“จากใจ ถึงใจ..
ท่าน ผู้ว่าฯ กทม.ชัชชาติครับ ในฐานะท่านเป็นเจ้าของวิกหนังกลางแปลง ควรจะสืบสานวัฒนธรรม ประเพณีก่อนการฉายภาพยนตร์ ไม่ว่าในโรงภาพยนตร์หรือกลางแปลง
จะมีการเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี และการยืนถวายความเคารพก่อนหนังฉายทุกครั้ง เราคนไทยได้ถือปฏิบัติกันมานานแล้ว และยังไม่มีการล้มเลิกประเพณีดังกล่าว
ส่วนใครจะยืนถวายความเคารพหรือไม่ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลของบุคคลนั้นๆ
ดังนั้นจึงขอบอก (เตือน) ท่านด้วยความเคารพ เรามีวัฒนธรรมและประเพณีที่ปฏิบัติกันมานานแล้ว
เรื่อง #การเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี และการยืนถวายความเคารพก่อนหนังฉายตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยาย มานานแล้ว
ขอให้ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ คิดดูให้ดี และรอบคอบ อย่าได้เปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกเสีย ตามเสียงนกเสียงกา ขอขอบคุณที่ได้ฟังความเห็น ติติงเล็กๆ น้อยๆ นี้จากผม
การท้วงติงตัวท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ ถึงแม้ทัวร์จะลงผมเท่าไหร่ จะด่าว่าผมยังไงผมก็ไม่สนใจ แต่ขอให้ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติได้อ่าน และถือปฏิบัติบ้างในสิ่งที่ผมติติง
ผมถือว่าท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติยังเป็นคนไทยคนหนึ่งที่ยังเคารพ และนับถือ และแสดงความกตัญญูต่อ สถาบันพระมหากษัตริย์ของประเทศไทย.”
ครับ..ก็เป็นข้อความที่ ม.จ.จุลเจิม ยุคล หรือ "ท่านใหม่" ได้โพสต์ด้วยเจตนาสื่อสารไปถึงคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ซึ่งป่านนี้คงจะได้ถึงหู-ถึงตาท่านผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ไปแล้ว
ส่วนคุณชัชชาติจะมีความคิดเห็นประการใดกับเสียงท้วงติงนี้ ก็ค่อยตามดูตามฟังกันไป สำหรับผมต้องบอกว่า นอกจากเห็นด้วยอย่างยิ่งแล้ว ใคร่จะขอถาม..
ว่าเจตนาลึกๆ ที่แท้จริงของการจัด “เทศกาลกรุงเทพหนังกลางแปลง” ของคุณชัชชาติคืออะไร หนึ่ง!
กับอีกหนึ่ง..หนังที่เลือกมาฉายแต่ละเรื่อง ผู้ใดตัดสินใจ เป็นบุคคล เป็นองค์กร หรือเป็น “คณะกรรมการพิจารณา”?
ที่ถาม..ก็เพื่อคุณชัชชาติจะได้พูด-ได้ตอบให้ชัดเจน และจะได้รู้-ได้เข้าใจตรงกัน จะได้ไม่ต้องระแวง-สงสัย พูดง่ายๆ..ต้องตรงไป-ตรงมากับเจตนารมณ์ของการฉายหนังกลางแปลง!
คุณชัชชาติจะได้ยินหรือไม่ได้ยินก็ตาม ตอนนี้เริ่มมีเสียงซุบซิบ-วิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างหนาหู ว่าการฉายหนังกลางแปลงทุกสัปดาห์ของ กทม. ก็เป็นอีกหนึ่งอีเวนต์..
เพื่อใช้เป็นพื้นที่ชุมนุม-สุมหัวของกลุ่มคนบางคณะที่มีอุดมการณ์เดียวกัน!
กระทั่งหนังที่ฉาย ดนตรี/นักร้องหน้าม่าน ก็ดูเหมือนจะเจาะจงเลือกใช้บริการจากเครือข่ายพวกพ้อง ผู้ไม่ต้องการมาตรา 112 แทบทั้งนั้น!
หรือท่านผู้ว่าฯ รู้อยู่เต็มอก ซึ้งอยู่ในใจ และได้เตรียมหาวิธีแก้ไขอยู่ ก็ขอให้เร่งมือเปลี่ยนแปลงเสียเพื่อที่ทุกฝ่ายจะได้สบายใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมีก่อนหนังฉาย ควรต้องรักษาไว้.. “ส่วนใครจะยืนถวายความเคารพหรือไม่ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลของบุคคลนั้นๆ” ตามที่ ม.จ.จุลเจิมตรัสนั่นแหละ!
เออ..แต่ที่ “นายฮาร์ท” สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล โพสต์แบนเนอร์ข้อความข่าว "จุลเจิม ติงฉายหนังกลางแปลง แอบแฝงเพื่อล้มล้างสถาบันกษัตริย์ ก่อนฉายไม่เปิดเพลงสรรเสริญฯ"
พร้อมข้อความว่า "ผมขอคิดต่อจากมิสเตอร์เจเจ ถ้าเปิดเพลง แล้วปราศจากคนยืน จะไปอย่างไรต่อ?" นั้น
ผมไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะตอนฉายหนังกลางแปลง “2499 อันธพาลครองเมือง” ก็ “นายฮาร์ท” นี่แหละ ที่ได้รับเชิญไปร้องเพลงอุ่นเครื่อง
และนี่ก็พอจะเป็นที่ยืนยันถึงสายสัมพันธ์ที่คนเขาสงสัยว่า ในขบวนการกรุงเทพหนังกลางแปลงนั้น ล้วน..
พวกไม่เอา ม.112 ทั้งเพ?.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ใครกันแน่เตรียมถูกเช็กบิล?
ตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไง? นายทักษิณ ชินวัตร ที่ประกาศเลิกยุ่งเกี่ยวการเมือง จะกลับมาเลี้ยงหลานแบบเงียบๆ ในบั้นปลายชีวิต ถึงได้กล่าว..
ประชาธิปไตยล้าหลังเพราะ..?
ควรเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อนไหม? ผมถามคุณวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรน่ะ เห็น 2-3 วันก่อนท่านให้สัมภาษณ์ว่า..
ไม่ยกมือไหว้คนโกง
ร้อนรนจนออกหน้าไปไหม? ผมถามคุณวันชัย สอนศิริ อดีต สว. ลูกศิษย์วัดไก่เตี้ยน่ะ เห็นโพสต์วันก่อนว่า.. “กระบอกเสียง หรือกระบอกเสีย รัฐบาล..
ไม่ทนต่อการทุจริต?
วันที่ 14 (ธ.ค.) นี้จะให้คำตอบ เหตุผลที่ให้รอฟังว่าจะลงสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หรือไม่ คุณถาวร เสนเนียม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม บอก..
เชื้อชั่วไม่ยอมตาย
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม! เมื่อคิด-วางแผนจะแก้ไขพระราชบัญญัติ จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมใหม่ เพื่อป้องกันการทำรัฐประหาร..
ถามความรู้สึก?
ต่อไปใครจะกลัว? “กลัวไร” ผมถามเพื่อนคนหนึ่ง.. “ก็คุกไง” เพื่อนตอบเสียงเข้ม ก่อนจะว่า.. “แม่งง อุตส่าห์หาพยานหลักฐานกันแทบเป็นแทบตายกว่าที่ศาลจะพิพากษาตัดสินให้จำคุก 48 ปี