งง!
ตกลงเอาไงแน่ จากบัตรเลือกตั้ง ๒ ใบ หาร ๑๐๐ เป็นหาร ๕๐๐
วันนี้มีข่าวจะกลับไปใช้บัตรใบเดียวอีกแล้ว
ระบบเลือกตั้งของไทยกำลังจะเป็นสูตร ฟิสิกส์ เคมี บวก คณิต เข้าไปทุกที มันเริ่มจะซับซ้อนจนชาวบ้านเขาไม่เข้าใจ
หลังเลือกตั้งนับคะแนนเสร็จยังไม่รู้เลยใครได้เป็นส.ส.บ้าง ต้องเอาเครื่องคิดเลขมาจิ้มคำนวณราวกับข้อสอบปริญญาเอก
ต้องบวกลบคูณหาร ต้องปัดเศษ
พรรคนี้ไม่ได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เพราะโควต้าเต็ม
พรรคโน้นกวาดไปเรียบเพราะถอดสมการแล้ว เก้าอี้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์อยู่ในมือเพียบ
มันซับซ้อนเกินไป
นึกถึงการเลือกตั้งก่อนปี ๒๕๔๐ บางครั้งว่ายากแล้วเพราะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนงงเหมือนกัน มีทั้งพวงเล็ก พวงใหญ่ เรียงเบอร์ ไม่เรียงเบอร์ เขตเดียวคนเดียว แต่ชาวบ้านเขาเข้าใจ
ปิดหีบเสร็จนับคะแนนจบ รู้เลย ไม่ต้องมาคำนวณหาส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ให้เสียเวลา
ข้อเสียของการเลือกตั้งระบบเก่าคือได้ นักเลง ผู้มีอิทธิพล ในพื้นที่มาเป็นส.ส. มีการซื้อสิทธิขายเสียง ทำให้สภาไม่มีคุณภาพ
เป็นที่มาของส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์
จุดกำเนิดส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญตั้งแต่ปี ๒๕๔๐ คือต้องการให้มีนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ กูรู เข้ามาอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้สมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคการเมือง
ไปๆมาๆผู้สมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์อัดแน่นไปด้วย กูรู้ และเจ้าของเงิน ผู้มีอิทธิพล
ในอนาคตก็มีจะหัวหน้าครอบครัว ผอ.ครอบครัว ยันคนทำความสะอาดในครัวด้วย
ปัจจุบันเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญถูกทำให้บิดเบี้ยว และเพิ่มความยากเข้าไปด้วยสูตรคำนวณที่ชาวบ้านไม่เข้าใจ
ว่ากันตรงๆที่ทำกันอยู่ในขณะนี้หาร ๑๐๐ หาร ๕๐๐ ก็เพื่อความได้เปรียบทางการเมือง
สุดท้ายแล้วการเลือกตั้งแบบนี้อาจไม่ตรงกับความต้องการของประชาชน
ขณะที่ปัญหาใหญ่ของการเลือกตั้ง ไม่ใช่เลือกตั้งแบบไหน
แต่เลือกตั้งอย่างไร ไม่ให้มีการซื้อสิทธิขายเสียง การโกง หรือมีน้อยที่สุดต่างหาก
จะหาร ๑๐๐ หาร ๕๐๐ แทบไม่มีประโยชน์อะไรหากยังมีการโกงเลือกตั้งกันอยู่
ทุกวันนี้การโกงเลือกตั้งแนบเนียนกว่าอดีตมาก
หมดยุคแจกปลาเค็ม
หรือแจกรองเท้าข้างขวาก่อนเลือกตั้ง ถ้าได้เป็นส.ส.จะแจกข้างซ้าย
ถ้าไม่ได้ก็รอเลือกตั้งครั้งถัดไป
ปัจจุบันซื้อโดยใช้นโยบายประชานิยมหลอกล่อ
ได้เป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ก็เอางบประมาณแผ่นดินไปผลาญกัน
ก็เข้าทำนองแจกปลามากกว่าแจกเบ็ดนั่นแหละครับ
หลายประเทศทั่วโลกติดหล่มนโยบายประชานิยมจนทำให้โครงสร้างเศรษฐกิจในประเทศมีปัญหา ไทยเราผ่านเรื่องนี้มาแล้ว และกำลังเป็นอยู่
นโยบาย รถคันแรก เป็นตัวอย่างที่ตรงที่สุด
แล้วจะแก้ปัญหากันอย่างไร?
ยากครับ!
ในสภากำลังยุ่งกับเรื่องหาร ๑๐๐ หาร ๕๐๐ คงไม่มีใครให้คำตอบว่า แล้วจะแก้ปัญหาโกงเลือกตั้งกันอย่างไร
มีนักการเมืองหลายพรรคพยายามบอกว่า คะแนนเสียงดี ไม่จำเป็นต้องซื้อ
ไม่มีหรอกครับพรรคที่ปลอดการซื้อเสียง ต่างกันที่ซื้อมากซื้อน้อยเท่านั้น
การเลือกตั้งครั้งถัดไปนี้ สู้กันหนักแน่
เพราะฝั่งหนึ่งบอกแลนด์สไลด์
อีกฝั่งตะโกนลั่นแพ้ไม่ได้เหมือนกัน
เงินไหลเป็นน้่ำ!
