เป็นข่าวดีจริงหรือไม่ที่กระทรวง อว. บอกว่าต่อไปนี้จะเรียนปริญญากี่ปีก็ได้ ไม่มีคำว่า “รีไทร์” อีกต่อไป
ผมเชื่อว่านี่เป็นการเดินใน “ทิศทางที่ถูกต้อง” แต่เพียงแค่แก้กฎเกณฑ์เรื่องจำนวนปีที่ผูกกับเรื่องปริญญายังเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ “ช้าไปน้อยไป” อยู่ดี
เพราะคำถามสำคัญที่ต้องถามกันอย่างจริงจังไม่ใช่เพียงว่า
ปริญญาจะมีความสำคัญอะไรอีกหรือไม่?
แต่ต้องถามต่อว่า
มหาวิทยาลัยจะมีความหมายอะไร?
พาดหัวหนังสือพิมพ์ที่บอกว่า
“นิสิต-นักศึกษาเฮ อว.ปลดล็อกเรียนปริญญาตรี-โท-เอก ไม่กำหนดปีจบ”
ควรจะเป็น “มหาวิทยาลัยไทยเลิกมอบปริญญา ปรับตัวเองเป็นสถาบันเรียนรู้ตลอดชีวิต”
อาจจะมีคน “เฮ” น้อย แต่จะเป็นพาดหัวที่ตอบโจทย์ของสังคมไทยมากกว่า
ต้นตอของข่าว “นิสิต-นักศึกษาเฮ” ที่ว่านี้มาจากข่าวที่ว่า
เมื่อสัปดาห์ก่อน คุณศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยกรณีคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษา (กมอ.) มีมติยกเลิกการกำหนดเวลาเรียนปริญญาในระดับอุดมศึกษาทุกระดับเพื่อตอบโจทย์การเรียนของนักศึกษา และนับเป็นหนึ่งในโครงการ 12 เดือน 12 ดี กระทรวง อว.ว่า ยกเลิกการกำหนดเวลาเรียนปริญญาในระดับอุดมศึกษาทุกระดับ เป็นไปตามนโยบายของ นายอเนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทการศึกษาที่เปลี่ยนแปลงไป
ข่าวบอกด้วยว่า
สำหรับการกำหนดระยะเวลาสำเร็จการศึกษาแบบเดิม ระดับปริญญาตรี 4 ปี ไม่เกิน 8 ปี ปริญญาโท 2 ปี ไม่เกิน 5 ปี ปริญญาเอก 3 ปี ไม่เกิน 6 ปี ด้วยเหตุผลคือรีบเรียนรีบจบ
แต่ทุกวันนี้โลกเปลี่ยน เทคโนโลยี สังคม ที่เราจะพัฒนาคน ก็เปลี่ยนไป เป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต หรือ Life-long Learning
ซึ่งการกำหนดระยะเวลา ไม่ตอบโจทย์การพัฒนาคน เพราะระหว่างเรียนเด็กอาจไปทำงาน หรือหาประสบการณ์ต่างๆ ข้างนอกห้องเรียน ตามความจริงการเรียนปัจจุบัน ต้องออกไปทำงาน ทำภาคเอกชน เดินทางท่องเที่ยวหาประสบการณ์เพื่อเรียนรู้ตัวเองและกลับมาเรียนหนังสือก็จะได้สิ่งใหม่ๆ มากขึ้น เพราะฉะนั้นเราไม่ควรจำกัดการศึกษาด้วยเวลา
รองปลัดกระทรวง อว. กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ดี ต้องชี้แจงว่ายังมีการรีไทร์อยู่
หากเรียนไปแล้ว แต่ผลการเรียนไม่ถึงเงื่อนไข แต่หากเรียนได้ผลการเรียนดี แต่ถึงระยะเวลาที่กำหนดก็สามารถเรียนต่อได้
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการปลดล็อกจากกระทรวง โดยเราไม่มีกรอบของเวลา ซึ่งมหาวิทยาลัยก็สามารถกำหนดเงื่อนไขของตัวเองได้
อย่างไรก็ตาม ในอนาคต กมอ.ได้มีการวางหลักเกณฑ์ไว้ว่าปริญญาตรีอาจจะสามารถเรียนจบได้ภายใน 2 ปี แต่ยังติดข้อจำกัดทางกฎหมาย ซึ่งเราต้องมีกฎกระทรวงมาตรฐานอุดมศึกษา ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการกฤษฎีกา ถือได้ว่ากระทรวง อว.จะปลดล็อกทั้งบนและล่าง เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการศึกษาที่หลากหลายสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลก รีบเรียนรีบจบแล้วไปเรียนอย่างอื่นเป็นการเฉพาะทางเพิ่มเติม มีสิทธิ์เลือกมากขึ้น
ท่านรองปลัดกระทรวง อว.บอกด้วยว่า
“ประโยชน์ที่ได้รับจากการปลดล็อก เป็นการเปิดโอกาสให้เกิดการเรียนรู้และสะสมองค์ความรู้ใหม่ๆ เด็กจะมีโอกาสเรียนรู้ตลอดชีวิต หาประสบการณ์ได้มากขึ้น ประโยชน์ทางวิชาการ เราต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วมาก บางทีหลักสูตร การเรียนอาจจะไม่ก้าวทัน แต่หากเรามีการยืดระยะเวลาเรียน เด็กก็สามารถเลือกเรียนได้มากขึ้น อาจจะไปทำงานเอกชน หรือสตาร์ทอัป เด็กจะสามารถรู้ว่าต้องกลับมาเรียนในสาขาวิชาอะไรเพื่อต่อยอด เพื่อจะได้เกิดนวัตกรรม งานวิจัยและองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมได้จากการปลดล็อกในครั้งนี้”
ในความเห็นของผม หากเราจะ “ปลดล็อก” ระบบการศึกษาของประเทศจริง ต้องคิดและทำอีกแบบหนึ่ง
นั่นคือจะต้องตั้งโจทย์ใหม่ว่า
ถ้าเราจะตั้งสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาใหม่ในยุคดิจิทัลที่ความรู้และประสบการณ์จริงไม่ได้อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยอีกค่อไป ยังจำเป็นต้องมีสิ่งที่เรียกว่า “มหาวิทยาลัย” หรือไม่
อะไรจะมาทดแทน?
คำว่า “การเรียนการสอน” จะถูกทดแทนด้วยอะไร?
การเพียงแก้ระเบียบราชการเพื่อไม่กำหนดจำนวนปีเพื่อทำปริญญาแค่นี้จะตอบโจทย์โลกยุคใหม่นี้จริงหรือไม่?
ช่วยกันตั้งโจทย์ใหม่เพื่อหาคำตอบใหม่กันเถิดครับ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