95 ปีก่อตั้งกองทัพปลดแอกประชาชน: จีนเน้นเจรจา, ไม่แสวงหาการเผชิญหน้า

วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบ 95 ปี ของการก่อตั้งกองทัพปลดแอกประชาชนของจีน

เป็นอีกวันหนึ่งที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะประจวบกับเป็นปีเดียวกับที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะต่ออายุการเป็นผู้นำอำนาจเบ็ดเสร็จของเขาอีก 1 สมัยเป็นอย่างน้อย

อีกทั้งเป็นช่วงที่มีเรื่องร้อนๆ ว่าด้วยการที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี ออกข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะมาเยือนไต้หวัน (แม้ตอนหลังจะมาเยือน 4 ประเทศเอเชียโดยไม่เอ่ยถึงไต้หวัน)

ทำให้กองทัพของจีนมีบทบาทโดดเด่นขึ้นมาทันที

ถึงขั้นที่มีไฟเขียวว่า หากเครื่องบินของเพโลซีโฉบมาเหนือน่านฟ้าไต้หวันจริง เครื่องบินของกองทัพอากาศจีนก็สามารถจะบินถึงไปเตือน, สกัด, ขับไล่หรือ “สอย” ลงมาได้หากขัดขืน

แผนที่ที่ผมเอามาให้ดูนี่เป็นแนวทางวิเคราะห์ของนักการทหารตะวันตกว่า หากจีนจะบุกไต้หวันจะมีแนวไหนที่เป็นเส้นทางบุกถล่มเกาะนี้ได้

ว่างๆ จะได้มาเล่ารายละเอียดให้ฟัง

แต่วันนี้อยากให้ได้อ่านเนื้อหาของข้อความที่ขึ้นเพจของสถานทูตจีนประจำประเทศไทย เนื่องในโอกาสนี้

เพราะมีข้อความที่โยงถึงความร่วมมือทางทหารกับไทยในหลายๆ มิติที่เราอาจจะไม่เคยได้รับรู้มาก่อน

อ่านแล้วจะเข้าใจมุมมองของจีนต่อความร่วมมือทางกลาโหมกับไทยได้ดีขึ้น        

คำกล่าวของ พลเรือตรีหวัง เจิ้ง (Wang Zheng) ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ ๙๕ ปี แห่งการสถาปนากองทัพปลดแอกประชาชนจีน

วันที่ ๑ เดือนสิงหาคมปีนี้เป็นการครบรอบ ๙๕ ปีแห่งการสถาปนากองทัพปลดแอกประชาชนจีน การลุกขึ้นมาต่อสู้เมื่อวันที่ ๑ เดือนสิงหาคม ปี ค.ศ. ๑๙๒๗ ที่หนานชาง ได้เปิดฉากการต่อสู้ที่อาศัยกองกำลังภายใต้การนำอย่างอิสระของพรรคคอมมิวนิสต์จีน 

และก็เป็นจุดเริ่มต้นแห่งยุคใหม่ที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนสถาปนากองทัพของประชาชนจีน

ระยะเวลา ๙๕ ปีที่ผ่านมา กองทัพปลดแอกประชาชนจีนได้ยึดมั่นในความตั้งใจเริ่มแรกและภารกิจของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่จะสร้างความผาสุกให้ประชาชนจีน และฟื้นฟูความรุ่งโรจน์ของประชาชาติจีนมาโดยตลอด ได้สร้างคุณูปการอันยิ่งใหญ่ในการบรรลุความเป็นเอกราชของชนชาติ การปลดแอกประชาชน และความมั่งคั่งของประเทศชาติ

และก็ได้สร้างคุณูปการอันยิ่งใหญ่ในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน รักษาสันติภาพของโลกและส่งเสริมความก้าวหน้าของมวลมนุษยชาติ เมื่อสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ของประเทศจีนได้เข้าสู่ยุคใหม่

กองทัพปลดแอกประชาชนจีนได้ปฏิบัติในเชิงลุ่มลึกตามแนวคิดประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกองทัพ กำลังเร่งรัดพัฒนาให้เป็นกองทัพระดับแนวหน้าของโลก เพื่อเป็นการคุ้มครองเชิงยุทธศาสตร์ในการบรรลุเป้าหมายการต่อสู้ในรอบ ๑๐๐ ปี สองเป้าหมาย             และทำให้ความฝันการฟื้นฟูความรุ่งโรจน์ครั้งยิ่งใหญ่แห่งประชาชาติจีนกลายเป็นความจริง

กองทัพปลดแอกประชาชนจีนเป็นกองทัพที่กล้าต่อสู้และมั่นใจในชัยชนะ จะปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์แห่งการพัฒนาของประเทศชาติอย่างเด็ดขาด

เรามีความมุ่งมั่นอย่างเข้มแข็ง ความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ และขีดความสามารถอย่างเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นผู้บุกรุกคนใด แผนมุ่งร้ายและการปฏิบัติการแบ่งแยกดินแดนหรือการแทรกแซงจากภายนอกในรูปแบบไหน เราย่อมจะให้ได้รับความพ่ายแพ้อย่างเด็ดขาด

กองทัพปลดแอกประชาชนจีนเป็นกองทัพที่รักสันติภาพ จะดำเนินนโยบายการป้องกันประเทศในเชิงป้องกันโดยตลอด

