ต้องยอมรับจริงๆ ว่าสถานการณ์ค่าเงินบาทในเวลานี้มีความผันผวนและอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันค่าเงินบาทวิ่งอยู่ที่ 36.50-36.70 บาท/ดอลลาร์
แต่ไม่ใช่ไทยประเทศเดียวที่เจอปัญหาค่าเงินอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสหรัฐ อย่างค่าเงินเยนของญี่ปุ่นก็เริ่มจะไม่เย็นแล้ว เพราะในรอบปีที่ผ่านมาที่การอ่อนค่าไปถึงเกือบ 20% ซึ่งถือว่าเป็นการอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 20 ปี
ปรากฏการณ์ค่าเงินอ่อนค่าไปทั่วโลกในครั้งนี้ ปัจจัยก็มาจากการที่ธนาคารกลางของสหรัฐ มีการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดปัญหาเงินเฟ้อในประเทศของเขา และเมื่อการขึ้นดอกเบี้ยที่แรง ก็เป็นเรื่องปกติของเงินที่มีสถานะเป็นของไหล ก็จะไหลไปยังที่ที่มีผลตอบแทนสูงเป็นเรื่องธรรมดา
และแน่นอนในเรื่องของค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงต่อเนื่อง ก็สืบเนื่องจากเงินไหลออกวิ่งไปสหรัฐเช่นเดียวกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็ประกาศชัดว่าจะไม่เข้าไปแทรกแซงค่าเงินบาท และจะปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติด้วยกลไกตลาด
แต่จากสถานการณ์ที่ค่าเงินอ่อนตัวอย่างรวดเร็ว มันก็ไม่ได้เกิดผลดีต่อภาพรวมของเศรษฐกิจไทยมากนัก แม้มันจะดีในแง่ของภาคส่งออกและการท่องเที่ยว แต่นี่ก็เป็นเพียงข้อดีในทางทฤษฎี เพราะในความเป็นจริง แม้ค่าเงินบาทของเราจะอ่อนลงจริง แต่ต้องไม่ลืมว่าคู่แข่งทางการค้าของเราก็ค่าเงินอ่อนลงเช่นเดียวกัน เรื่องนี้มันเกิดขึ้นทั่วโลก ดังนั้นจะไปคาดหวังว่าบาทอ่อนแล้วส่งออกจะพุ่งทะยานก็อาจจะไม่เกิดขึ้นก็เป็นได้
ขณะเดีย วกันในภาคการท่องเที่ยวที่บาทอ่อนจะทำให้มีคนเข้ามาเที่ยวเยอะขึ้น ก็ต้องไม่ลืมว่าตอนนี้ทั่วโลกเจอปัญหาภาวะเศรษฐกิจขาลงและอัตราเงินเฟ้อกันถ้วนหน้า โดยถึงตอนนี้การเดินทางด้วยสายการบินก็มีราคาแพงขึ้นอันเนื่องมาจากต้นทุนค่าน้ำมัน ดังนั้นจะไปหวังนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเพิ่มขึ้นจากค่าเงินบาทอ่อน ก็อาจจะเป็นความหวังลมๆ แล้งๆ เช่นเดียวกัน
ดังนั้นเรื่องค่าเงินบาทอ่อนจึงไม่สามารถมองวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ทั้งหมด แต่จะต้องมองวิกฤตและหาแผนรับมือให้รัดกุมมากขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะตามมาได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้นทางของปัญหาค่าเงินบาทอ่อนเกิดจากปัญหาเงินดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นก็ต้องตีโจทย์ให้แตกว่าจะรับมืออย่างไร ต้องไม่ลืมว่าสหรัฐเองก็เจอปัญหารุมเร้า โดยเฉพาะเงินเฟ้อที่ยังพุ่งสูง ซึ่งในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา อัตราเงินในสหรัฐยังอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง เพราะยังสูงถึง 9.1% สูงที่สุดในรอบ 40 ปี ทั้งที่สหรัฐเพิ่งขึ้นดอกเบี้ย 0.75% แต่ก็ยังคุมเงินเฟ้อไม่อยู่ ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่สหรัฐจะต้องขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอีกอาจสูงถึง 1% ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในเร็วๆ นี้
