ยืมรัฐบาล 'ด่าประจานนาย'

เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของโลกก็ว่าได้ ที่ผู้เขียนบท แทนที่จะให้ "พระเอก" กับ "นางเอก" ได้จุ๊บกันเหมือนภาพยนตร์ทั่วไป แต่กลับเขียนให้นางเอกเป็น "นังตัวโกง" ให้พระเอกเป็นฝ่าย "จับโกง" นางเอก เรียกว่าเรื่องนี้ "พระเอก-นางเอก" คือคู่กัด ไม่ใช่คู่สวีตหวานแหววแนวจูจุ๊บ

เนื้อเรื่องก็ประมาณว่า......

นางเอกมีพี่ชายชื่อ "สิน" เป็นหัวหน้า "ครอบครัวโกง" แต่ถูกจับได้ หนีไปอยู่ต่างประเทศ

ส่งเธอเข้าไป "ปล้นชาติ-โกงแผ่นดิน" ต่อ

โดย "พี่สินคิด-น้องปูเอ๋อทำ"! 

น้องปูเอ๋อ นางเอก-นังตัวโกงในเรื่อง ประกาศ "รับจำนำข้าวทุกเมล็ด" ราคาเกวียนละ ๑๕,๐๐๐ บาท เป็นราคาทิพย์ เพราะสูงกว่าที่ซื้อขายกันในตลาดโลก

พี่สินที่สมองแหลมปานสมองลิง วาดแผนหรูว่า เมื่อข้าวทั้งประเทศมาอยู่ในกำมือเจ้าเดียวแล้ว ตลาดส่งออกเมื่อ "ไม่มีข้าว" จะส่ง

ก็จะดันให้ "ข้าวในประเทศ-นอกประเทศ" สูงขึ้น

แล้วข้าวรับจำนำปูเอ๋อ ก็จะขายได้ราคาสูงกว่าที่รับจำนำไว้ รายการนี้ "ทริปเปิลวิน" สถานเดียว

มันเป็นแผน "ปล้นชาติ-ปล้นแผ่นดิน" ที่ใช้ชาวนาเป็นฉากบังหน้าที่ผู้เขียนบทเขียนได้ "เหี้ยอำมหิต" ระดับรางวัลออสการ์เลยทีเดียว

ถ้าสำเร็จตามแผน เท่ากับ ๓ ต่อ "กินรวบ"

ได้ทั้งเงินเข้าครอบครัว ได้ทั้งคะแนนนิยมเข้าพรรค

"เข้าฮอส" ครองอำนาจแปลงประเทศเป็นสินค้าครอบครัวได้ตลอดกาล เพราะ "ประชาชนตาบอด" ไม่รู้จักเสือ!

ต่อแรก ได้ภาพว่า นางเอกเป็น "แม่พระมาโปรด" โดยชาวนาส่วนหนึ่ง ถูกหลอกใช้เป็น "ฉากสร้างภาพ" พรางโกง

ขายข้าวได้ "เกวียนละหมื่นห้า" เป็นตัวอย่างทางโฆษณาชวนเชื่อ

แต่ส่วนใหญ่ถูกหักค่าโน่น-นี่ ได้แค่หมื่่นหนึ่ง-หมื่นสอง ซึ่งชาวนาก็ต้องเอา ก็ขนมาแล้วนี่ เหมือนผีถึงป่าช้า ยังไงก็ต้องเผา

ต่อที่สอง ให้พ่อค้า-โรงสี "ในเครือข่าย" ที่รับซื้อไว้ในราคาต่ำกว่าหมื่นห้า นำมาขายให้รัฐบาลในราคาจำนำ "เกวียนละหมื่นห้า" ชนเพดาน

ฟาด "ส่วนต่าง" ไปรอบ

ก็มาถึงต่อที่สาม อุปโลกน์บริษัทผีต่างชาติขอซื้อ แล้วทำ "จีทูจีเก๊" เอาข้าวที่ใช้ "เงินหลวง" ซื้อไว้แพงๆ "ไปขายถูกๆ ให้บริษัทผีขนข้าวไป" อ้างว่า "ส่งออก"

แต่เปล่าหรอก...

ให้บริษัทผีนำกลับมาเวียนเทียนขายให้รัฐบาลในราคาเกวียนละหมื่นห้า "ปล้นเงินหลวง" ไปอีก เป็นรอบที่สาม-ที่สี่

นางเอกแดกจุ "โกงชาติ" จนพุงอืด ชาวนาขายข้าวได้แต่ใบประทวน แต่ขึ้นเงินไม่ได้ซักที เริ่มยกขบวนมาทวง            กลิ่นโกงจำนำข้าวโชยตลบเมืองหนักขึ้น

การเมืองฝ่ายค้านตรวจสอบ ก็พบ "โกงจำนำข้าว" จริงๆ โดยใช้ชาวนาบังหน้าเพื่อถ่ายเงินหลวงเข้ากระเป๋า  ขาดทุนจำนำ ๗-๘ แสนล้านบาท

และ ๗-๘ แสนล้านที่โกงกันไป ทุกวันนี้ ประชาชนทุกคนต้องรับภาระ "ใช้หนี้แทน" ไปราวๆ ๒๐ ปี รวมดอกเบี้ยอีกประมาณ ๓ แสนล้าน

ประชาชนก็ฮือออกมาเรียกร้องให้ "เด็ดหัว" นางเอก-นังตัวโกง เต็มบ้าน-เต็มเมือง

ทางการเข้าไปตรวจตามโกดังต่างๆ ว่าตัวเลขจำนวนข้าวที่รัฐบาลรับจำนำไว้ อยู่ครบตามจำนวนที่ระบุในบัญชีหรือไม่?

