ชีวิตคนเรา...........
แต่ละคน มีโอกาส "นับสิบ" ได้ไม่ถึง "สิบครั้ง" หรอก
อย่างเก่ง แค่ ๘ ครั้ง ก็มากแล้ว
แต่จากนี้ไป อีกซัก ๒-๕ ปี การที่แต่ละชีวิตจะ "นับสิบ" ได้ถึง "สิบครั้ง" คืออายุถึง ๑๐๐ ปี ถือเป็นเรื่องปกติ!
พูดแล้วเสียดายแทน "จิ๋นซีฮ่องเต้" ต้องการมีชีวิตอมตะ ส่งคนออกค้นหา "ตัวพืช-ตัวยา" ที่จะทำให้ชีวิตอมตะไปทั่วทุกสารทิศ
แต่ไม่มีซักรายที่ค้นพบ
เมื่อไม่พบ กลับมาหัวขาดแน่ เลยตั้งรกรากกันอยู่ตามเกาะต่างๆ ออกลูก-ออกหลาน เป็นญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม ทุกวันนี้ นั่นแหละ
ถ้าอยู่ถึงตอนนี้ ก็จะไม่มีใครหัวขาด และโอกาสที่ "จิ๋นซีฮ่องเต้" จะเป็นอมตะ มีมากทีเดียว
เพราะหลายวันก่อน "แพทย์จุฬาฯ" แถลง...
"วิจัยสำเร็จ" แล้ว
โมเลกุล "มณีแดง" ยาต้านแก่!
โดยใช้โมเลกุล "มณีแดง" เปลี่ยนเซลล์ "แก่ชรา" ในสัตว์ทดลองให้ "อ่อนเยาว์" ขึ้น
ในอีก ๒ ปี จะทดสอบ "ในมนุษย์"
รักษาโรคต่างๆ ที่เกิดจาก "เซลล์แก่ชรา"
และ "คืนความอ่อนเยาว์" ให้แก่คนสูงวัย เป็นการตอบโจทย์ "สังคมประเทศ" ที่มีผู้สูงวัยมากขึ้นขณะนี้
แพทย์ผู้วิจัย ได้นำโมเลกุลมณีแดง ทดลองกับหนูมาแล้ว ๓ กลุ่ม
-กลุ่มแรก เป็นหนูอายุ ๗ เดือน
-กลุ่มที่สอง อายุ ๓๐ เดือน
-กลุ่มที่สาม อายุ ๓๐ เดือน ที่ได้รับ "โมเลกุลมณีแดง"
โดยย้อม "เซลล์ชรา" ให้เป็น "สีน้ำเงิน"
จะพบว่าหนูวัย ๗ เดือน ไม่ค่อยมี "เซลล์ชรา"
ในขณะที่ "หนูชรา" วัย ๓๐ เดือน มี "เซลล์ชรา" เต็มตับ
ส่วน "หนูชรา" ที่ได้รับมณีแดง สัปดาห์ละ ๑ ครั้ง เป็นเวลา ๒ เดือน ปรากฏว่า "เซลล์ชรา" ในตับจะลดลง
แพทย์ผู้วิจัยบอกว่า.......
“การทดลองนี้ ไม่ใช่การ 'ทำลายเซลล์ชรา' แต่เป็นการ 'เปลี่ยนเซลล์ที่ชรา' แล้ว ให้กลับมาเป็น 'เซลล์ทำงานได้' ตามปกติ"
นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่า "สมองหนูชรา" ที่ได้รับมณีแดง ก็กลับมา "ดีขึ้น” ด้วย
และยังพบด้วยว่า โรคที่พบในเซลล์ชรา เช่น โปรตีนที่พบในเซลล์ชรา, ไขมันในช่องท้อง, พังผืดในตับ "ลดลง"
ในขณะที่รอยแยก DNA เพิ่มขึ้น......
ซึ่งหมายความว่า "เซลล์มีความอ่อนวัย" ขึ้น!