ยิ่งสหรัฐขึ้นดอกเบี้ยเร็วก็มีแนวโน้มที่เงินจะไหลออกไปมากขึ้น และผลก็จะสะท้อนออกมาในเรื่องการอ่อนค่าของเงินบาทเพิ่มขึ้นไปอีก ที่สำคัญไปกว่านั้น เมื่อบาทอ่อนลง ปัญหาการซื้อปัจจัยการผลิตและการลงทุนต่างๆ ก็จะตามมาเป็นลูกโซ่ โดยเฉพาะราคาพลังงาน เพราะสินค้าเหล่านี้ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศทั้งสิ้น และเมื่อราคาพลังงานแพงก็จะไปกระทบต่ออัตราเงินเฟ้ออีกเช่นกัน วนเวียนเป็นวงจรอุบาวท์เลยทีเดียว
จนล่าสุดมีเอกชนเริ่มออกมาแสดงความเป็นห่วงว่า บาทจะอ่อนค่าทะลุ 37 บาทต่อดอลลาร์ และยิ่งเป็นตัวกดดันเงินเฟ้อให้เพิ่มขึ้นไปอีก
คงต้องจับตาว่าทางธนาคารแห่งประเทศไทยจะจัดการอย่างไรกับเรื่องนี้ให้ออกมาดีที่สุด เพราะแน่นอนว่าไทยก็คงจะไม่ปล่อยให้ช่องว่างดอกเบี้ยระหว่างไทยกับสหรัฐห่างออกไปมากกว่านี้ เพราะกระทบต่อเงินทุนไหลออกอย่างมาก แต่ขณะดียวกันการขึ้นดอกเบี้ยแรงและเร็วเกินไปก็เป็นผลเสียต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมทั้งจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับผู้กู้ที่มีหนี้สินที่จะต้องแบกภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้น
ก็คงต้องจับตาดูว่า ธปท.จะเลือกตัดสินใจด้วยปัจจัยไหนมากกว่ากัน คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดกันต่อไป.
ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผ่าแผนรับมือรถติดสร้างสายสีส้ม
จากการที่รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะผู้อำนวยการโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เตรียมจัดการจราจรเพื่อดำเนินงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม
เปิดขุมทรัพย์จากพฤติกรรมสุดขี้เกียจ
เชื่อหรือไม่ว่า มีคนจำนวนไม่น้อยที่กดสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันเดลิเวอรี ทั้งที่ร้านอยู่ใกล้แค่ใต้คอนโดฯ สั่งซื้อของจากร้านสะดวกซื้อทั้งที่ร้านอยู่แค่ฝั่งตรงข้าม หรือยอมจ่ายเงินจ้างคนไปต่อคิวเพื่อซื้อของ ทำธุระ
สงครามการค้าเวอร์ชัน 2.0
อย่างที่ทราบกันดีว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐล่าสุด ผู้ชนะก็คือ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งคว้าชัยแบบทิ้งห่างคู่แข่งอย่างนางกมลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต
แห่ส่งเสริมนวัตกรรมพลิกโลก
เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต ออฟ ติงส์ หรือ IoT(ไอโอที) เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญในยุคสมัยนี้ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพราะเป็นนวัตกรรมที่ทำให้การสื่อสารระหว่างมนุษย์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไร้รอยต่อยิ่งขึ้น
OCAแก้วิกฤตพลังงานไทย
ปัจจุบันปริมาณสำรองก๊าซของไทยลดลงอย่างต่อเนื่องจนเข้าขั้นวิกฤต ส่งผลให้ต้องนำเข้าก๊าซ LNG ในราคาที่ผันผวนเพิ่มมากขึ้น มีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นของประชาชนและรายได้งบประมาณของรัฐลดลง
แอ่วเหนือ...คนละครึ่งบูมเศรษฐกิจ
จากสถานการณ์อุทกภัยในช่วงที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ ทั้งในแง่ของการคมนาคม เดินทางเข้าสู่พื้นที่และความเสียหายต่อแหล่งท่องเที่ยว