หน้าหนาวนี้สำหรับชาวยุโรปหนาวแน่!
รัสเซียประกาศลดการส่งก๊าซไปให้กับยุโรปตะวันตก อ้างว่าสาเหตุหนึ่งเพราะต้องปิดซ่อมท่อก๊าซ North Stream 1 ประจำปี 10 วัน
ต่อมา Gazprom รัฐวิสาหกิจพลังงานยักษ์ของรัสเซียก็บอกว่าอาจจะไม่สามารถส่งก๊าซตามสัญญาเพราะ “เหตุสุดวิสัย”
ซึ่งจะทำให้คู่สัญญาไม่อาจจะเรียกร้องให้มีการลงโทษหรือปรับรัสเซียในกรณีที่ไม่อาจจะส่งมอบได้ตามจำนวนที่ตกลงกันไว้
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียออกมาสำทับว่า แม้มอสโกจะทำตามพันธกรณีในเรื่องนี้ แต่ก็ไม่อาจจะรับรองว่าจะสามารถส่งให้ได้ครบถ้วนตามที่ตกลงกันไว้
ต่อมา Gazprom ก็ออกข่าวว่า อาจจะสามารถส่งก๊าซได้เพียง 20% ของความสามารถในการผลิตเท่านั้น ปัญหาเทคนิคเกี่ยวกับกังหันในระบบ
ในบัดดลนั้นเอง สมาชิกสหภาพยุโรปก็ประชุมด่วน สรุปว่าจะร่วมกันลดการใช้ก๊าซลง 15% โดยด่วน
สงครามในยูเครนย่างเข้าสู่เดือนที่ 6 การเผชิญหน้าระหว่างรัสเซียกับตะวันตกมีครบทุกมิติ
ไม่ว่าจะเป็นการสู้รบในสมรภูมิ
การปะทะกันในเวทีทางการทูต
หรือการกดดันซึ่งกันและกันในด้านเศรษฐกิจ
อียูบอกว่าไม่ต้องการจะเป็นเหยื่อของ “การแบล็กเมล์ด้านพลังงาน” จากรัสเซีย
อีกทั้งเพื่อลดความเสี่ยงอันเกิดจากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะสร้าง “ความหายนะ” ให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในความขัดแย้งนี้
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ประชุมแล้วนำเสนอแผนฉุกเฉินนี้ให้ประเทศสมาชิกทั้ง 27
เริ่มด้วยการบอกว่าการปรับตัวเช่นนี้ให้ทำแบบ “สมัครใจ” ก่อน
และหากจำเป็นก็จะพิจารณาอำนาจทางกฎหมายเพื่อบังคับใช้นโยบายนี้ในวันข้างหน้า
เพราะต้องคอยติดตามว่ารัสเซียจะเดินหน้าลดปริมาณก๊าซที่จะส่งให้หรือไม่
หรือถึงขั้นหยุดการส่งออกก๊าซมาให้สมาชิกอียูเลยหรือไม่
เสียงกร้าวที่สุดมาจากประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เออร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน
เธอเป็นหญิงกร้าวที่ออกมาประกาศว่า “สหภาพยุโรปต้องเตรียมแผนเชิงรุกไว้ เราต้องเตรียมตัวรับสถานการณ์ที่รัสเซียอาจหยุดส่งก๊าซทั้งหมดอย่างสิ้นเชิง”
แปลว่าต้องเผื่อสถานการณ์ที่มาพร้อมกับ “ฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุด”
เธอย้ำว่า “นี่คือสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นแบบเดียวกับที่เราเคยเจอมาก่อนแล้ว”
ไม่ต้องแปลกใจที่เธอจะออกมาบอกว่ารัสเซียใคร่ครวญแล้วที่จะต้องเดินหน้าอย่างนี้ เพราะต้องการจะกดดันยุโรปตะวันตกด้วยการลดการส่งก๊าซ”
Gasprom เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลรัสเซีย จึงต้องทำตามที่รัฐบาลสั่งการ
เริ่มด้วยการปิดท่อส่งหลัก Nord Stream 1 ซึ่งส่งก๊าซธรรมชาติไปยังเยอรมนีและยุโรปตะวันตกอื่น
เหตุผลทางการคือ การปิดซ่อมบำรุงรักษาประจำปี
เหมือนจะบอกว่าไม่มีเจตนาซ่อนเร้นทางการเมืองแต่อย่างไร
