รถไฟ 'ไทย-ลาว-จีน'

ด้านอารักขาความปลอดภัย ผมเชื่อมืออยู่แล้ว แต่ห่วงอยู่ ๒ เรื่อง คือเรื่อง "ขบวนการดิสเครดิต" ก่อม็อบป่วนให้เป็นข่าว

และเรื่องมุ่ง "ด้อยค่าประเทศ" โดยสร้างข่าวสารบิดเบือนปล่อยผ่านโลกไอที ที่เป็นงานง่าย แต่ตามแก้ยาก

มีอยู่เรื่่องที่ฝ่ายค้าน-เพื่อไทย หยิบประเด็นมาโจมตีรัฐบาลตอนอภิปราย จนฟังทุเรศในโมหจริต

พลเอกประยุทธ์บริหารมา ๘ ปี ทำประเทศล้าหลังกว่าลาว อย่างวันนี้ ลาวมีรถไฟฟ้าความเร็วสูง "ลาว-จีน" วิ่งแล้ว

ส่วนไทย....

๓-๔ ปีแล้ว ทำได้แค่ ๓ กิโลเมตรกว่าๆ เท่านั้นเอง!

ยิ่งเทียบกับสิงคโปร์-มาเลย์ด้วยแล้ว ประเทศไทยยุคประยุทธ์บริหาร "แพ้เขาหลุดลุ่ย"

ฟังแล้วอายแทนความงั่งผู้อภิปราย

เรื่องรถไฟจีน-ลาวนี่ นอกจากฟังในสภาแล้วยังเห็นขบวนการชังชาตินอกสภายกมา "เบิ้ลรัฐบาล" เป็นประจำ             บางทีผมก็นึกสงสาร "สถาบันศึกษา" ที่จบกันมา

จบมาเป็นบัณฑิต แต่พอเป็นสามนิ้ว-เป็น ส.ส.ในครอบครัวใหญ่ จากบัณฑิต กลายเป็น "หมาในคอกแม้ว" เห่าตามโซ่ส่งเดช

ถ้าใจไม่บอด หู-ตาไม่บอด มีมือถือก็อย่าเอาแต่เปิดดูรูปโป๊ หัดอ่านข่าวสาร-ข่าวโลกบ้าง จะได้ไม่อภิปรายอะไรที่เป็นการ "ด้อยค่าตัวเอง"

อย่างตอนที่อภิปรายกันในสภา........

เมื่อ ๒๒ ก.ค.อดีตนายกฯ มาเลเซีย "นาจิบ ราซัค" โพสต์ข้อความ และมีคนนำมาแปล อ่านดูนะ เผื่อจะเป็น "หมาตาสว่าง" ขึ้นมาบ้าง

......................

Bangkokfuture

 อดีตนายกฯ มาเลย์...ตัดพ้อ!!

อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นายนาจิบ ราซัค โพสต์ข้อความ #ตัดพ้อต่อว่าทางการเมือง เมื่อ 22 กรกฎาคม 2565 ระบุว่า

"...มันน่าเศร้าใจ ที่ผมต้องเห็นภาพพวกนี้ มันคือ #รถไฟความเร็วสูง แต่มันไม่ใช่รถไฟความเร็วสูงของมาเลเซีย

แต่เป็นของประเทศเพื่อนบ้าน (ไทย)

ดูการพัฒนาของประเทศเพื่อนบ้านปัจจุบัน ตอนผมเป็นนายกฯ วางแผนเศรษฐกิจประเทศว่า เราต้องนำหน้ากว่าใครในภูมิภาคนี้

...การที่จะนำหน้าประเทศรอบๆ โครงสร้างพื้นฐาน เราต้องพัฒนาตลอด

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน จะเกิดเม็ดเงินในเศรษฐกิจ และสร้างงานให้กับประชาชน

นักศึกษาที่จบใหม่ จะมีงานรองรับ และได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีไปด้วย สร้างรายได้ให้กับพื้นที่รอบๆ ด้วย

แล้วพอพรรค Pakatan Harapan มาเป็นรัฐบาล เกิดอะไรขึ้น ตัดงบนั่นนี่ ยกเลิกโครงการนี้ ยอมจ่ายค่ายกเลิกโครงการ เพราะเป็นรัฐบาลนาจิบสร้าง"

โพสต์ของอดีตนายกฯ มาเลเซีย อ้างอิงโครงการรถไฟฟ้าข้ามจังหวัดของประเทศไทย จากกรุงเทพฯ ไปนครราชสีมา ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างในปัจจุบัน!

