28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2565 ถือเป็นวันมหามงคล เนื่องจากเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 70 พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่ง “พ.อ.วันชนะ สวัสดี” หรือ “ผู้พันเบิร์ด” รองโฆษกกระทรวงกลาโหม ได้บรรยายพิเศษในงานกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติแก่หัวหน้าส่วนราชการ จ.นครนายก และนักเรียนเสนาธิการทหารบกหลักสูตรหลักประจำชุดที่ 100 ในตอนหนึ่งเมื่อวันที่ 27 ก.ค. เกี่ยวกับข่าวลือให้ร้ายสถาบันว่า “เกิดจากพวกเสียประโยชน์ประกอบกับพวกแสวงประโยชน์ผสมโรงให้ร้ายบิดเบือน” โดยผู้พันเบิร์ดยังเล่าว่าเคยมีคำถามจากน้องชนเผ่าม้ง “วิดารัตน์ แซ่ดี” จากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 57 ว่า มีข่าวลือว่าเมื่อเปลี่ยนรัชกาลแล้ว ชนเผ่าจะถูกขับไล่ออกจากแผ่นดิน ซึ่งในหลวงได้ตอบอย่างเป็นกันเอง ด้วยพระสุรเสียงที่ชัดเจนและเรียบง่ายว่า "ทุกคนเป็นคนไทย มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี จะชนชาติใด เชื้อชาติใด หนูไม่ต้องกลัว ไม่มีใครคิดว่าหนูเป็นอื่น และหนูก็ไม่ได้เป็นอื่น เป็นคนไทย" สะท้อนให้เห็นพระจริยวัตร และเป็นดั่งพระปฐมบรมราชโองการที่พระราชทานอารักขาแก่ประชาชนชาวไทยเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2562 ความว่า "เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป"
หันมาเรื่องการเมืองกันบ้าง ดูเหมือนหลังจากจบศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจกันแล้ว ก็เริ่มเข้าสู่โหมดการเตรียมตัวเพื่อเลือกตั้งใหม่ โดยเฉพาะในเรื่องกฎบัตรกฎหมายต่างๆ ซึ่งก็ เริ่มรื้อฟื้นและปลุกผีทั้งเรื่องหาร 100 และบัตรใบเดียวกลับขึ้นมาให้กล่าวขวัญถึงอีกระลอก ...๐
งานนี้ต้องบอกว่า “วิชิต ปลั่งศรีสกุล” ประธานยุทธศาสตร์ พรรคเศรษฐกิจไทยที่ยามนี้เนื้อไม่หอมเหมือนช่วงศึกอภิปรายกล่าวได้ถูกต้องว่า “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” และรัฐบาลกำลังใช้อำนาจเกินพิกัดแล้ว เพราะไม่เคยมีครั้งไหนที่จะมีการถอนร่างกฎหมายลูกออกไปทบทวน และไปเพิ่มเติมเนื้อหาเหมือนครั้งนี้มาก่อน ...๐
เข้าใจได้ว่าทำไม “ลุงตู่” จะต้องถอนร่างออกมา เพราะต้องไม่ลืมว่าตอนแรกก็เฮโลว่าจะเอาหาร 100 เพื่อให้กฎหมายลูกไปสอดรับกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องบัตร 2 ใบ แต่เมื่อพลิกมาหาร 500 เลยทำให้ต้องวุ่นเป็นลิงแก้แห แล้ว ตอนนี้ยังจะพลิก 360 องศา กลับไปหาร 100 และบัตรใบเดียวอีก เรียกว่าชักเข้าชักออกจนปวดกบาลไปตามๆ กัน …๐
เล่นเอาขนาด “จุติ ไกรฤกษ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ถึงขนาดต้องบอกให้เพลาๆ ลดราวาศอกในเรื่องการมุ้งการเมืองและการแข่งขันกันบ้าง ควรเอาเวลาไปแก้ปัญหาให้ประชาชนในยุคแพงทั้งแผ่นดินจะดีกว่า งานนี้ต้องปรบมือให้ แต่อยากบอกให้ รัฐมนตรีจุติไปกระซิบบรรดารัฐมนตรีต่างๆ โดยเฉพาะระดับผู้หลักผู้ใหญ่กันบ้าง ก็น่าจะดี ...๐
หันมาดูเรื่องพรรคเล็กๆ กันบ้าง โดยเฉพาะพรรคเพื่อชาติ ที่ตอนนี้เรียกผีไม่เผาเงาไม่เหยียบกับ “ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ” อดีตหัวหน้าพรรคเสียแล้ว โดยกรรมการบริหารพรรคจัดประชุมวาระพิเศษแล้วพร้อมใจกันลาออก เพื่อบีบให้ “ส.ส.หนวดงาม” ต้องพ้นตำแหน่งผู้นำไป ที่สำคัญยังได้ร่อนแถลงการณ์แฉซ้ำถึงพฤติกรรมของอดีตหัวหน้าอีก ซึ่งที่ พรรคเพื่อชาติสุดทนก็คงเป็นเพราะพฤติกรรมกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา โดยเฉพาะประโยคที่บอกว่าพรรคเพื่อชาติเป็นวัดร้างที่เต็มไปด้วยสัมภเวสีนั่นเอง แหม! ถึงจะเป็นพรรคเล็กแต่ก็มีศักดิ์ศรี ไม่ให้ใครมาหยามได้ โดยเฉพาะคนที่หนีร้อนมาพึ่งเย็นแท้ๆ ...๐