นอกจากนี้ การทดลองมณีแดงกับหนูที่เป็นแผลไฟไหม้ แผลเบาหวาน ก็ได้ผลน่าพอใจ
คือแผล "สมานเร็ว" และทำให้เนื้อหนูนุ่มแน่นขึ้น
เมื่อเปรียบเทียบผลการศึกษายาต่างๆ ในต่างประเทศ ยังไม่พบยาอะไร ที่สามารถ "ย้อนวัย" ได้สมบูรณ์เท่า "โมเลกุลมณีแดง"
โมเลกุล DNA มีศักยภาพและโอกาสส่งเสริมสุขภาพหลายด้าน เช่น ช่วยเพิ่มข้อต่อ DNA ทำให้ DNA ชรา "คืนความหนุ่มสาว" ลบรอยโรคใน DNA
รักษาโรคที่มีกลไกมาจากเซลล์,เนื้อเยื่อ และอวัยวะเสื่อมสภาพที่พบในคนแก่ชราหรือแก่ชราเร็ว จากโรคบางชนิด เช่น เบาหวาน
และโรคที่ปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เช่น สมองเสื่อม, อัลไซเมอร์, หัวใจวาย, ความดันโลหิตสูง, เส้นเลือดแข็ง, การเสื่อมสมรรถภาพในอวัยวะต่างๆ เป็นต้น
รักษาโรคที่ "อวัยวะเสื่อมสภาพ" จาก เช่น ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ปอดพังจากบุหรี่ ตับสมองพังจากสุรา ไตพังจากสารพิษ ฯลฯ
อาจใช้ป้องกันและรักษามะเร็งได้ด้วย!
ชะลอการเสื่อมของร่างกายในเด็กที่มีความผิดปกติของยีนซ่อมแซม DNA
ใช้เสริมความงาม ช่วยให้ผิวพรรณและรูปร่างอ่อนกว่าวัย (คุณพี่ คุณป้า คุณน้า คุณยาย กรี๊ดดดด)
นอกจากนั้นแล้ว
ยังใช้เพิ่มผลิตผลทางการเกษตร เช่น ยืดอายุ การให้นมในวัว การให้ไข่ในไก่ หรือทำให้เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ นุ่มแน่นขึ้น เป็นต้น
ใช้ป้องกันความพิการแต่กำเนิด เนื่องจากความพิการแต่กำเนิด อาจมีกลไกจากความไม่เสถียรของจีโนม
หลังจากแพทย์ผู้วิจัยประสบความสำเร็จในการทดลองในหนูเป็นที่น่าพอใจแล้ว
ทีมวิจัยวางแผน จะนำมณีแดงไปทดสอบในสัตว์ใหญ่ อย่าง "ลิงแสม" เพื่อดูผลการรักษาในระยะยาว
ก่อนที่จะเริ่มการ "ทดสอบในมนุษย์" คาดว่าจะเกิดขึ้นในอีก ๒ ปีข้างหน้า
นี่ผม "เก็บความย่อๆ" แปลงศัพท์วิชาการทางการแพทย์มาเป็น "ศัพท์ชาวบ้าน" เพื่อให้เข้าใจกันง่ายๆ
ก็ยังไม่ได้บอกเลยว่า แพทย์ผู้คนพบ "โมเลกุลมณีแดง" คนแรกของโลกนี้ คือท่านใด?
แพทย์ท่านนั้นก็คือ.........
"ศ.นพ.อภิวัฒน์ มุทิรางกูร" ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ชั้น ๑๑ อาคารแพทยพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
และโมเลกุล "มณีแดง" นั้น อย่าเข้าใจว่าหมายถึงวิจัยมาจากพวก เพชร นิล จินดา อะไรเทือกนั้น
โมเลกุล "มณีแดง" หรือ "RED–GEMs” นี้
ย่อมาจากคำเต็ม "REjuvenating DNA by GEnomic Stability Molecules" นั่นเอง!
ศาสตราจารย์ นายแพทย์อภิวัฒน์ บอกเมื่อปลายปี ๒๕๖๔ ตอนแถลงข่าวว่า
"โมเลกุลมณีแดง มีคุณสมบัติย้อนวัยที่ DNA เป็นกลไกสำคัญที่จะใช้แก้ปัญหาสุขภาพในสังคมสูงวัยได้ ยังเปิดรับองค์กรและผู้ร่วมทำวิจัยในระดับ Translational Research หรือระดับสูงขึ้นไปถึงระดับคลินิก
เทคโนโลยีในการผลิตมณีแดงนั้นไม่ยาก และต้นทุนไม่สูง หวังว่าโมเลกุลมณีแดง จะเป็นกลไกสำคัญที่จะใช้แก้ปัญหาสุขภาพในสังคมสูงวัย
มณีแดงมีศักยภาพเชิงวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่สามารถเพิ่มรายได้ให้ประเทศไทยด้วย”
และบัดนี้...........
