพรรคเล็กหลายพรรคมองว่า ถูกแทงข้างหลัง

ที่สำคัญการร่วมมือกับระบอบทักษิณ  จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ไม่รู้ ไม่รู้ครับ อย่าถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น.