Cr: Mawin Pongin แปลความ

--------------------------------

เป็นไงล่ะ......

ที่ว่า "ไทยล้าหลังมาเลย์ด้านพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน" อดีตนายกฯ มาเลย์ออกปากเองนะ ใช่ว่าพูดกันเอง

ไม่เหมือน "โทนี่-ขี้้โม้" ของพวกคุณหรอก แต่ละคำคุย เข้าตำราฝรั่งเปี๊ยบ ที่ว่า "The dog ขี้ nobody ยก  tail.

ความจริงในความเป็น "บ้านใกล้-เรือนเคียง" โดยเฉพาะอย่าง ไทย-ลาว-เขมร-เวียดนาม-มาเลย์-พม่า

ไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติสนิท ตัดขาดจากกันไม่ได้!

นอกจากต้องไม่อิจฉากันแล้ว ยังต้องเกื้อกูลช่วยเหลือเฟือฟายกันยามมีปัญหา ต้องปันทุกข์-ปันสุขกัน ต้องให้กำลังใจกัน-ส่งเสริมกัน

ไม่ใช่ยกประเทศนั้่น มาเหยียบประเทศนี้ หรือเที่ยวว่า ใครก้าวหน้ากว่า-ใครล้าหลังกว่า

ไม่ดีหรอก การทำอย่างนั้น.........

นอกจากไม่เกิดประโยชน์ทางสร้างสรรค์แล้ว ยังเป็นการทำลายมิตร สร้างบาดหมางระหว่างคนแต่ละชาติด้วยกัน

ก็คิดดู ใครมาว่าไทยเรา เราก็เคือง แม้พวกที่ว่าชังชาติก็เถอะ จริงๆ แล้วก็รัก ผมเชื่อ เพียงติด "โรคสามสัสระบาด" ชั่วคราวเท่านั้น

ในทางกลับกัน เราไปว่าเขา เขาก็ต้องเคืองเหมือนกัน  ส่วนที่ชอบด้อยค่าประเทศตัวเอง...เวียดนามแซงหน้าไทยบ้าง..ไทยล้าหลังลาวบ้าง

แบบนั้น ในความเป็นคนไทยสไตล์ผม ผมเฉยๆ แฮะ

ด้อยค่าประเทศตัวเอง ก็เหมือนด่าโคตรเหง้าตัวเอง สุดท้ายตัวเอง-ฉิบหายเอง

ส่วนการเชิดชูประเทศเพื่อนบ้าน ทำไปเหอะ เชิดชูเขานั้นดี อย่ายกมาพูดในทางหยามเขาก็แล้วกัน มันไม่ดี

ผมน่ะ ไหว้พระก่อนนอน นอกจากขอให้ประเทศเจริญรุ่งเรือง คนไทยร่มเย็นเป็นสุุขแล้ว ยังเผื่อแผ่ให้เพื่อนบ้านเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวย..ร่ำรวย ด้วย

ก็คิดดูซี......

เมื่อ ลาว เขมร เวียดนาม พม่า เจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีมีสุข ร่ำรวยเงินทอง

ไทยเราเป็นประเทศผลิตสินค้าอุปโภค-บริโภคส่งออกมากมาย ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้าน เขานิยมชมชอบซื้อหา เพราะคุณภาพดี

เมื่อต่างมีทัศนคติที่ดีต่อกัน เราผลิตของไปขาย เขามีเงิน เขาก็ต้องเป็นลูกค้าเรา ซื้อหาสินค้าไทย เราก็ซื้อสินค้าเขา รวยด้วยกันไปแบบนี้ ไม่ดีกว่ายกประเทศเขามาเหยียบเรา ยกเราไปเหยียบเขาดอกหรือ?

เพื่อเป็นความรู้ประกอบการเป็น ส.ส.ภาคอีสานที่ชอบยกเรื่องรถไฟ "ลาว-จีน" มากระแนะ-กระแหนประเทศตัวเองบ่อยๆ อ่านข้อมูลนี้ไว้ เวลาจะด่ารัฐบาล จะได้ด่าแบบมีภูมิ

..........................