แต่ไม่มีใครเชื่อ...และปูตินเองก็คงจะรู้ว่าโลกตะวันตกก็คงไม่เชื่อเหมือนกัน
เมื่อไม่มีความชัดเจนว่าการส่งก๊าซจะกลับมาในภาวะปกติเมื่อไร
และแม้จะกลับมาทำงานตามปกติแล้วก็ไม่อาจจะรับรองว่าจะสามารถส่งปริมาณเท่าเดิมหรือไม่
ยุโรปตะวันตกก็เตรียมหนาวได้
ทั้งๆ ที่กำลังเจอกับ “คลื่นความร้อน” ที่หนักหนาที่สุดในประวัติศาสตร์ในหลายๆ ประเทศก็ตาม
ที่ผ่านมารัสเซียเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติถึง 40% ของปริมาณทั้งหมดที่ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปใช้
พอสงครามยูเครนเริ่ม สมาชิกอียูก็ตระหนักฉับพลันว่าจะต้องเริ่มหาแหล่งพลังงานใหม่ๆ มาใช้เพื่อลดการพึ่งพามอสโก
วิ่งกันให้วุ่นเพื่อหาแหล่งพลังงานจากประเทศอื่น เช่น ตะวันออกลาง, เอเชียกลางและทุกแหล่งที่พึงจะหาได้
นอกจากนี้ก็ยังวางแผนให้ภาคอุตสาหกรรมในยุโรปลดการใช้ก๊าซธรรมชาติ
และยังรณรงค์ให้ประชาชนและทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการประหยัดพลังงานอย่างเข้มข้นด้วย
แต่รัสเซียก็จับจ้องว่าสหภาพยุโรปจะมีมาตรการกดดันตนอย่างไร
ซึ่งก็เกิดขึ้นพร้อมๆ กับเรื่องจะหาก๊าซมาชดเชยของรัสเซียที่หายไปอย่างไร
อียูก็เดินหน้ากดดันมอสโกตามคาด
มาตรการชุดที่ 7 เพิ่งได้รับอนุมัติจากที่ประชุมของเหล่าบรรดานักการทูตของอียู 27 ประเทศ
แต่ประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนออกมาแย้งว่า มาตรการคว่ำบาตรรอบที่ 7 ของสหภาพยุโรปที่มีต่อรัสเซียยังไม่เพียงพอที่จะบีบบังคับให้รัสเซียยอมมานั่งโต๊ะเจรจาเพื่อแสวงหาสันติภาพได้
รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าตนกำลังใช้พลังงานเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อข่มขู่คุกคามตะวันตก
ยืนยันว่ารัสเซียยังทำหน้าที่เป็นผู้จัดส่งพลังงานที่ไว้วางใจได้
น่าเชื่อได้ว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเดินหน้ากดดันซึ่งกันและกันอย่างต่อเนื่อง
ปูตินรู้ดีว่ายุโรปตะวันตกกำลังเดือดร้อนทั้งเรื่องขาดแคลนก๊าซ ซึ่งนำไปสู่ราคาข้าวของที่พุ่งพรวดพราด
นำไปสู่ความไม่พอใจของประชาชน
และจะมีผลกระทบต่อการเมืองในประเทศ ซึ่งจะแสดงออกในรูปของการไม่ไว้วางใจผู้นำทางการเมือง
เราเห็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในอังกฤษ, อิตาลีและฝรั่งเศสที่มีผลกระทบต่อความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของยุโรปตะวันตกต่อการสนับสนุนยูเครนในการสู้รบกับรัสเซีย
รัสเซียเชื่อว่าจะต้องให้ความหนาวเหน็บในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงช่วยให้มอสโกบรรลุเป้าหมายทางทหารของตนในยูเครนอย่างแน่นอน
ดังนั้นไม่ว่าฝ่ายไหนจะอ้างเหตุผลอันใด ก็เชื่อได้ว่าทุกอย่างกำลังเดินไปสู่การพิสูจน์ว่าใครจะมีความพร้อมที่จะผ่านฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้เพียงใด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