ไม่ว่าประเทศจีนพัฒนาไปถึงระดับไหน ก็จะไม่มีวันที่จะครองความเป็นเจ้า ไม่มีวันที่จะขยายอิทธิพล และไม่มีวันที่จะไปบังคับประเทศอื่น

กองทัพปลดแอกประชาชนจีนเป็นกองทัพของประชาชน รับใช้ประชาชนอย่างเต็มหัวใจมาโดยตลอด 

ในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กองทัพปลดแอกประชาชนจีนได้ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ นานา นำร่องในการปฏิบัติหน้าที่ ได้แสดงบทบาทอันสำคัญยิ่งในการต่อสู้กับโควิดที่นครอู่ฮั่นและนครเซี่ยงไฮ้

ขณะเดียวกัน กองทัพปลดแอกประชาชนจีนได้พยายามช่วยเหลือและสนับสนุนประชาชนและกองทัพในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ร่วมกันรักษาความปลอดภัยทางด้านสาธารณสุขของโลก

ประเทศจีนและประเทศไทยมีความเชื่อมโยงทางภูมิศาสตร์ มีความผูกพันทางสายเลือด และวัฒนธรรมมีความคล้ายคลึงกัน ได้สร้างมิตรภาพอย่างแนบแน่นในประวัติศาสตร์การไปมาหาสู่กันนับพันปี

ประชาชนทั้งสองประเทศร่วมทุกข์ร่วมสุขและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ร่วมกันรับมือกับความท้าทายจากโรคโควิด-19 กองทัพทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิด ได้สร้างกลไกการฝึกซ้อมร่วมทั้งกองทัพบก กองทัพเรือและกองทัพอากาศ ความร่วมมือทางด้านการอบรมบุคลากรทางทหาร การฝึกซ้อมร่วมและทางด้านยุทโธปกรณ์ได้ประสบผลสำเร็จอย่างเห็นได้ชัด

 โลกปัจจุบันกำลังเผชิญกับทั้งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบศตวรรษ และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้สันติภาพและเสถียรภาพของโลกและภูมิภาคยังคงเผชิญกับความท้าทายหลากหลาย

กองทัพปลดแอกประชาชนจีนพร้อมที่จะกระชับการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือกับกองทัพไทย ส่งเสริมความไว้เนื้อเชื่อใจกันทางด้านยุทธศาสตร์และมิตรภาพระหว่าง 2 กองทัพ ร่วมกันรักษาความปลอดภัยสำหรับการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันจีน-ไทย เพื่อนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนยิ่งขึ้น และรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ส่งเสริมการพัฒนาก้าวหน้าร่วมกัน

รัฐบาลจีน ประชาชนจีน และกองทัพจีนยินดีที่จะร่วมกับประชาคมโลก รวมทั้งประเทศไทย ผลักดันข้อริเริ่มว่าด้วยความมั่นคงของโลก (Global Security Initiative) อย่างรอบด้าน สร้างวิสัยทัศน์ความมั่นคงที่มีลักษณะร่วมกัน ครอบคลุม ร่วมมือและยั่งยืน

โดยถือการเคารพซึ่งกันและกันเป็นหลักพื้นฐาน ความมั่นคงที่แบ่งแยกมิได้เป็นหลักการสำคัญ และการพัฒนาประชาคมร่วมกันทางด้านความมั่นคงเป็นเป้าหมายในระยะยาว เดินตามเส้นทางความมั่นคงรูปแบบใหม่ที่เน้นการเจรจา แต่ไม่ใช่การเผชิญหน้า เน้นการเป็นหุ้นส่วน แต่ไม่ใช่พันธมิตร

และเน้นการชนะด้วยกัน แต่ไม่ใช่ผลรวมเป็นศูนย์ เพื่ออุทิศภูมิปัญญาและกำลังของจีนในการพิทักษ์สันติภาพและเสถียรภาพของโลกและภูมิภาค และพัฒนาประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันแห่งมวลมนุษยชาติ

เนื้อหาทั้งหมดนี้สะท้อนถึงแนวทางด้านความมั่นคงของจีนในภาวะที่กำลังเผชิญกับความท้าทายจากโลกตะวันตกอย่างน่าสนใจยิ่ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ

แหล่งค้ามนุษย์ใน 3 เหลี่ยมทองคำ

เขตเศรษฐกิจพิเศษหรือ SEZ บริเวณสามเหลี่ยมทองคำที่โยงกับไทยนั้นกลายเป็นประเด็นเรื่องอาชญกรรมข้ามชาติที่สมควรจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยอย่างจริงจัง

พรุ่งนี้ ลุ้นดีเบตรอบแรก โจ ไบเดนกับโดนัลด์ ทรัมป์

ผมลุ้นการโต้วาทีระหว่างโจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (27 มิถุนายน) เพราะอยากรู้ว่า “ผู้เฒ่า” สองคนนี้จะมีความแหลมคมว่องไวในการแลกหมัดกันมากน้อยเพียงใด

เธอคือ ‘สหายร่วมรบ’ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค NLD คนสุดท้าย!

อองซาน ซูจีมีอายุ 79 ปีเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา...และยังถูกจำขังในฐานะจำเลยของกองทัพพม่าที่ก่อรัฐประหารเมื่อกว่า 3 ปีที่แล้ว