ส่วนคนนี้ต้องเรียกว่าขาลงของจริง “สิระ เจนจาคะ” หลังจากกลายเป็นอดีต ส.ส.ไปแล้ว ส่งเมียลงชิงเก้าอี้ของตัวเองก็พลาดไปแล้ว ล่าสุดยังมาเจอคดีหมิ่นประมาทก็แพ้อีก โดยล่าสุดศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาให้มีความผิดในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา พิพากษาให้ จำคุก 8 เดือน และปรับ 40,000 บาท และโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี …๐
ทิ้งท้ายด้วยข่าวพรรคเล็กอีกพรรค เมื่อขาร้องกลางเก่ากลางใหม่อย่าง “วัชระ เพชรทอง” อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไปยื่นหนังสือถึง “ชวน หลีกภัย” เรื่องให้สอบสวน “พีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค” หัวหน้าพรรคไทยรักธรรมฝ่าฝืนประมวลจริยธรรม ส.ส.หรือไม่ กรณีเบี้ยวเงิน 21,500 บาท ซึ่งศาลแพ่งพระโขนงก็มีคำพิพากษาในเรื่องละเมิดแล้ว แหม! เห็นอย่างนี้ก็ อยากให้ “เดอะแจ็ค” ร้องเรียนทั่นผู้แทน “รังสิมันต์ โรม” ที่ยังยักแย่ยักยันเรื่องจ่ายหนี้ กยศ.เสียเหลือเกิน เพราะเงินเดือนระดับแสนบาท แล้วยังมีบำเหน็จบำนาญนักการเมืองในอนาคตอีก ทำไมจนป่านนี้ยังไม่คิดจะคืนเงินให้หมดๆ ไป หรือจะรอเข้ามามีอำนาจบริหารประเทศเพื่อผลักดันนโยบายปลดหนี้ กยศ.กันทั้งหมดหรือจ๊ะทั่นผู้ทรงเกียรติ ...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
"นายหัวชวน" ออกโรงตวัดใบมีดโกนกรีดปาก "นายใหญ่" เจ้าของตำแหน่ง สทร. "คุณทักษิณบอกว่าเขาคือนักการเมืองรุ่นใหม่ แต่ผมเป็นนักการเมืองรุ่นเก่าที่ไม่โกง ไม่ซื้อเสียง
บันทึกหน้า 4
ต้องยกนิ้วให้ “โทนี่ วู้ดซัม” เสียจริงๆ เพราะขยับปากแต่ละทีนอกจากสร้างความฮือฮาให้สังคมแล้ว ยัง สร้างภาระให้กับลูกสาวอย่าง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีอีกด้วย โดยล่าสุดก็ในการไปหาเสียงให้ “สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช” ศรีภรรยา “ยงยุทธ ติยะไพรัช” ที่จะลงชิงเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ.เชียงราย เมื่อวันที่ 5 ม.ค.นั่นแล ...๐
บันทึกหน้า 4
เมื่อวันอังคารมีการประชุม ครม.ครั้งแรกในปี 2568 หลังจากผ่านวันหยุดยาวช่วงปีใหม่ 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องมาแก้ตัวแทน พ่อนายกฯ นายทักษิณ ชินวัตร
บันทึกหน้า 4
” นึกว่าจะอยู่ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง อบจ.เชียงราย แต่ที่ไหนได้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับมาในฐานะเป็นเจ้าของรัฐบาล โชว์บทบาทกำหนดทิศทางการทำงานของประเทศ การปรับ ครม. แถมยังด่ากราดคนเห็นต่างในหลายประเด็น
บันทึกหน้า 4
เปิดบันทึกด้วยความตะลึงตึงตึงกับตำแหน่ง "ที่สุด" อีกครั้งของนายกฯ หญิงอายุน้อยที่สุด แพทองธาร ชินวัตร เพราะมีทรัพย์สินอยู่ถึง 13,846 ล้านบาท และตัวเลขที่ออกนี้ วิเคราะห์วิจารณ์กันยกใหญ่ว่า อาจจะเป็นนายกฯ ที่มั่งคั่งที่สุดในโลกนะเออ!! ...0
บันทึกหน้า 4
หลังกลับเข้าสู่โหมดการทำงาน-การใช้ชีวิตประจำวันแบบปกติ ตามปฏิทินประจำปี 2568 กันแล้ว ตลอดปี 2568 ที่เป็นปีมะเส็ง นักวิเคราะห์การเมืองหลายสำนักก็ยังมองว่า การเมืองไทยปีหน้า ก็ยังมีหลายเรื่องให้น่าติดตาม เช่น การเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัดทั่วประเทศ ในวันที่ 1 ก.พ.2568