ฟ้าแจ่มใส

เปิดความแตกต่างโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน  VS โครงการรถไฟลาว-จีน

"กรมการขนส่งทางราง" เผยความแตกต่างระหว่างโครงการรถไฟความเร็วสูง "ไทย-จีน" กับโครงการรถไฟ "ลาว-จีน" ดังนี้

 “โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน”

ไทยลงทุนและดำเนินการก่อสร้างเอง 100% จีนช่วยงานโยธา คือ ออกแบบ ควบคุมงาน ติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกล

เป็นรถไฟ "ทางคู่" ตลอดเส้นทาง รองรับความเร็วสูงสุด  250 กม./ชม. ต้นทุน กม.ละ 358 ล้านบาท

 “โครงการรถไฟลาว-จีน”
เป็นการร่วมลงทุนระหว่างลาว 30% จีน 70% เป็นรถไฟ "ทางเดี่ยว" ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. ต้นทุน กม.ละ 480 ล้านบาท

แม้ไทยจะก่อสร้างได้ "ช้ากว่าลาว" ซึ่งให้สัมปทานแก่จีนรับเหมาก่อสร้างแบบเบ็ดเสร็จ

แต่วิธีการนี้ทำให้ไทย "มีอิสระ" ในการกำหนดแผนการเดินรถ ไม่เสียสิทธิ์การใช้พื้นที่ข้างทาง

และจ้างพนักงานทั้งหมดเป็นคนไทยได้ ตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้บริการเดินรถ

ปัจจุบันรถไฟความเร็วสูง "ไทย-จีน" ระยะที่ 1 ช่วง  "กทม.-นครราชสีมา" อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2569

ระยะที่ 2 ช่วง "นครราชสีมา-หนองคาย" คาดว่าจะเสนอ ครม.ในปี 2565 และเปิดให้บริการปี 2571

นอกจากนี้ ยังมีโครงการรถไฟทางคู่ ช่วง "ขอนแก่น-หนองคาย" อยู่ระหว่างเสนอ ครม.พิจารณา คาดจะเปิดให้บริการในปี 2569

โดยมีคณะกรรมการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่าง "ไทย-ลาว-จีน" ดูแลการเชื่อมโยง "เส้นทางรถไฟระหว่าง 3 ประเทศ"

.................................

สรุปย่อๆ รถไฟ "ไทย-จีน" เป็นรถไฟ "ความเร็วสูง" สำหรับโดยสาร เป็นของไทย

ส่วนรถไฟ "ลาว-จีน" เป็นรถไฟธรรมดา ใช้เพื่อขนส่งสินค้าเป็นหลัก เป็นสัมปทานของจีน

ที่เป็นรถโดยสารนั้่น มีแค่ ๒ เที่ยว/วัน คือขาไป-ขากลับ เท่านั้น

ที่จริง มีรายละเอียดควรทราบอีกเยอะ ยกยอดไว้ตอนเหมาะๆ เพราะวันนี้ อยากทำความเข้าใจที่ว่า "ทำไมไทยทำช้า"

ประเด็นสำคัญ เราลงทุนเอง เป็นเจ้าของเอง ไม่ต้องเสียที่ดิน ๒ ข้างทางให้ใคร

เพียงมีเงื่อนไขตกลงกับจีนว่า "การสร้างทางรถไฟความเร็วสูง ไทยสร้างเอง แต่จีนต้องถ่ายทอดเทคโนโลยีทุกขั้นตอนให้"

นี่แหละ คือ "ช้าที่เป็นคุณ" และการยอมลงทุนเองแลกกับการให้จีนถ่ายทอดเทคโนโลยีการสร้างทางความเร็วสูง นั่นเท่ากับ "ซื้อวิชา"

คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม!

นี่ละ วิสัยทัศน์นายกฯ ที่เพื่อไทยด่าว่าโง่ ๓ กิโลแรกที่รับการถ่ายทอดวิทยายุทธ์จากจีนเสร็จแล้ว ที่เหลือต่อจากนี้และที่จะทำต่อๆ ไป

"ไทยสร้าง-ไทยใช้-ไทยเจริญ"!

คนปลายซอย