ไม่เฉพาะนักการเมืองครับ ประชาชนเองก็มีส่วน แต่จะไปโทษประชาชนทั้งหมดคงไม่ได้ ก็คนมันไม่มีจะกิน ให้ปลามาเท่าไหร่ก็หมด
เดี๋ยวนี้ต่อให้แจกเบ็ด บางคนก็ไม่เอา เพราะมันเคยตัวรับแต่ปลามาตลอด
ปลาไปลักจับมาจากบ่อคนอื่นก็ไม่สน ขอแค่แบ่งกันเท่านั้นพอ
มองไปข้างหน้าการเลือกตั้งมีแต่จะสร้างวิกฤตเสียมากกว่าโอกาส
ถึงเวลาที่คนไทยต้องเรียนรู้เรื่องการเลือกตั้งกันใหม่
การเลือกตั้งไม่ใช่เลือกคนที่ชอบ
เพราะบางคนชอบโจร บางคนชอบคนโกง
เราจึงมีส.ส.โจร ส.ส.ขี้โกง ในสภา
ชอบคนหล่อ คนสวย ก็ได้คนหล่อคนสวยเข้าไปในสภา แต่ไม่เคยอภิปรายในสภา ทำหน้าที่นิติบัญญัติได้ครบถ้วนเลย
การเลือกตั้งจะผลิดอกออกผลก็ต่อเมื่อประชาชนเลือกนักการเมืองที่มีความรู้ความสามรถ เป็นคนมีจริยธรรม เข้าสภา
เป็นหน้าที่ที่พรรคการเมืองต้องเฟ้นหาคนเหล่านี้มาให้ประชาชนเลือก
ไม่ใช่แอะอะ จะสร้างครอบครัวในพรรคการเมือง จนไม่รู้ว่าใครใหญ่กว่ากัน ระหว่างหัวหน้าพรรค กับหัวหน้าครอบครัว
บางคนเหนียมอายไม่อยากเปิดตัว ไม่อยากเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ไม่อยากเป็นนักการเมือง ทั้งๆที่ทำงานการเมืองอยู่ ประชาชนก็งงเป็นไก่ตาแตก มันบรรทัดฐานไหนกันแน่
ครับ...การเมืองไทยสร้างความสับสนได้หมด ถ้ามองไม่ออกตามไม่ทัน ก็ตกเป็นเหยื่ออันโอชะของนักการเมืองไป
ฉะนั้นระบบเลือกตั้งจะเป็นแบบไหนไม่สำคัญ ขอแค่ให้เป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่
ไม่ขัดความรู้สึก
การกลัวว่าพรรคโน้นจะได้ส.ส.เยอะกว่า ฉะนั้นต้องออกกฎหมายสะกัด สุดท้ายก็นำปัญหากลับมาให้แก้กันอยู่ดี เพราะกติกามันไม่เป็นสากล
ประชาชนก็สำคัญมาก หากยังเห็นขี้มูกเป็นเต้าส่วน ก็กินเค็มตลาดชาติ
ไม่มีทางได้ลิ้มลองของหวาน
ประชาธิปไตย หากปรุงให้ดีมันหวานครับ อร่อยน่ารับประทาน
แต่ทุกวันนี้ ประชาธิปไตย เป็นแค่ตัวประกัน
โจรก็อ้างเป็นฝ่ายประชาธิปไตยได้
เห็นกันจะจะว่าในพรรคปกครองกันแบบบริษัท มีประธาน ลูกสาวประธานเที่ยวชี้นิ้วสั่ง ก็บอกว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย
อ้างประชาธิปไตยจนปากมันแผลบ
แต่...ยากครับจะไปแก้ไขอะไรได้ นอกจากนั่งบ่นให้นักการเมืองรำคาญ
ประชาชนกินเค็มยังบอกหวาน แล้วจะได้กินของหวานยังไง
นึกภาพไม่ออกจริงๆ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จ่อคอหอย 'ทักษิณ'
สงสัยกันเยอะพอควร... พรรคเพื่อไทยกับพรรคส้ม ถล่มกันเละในสนามเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี มันของจริง หรือทะเลาะทิพย์
เรื่อง 'ทักษิณ' เพิ่งเริ่มต้น
"ดีค่ะ เพราะก่อนหน้านี้มันไม่ได้เป็นข่าวดีตลอดเวลา ข่าวที่ได้รับวันนี้ถือว่าเป็นข่าวดี รู้สึกดีใจ"
แบบนี้ต้องล้างคุกรอ
เสี่ยงคุกจริงๆ ครับ... วันนี้ไม่มีใครในรัฐบาลพูดเรื่องแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ๑ หมื่นบาท ผ่านระบบบล็อกเชน มีความปลอดภัยสูงสุดกันแล้ว
'ยิ่งลักษณ์' จะกลับไง
ตามที่จั่วหัวไว้เลยครับ "ยิ่งลักษณ์" จะกลับไทยด้วยวิธีไหน นิตยสาร Nikkei Asia อ้างถึงคำให้สัมภาษณ์ของ "ทักษิณ ชินวัตร" ช่วงที่ลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียงเลือกตั้ง อบจ.
ผลาญเงินแผ่นดิน
รอวันฉิบหายครับ... มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบสิ้นคิดของรัฐบาล นึกอะไรไม่ออกก็แจกเงิน ผลาญงบประมาณแผ่นดินหมดไปกับความมักง่ายของนักการเมือง
'ป่าส้ม' ล้อมเมือง
นับเป็นมิติใหม่ทางการเมือง... ปกติเลือกตั้งท้องถิ่น ไม่ใคร่จะเป็นที่สนใจของประชาชนในวงกว้างทั้งประเทศนัก