ผม...ในนาม "ชราชน" มีข่าวดีจะบอกชราชนด้วยกันทั้งหลายว่า โอกาสที่จะได้อยู่ "นับสิบ" ถึง "สิบครั้ง"
ฝันนั้่น "จะเป็นจริง" แล้วครับ
เพราะ ๒-๓ วันก่อนบริษัท "อินโนบิก" ธุรกิจแขนงใหม่ของ ปตท.ที่แตกยอดจากธุรกิจพลังงานอันอยู่ตัวแล้ว ไปสู่ด้านวิจัย-พัฒนา นวัตกรรม Life Sciences
คือ ด้านเทคโนโลยีชีวภาพ และด้านยา ด้านอาหารเพื่อสุขภาพ โปรตีนจากพืช ด้านเครื่องมือแพทย์
"อินโนบิก-ปตท."
จับมือกับ "จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย"
ร่วมพัฒนางานวิจัย “โมเลกุลมณีแดง” นวัตกรรมต้านเซลล์ชรา เตรียมพร้อม "ทดสอบในมนุษย์" แล้ว!
"ศ.ดร.นพ.อภิวัฒน์" ซึ่งจะเป็นชื่อ "โลกต้องจำ" ในอนาคตอันใกล้ บอกว่า ขณะนี้ การวิจัยและพัฒนาถึงขั้น เข้าสู่การทดสอบในสัตว์คือ "หนู-หมู และ ลิง" แล้ว
การทดสอบใน "หมูแรกเกิด" เมื่อมีน้ำหนัก ๑๐๐ กก. พบว่าเนื้อมีคุณภาพสัมผัสที่นุ่มขึ้น แน่นขึ้น
ปัจจุบันทดสอบใน "ลิงแสม" และ "หนู" ที่เป็นโรคสมองเสื่อมแบบอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน และปอดเป็นพังผืด ทดสอบกับ "ลิงแสม" แล้ว ๓ เข็ม
ในระยะเวลา ๓ สัปดาห์ จากที่วางแผนไว้ ๘ เข็ม ในระยะเวลา ๘ สัปดาห์
ปรากฏว่า "ลิงแสม" ทุกตัวปลอดภัยดี และไม่มีผลข้างเคียงใดๆ
ผมถึงบอกไง ในภาวะเงินเฟ้อ เก็บเงินไว้เฉยๆ จะเสื่อมค่าไปเรื่อยๆ ใครมีเหลือใช้ ลงทุนกับ "ปตท.-อินโนบิก" ไว้ตอนนี้ แล้วแกล้งทำเป็นลืมๆ ซัก ๕ ปี
น้องๆ ถูกหวยรางวัลที่ ๑ บอกไม่เชื่อ!
ไม่ใช่รวยจากน้ำมัน แต่จะรวยจากธุรกิจนวัตกรรม ประเภท New S-Curve ที่ ปตท.บุกเบิกใหม่ๆ นี่แหละ
โดยเฉพาะด้านยา "ชีววัตถุคล้ายคลึง" ด้านอาหารโปรตีนจากพืช อันเป็นอาหารสังคมโลกอนาคต ด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์ การวิทยาศาสตร์ และอาหารสุขภาพ
ยังไม่นับด้านผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีชั้นสูง และที่ ปตท.จับมือกับ "ฟ็อกซ์คอนน์"
ดันไทยเป็น "ศูนย์กลางผลิตยานยนต์ไฟฟ้า" ชั้นนำ!
"ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ" หัวหอก ปตท.ในธุรกิจนวัตกรรมผ่านบริษัทอินโนบิก พูดวันจับมือกับจุฬาฯ ร่วมงานวิจัยมณีแดง ว่า
นอกเหนือจากลงทุนด้านยา อุปกรณ์การแพทย์ และโภชนเภสัชแล้ว
ยังมีเป้าหมายเร่งสร้าง "การพัฒนานวัตกรรม" ของไทยให้เทียบเคียงได้ในระดับสากล ผ่านความร่วมมือกับเครือข่ายทั้งนักวิจัยและมหาวิทยาลัย เพื่อต่อยอดงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์
งานอย่างนี้ ต้องอาศัยการทำร่วมกัน
ทั้งการวิจัยในห้องปฏิบัติการ การวิจัยทางคลินิก การเตรียมความพร้อมทางด้านการผลิตในระดับอุตสาหกรรมการตลาด การขึ้นทะเบียน และทรัพย์สินทางปัญญา
เพื่อ "สร้างมูลค่า" ของงานวิจัยให้เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจไทย
"โดยอินโนบิก (เอเชีย) พร้อมสนับสนุนองค์ความรู้ ด้านการบริหารจัดการโครงการ การทำการตลาดเชิงพาณิชย์
'มณีแดง' เป็นการค้นพบที่น่าสนใจ สามารถต่อยอดในการฟื้นฟูและป้องกันที่มีการประยุกต์ใช้องค์ความรู้ทางด้านชีววิทยาโดยเฉพาะพันธุศาสตร์ สนับสนุนยุทธศาสตร์ของประเทศ ที่ต้องการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ครบวงจร และพัฒนาอุตสาหกรรมการสร้างเสริมสุขภาพให้สมบูรณ์อย่างยั่งยืน หรือ Wellness”
CEO ปตท. "อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์" ย้ำ "จุดอ่อน" ประเทศที่ต้องช่วยกันแก้ไข ว่า
"ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยเต็มตัว จะมีผลกระทบต่องบประมาณค่าใช้จ่ายภาครัฐด้านสาธารณสุข ตลอดจนการขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
ปตท.ตระหนักถึงสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น จึงมุ่งสร้างธุรกิจ New S-Curve เพื่อเป็นแรงสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ
'โครงการมณีแดง' ถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จของนักวิจัยไทยที่น่ายกย่อง และควรสนับสนุนต่อยอดให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม”
ก็เอาใจช่วยครับ......
สำเร็จเมื่อไหร่ "ไทย ๑ ในโลก" เมื่อนั้น คนไทยชีวิตจะได้อมตะกันทั่วหน้า คนอายุ ๗๐ ปี จะลงมาเหลือเท่ากับ ๒๕ ปี
แต่กับ "สัมภเวสี" ห้ามซื้อ-ห้ามขายให้!
วันเสาร์ที่ปลายซอย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อภิสิทธิ์’ ชี้วิกฤติ รัฐฯหลอมขั้วเหลว ระบอบทักษิณฟื้น!!
‘อภิสิทธิ์’ ชี้วิกฤติ รัฐฯหลอมขั้วเหลว ระบอบทักษิณฟื้น!! วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2567 เวลา 09.00 น.
ทักษิณ 'รีเทิร์น' นั่งเมือง
วันนี้คุยเรื่อง "หัวเขียง-หัวขวด" พรรคเพื่อไทยกันต่อ ที่เสนอกฎหมายให้ "นักการเมือง" เข้าไป "ควบคุมกองทัพ"
ร่างฯ 'หัวขวด' เพื่อใคร?
"นักการเมือง" คือคนโง่ เพราะทำอะไรก็ยาก มีกฎหมายหลักคือรัฐธรรมนูญ และกฎหมายลูกคือ พ.ร.บ.ต่างๆ
'Grab rider ต้วง'
ดู "นาฬิกากรรม" แล้ว ก็อยากบอกว่า.... ช่วงนี้ ใครมีธุระอะไร ก็ไปทำซะให้เสร็จ ยังพอมีเวลา
สมรภูมิ ประชาธิปไตย | จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์
สมรภูมิ ประชาธิปไตย จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์ : วันอาทิตย์ที่ 08 ธันวาคม 2567
'ดร.บุญส่ง-นพ.ระวี' ส่องจุดจบ! ระบอบทักษิณ ภาค 2 | อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 07 ธันวาคม 2567