ปรากฏว่า หลายๆ โกดัง ทำนั่งร้าน "ตีโป่ง" ข้างหน้ามีกระสอบข้าวเรียงเต็ม แต่ข้างในกลวงโบ๋ ไม่มีข้าวเลย!

นี่จึงเป็นที่มาของภาพยนตร์เรื่อง "เด็ดหัวสอยนั่งร้าน"  ที่ฝ่ายค้าน-เพื่อไทย จะนำมา "ฉายหนังกลางสภา" วันนี้  จนถึงวันที่ ๒๓ กรกฎา

เพื่อให้พิจารณากันว่า ภาพยนตร์เรื่อง "เด็ดหัวสอยนั่งร้าน" นำแสดงโดยพระเอก-นางเอก "คู่กัด" เรื่องนี้  

เป็นเรื่อง "สะท้อนจริง" ของพรรคไหน?

ระหว่างพรรครัฐบาลประยุทธ์ ยุคนี้ กับพรรครัฐบาลปูเอ๋อ ยุคก่อนหน้า ในปี พ.ศ.๒๕๕๔-๒๕๕๗?

แล้วให้โหวตกัน.....

ว่าเรื่องเด็ดหัวสอยนั่งร้านนี้ จำลองพฤติกรรมจริงมาจาก "พรรคไหน-ฝ่ายไหน" กันแน่?

"เพื่อไทย" ตั้งชื่อเรื่องนี้ ผมยกทั้งนิ้วโป้งมือ-นิ้วโป้งเท้าให้หมดเลย

"เด็ดหัวสอยนั่งร้าน" ใครเป็นคนตั้ง ไปรับรางวัล "บั้นท้ายเท้าทองคำ" จากนายใหญ่ได้เลย!

ทักษิณจะรู้ตัวมั้ยเนี่ย ว่าตอนนี้ "สมุนในคอก" ตาสว่างกันแล้ว โดยเฉพาะ ส.ส.จากภาคอีสาน

ว่าพวกเขาถูกทักษิณเทียมแอกให้ลากไถทำนาแลกกับฟางแห้งยาไส้มาเป็นเวลา ๒๐ ปีแล้ว

ก็จริงมั้ยล่ะ "ภาคอีสาน" เป็นภาคเดียวที่มี ส.ส.มากที่สุด เรียกว่าพรรคไหน ได้ ส.ส.จากอีสานภาคเดียว ก็ตั้งรัฐบาลได้เลย

เพื่อไทยที่ใหญ่อันดับ ๑ ทุกวันนี้ ก็ไม่เพราะ "ส.ส.อีสาน" เป็นเสาหลักค้ำฐานอำนาจทักษิณอยู่หรือ?

แล้วดูซิ เพื่อไทยที่มี ส.ส.อีสานสร้างอาณาจักรอำนาจให้ทักษิณ

แล้วมีซักคนมั้ย....

ที่ทักษิณไว้ใจ วางตัว "ใครซักคน" ไว้ในตำแหน่ง "ว่าที่นายกฯ" ของพรรค?

ไม่มีเลย

อย่าว่าแต่ตำแหน่ง "นายกฯ" เลย เอาแค่ตำแหน่ง "หัวหน้าพรรค" ทักษิณก็ไม่เคยให้เครดิต ส.ส.อีสาน ที่จะให้ขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งนั้นซักคน

เพื่อไทยมีนายกฯ ไปแล้ว ๔ คือ ทักษิณ สมัคร สมชาย ยิ่งลักษณ์

เป็นคนในครอบครัวทักษิณซะ ๓ มีเพียงอดีตนายกฯ สมัครคนเดียวที่ทักษิณใช้เป็นนอมินี

แล้วก็หักหลังนายกฯ สมัคร ทิ้งให้ท่านตรอมใจ จนโรครุมเร้า เสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยวในที่สุด

มาดูตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยบ้าง ก็ "ไม่มี ส.ส.อีสาน" อีกเช่นเคย

นอกจากทักษิณ ก็มี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์, นายปลอดประสพ สุรัสวดี (รักษาการ), นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์  แล้วก็ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว

มีมั้ย ส.ส.อีสานที่ทักษิณไว้ใจและให้เกียรติขึ้นตำแหน่งหัวหน้าพรรค ทั้งที่ในพรรค ส.ส.อีสานมากสุด

นับตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๐ เรื่อยมา ไปพลิกทำเนียบนายกรัฐมนตรีดูซิ มีนายกฯ จาก "ส.ส.อีสาน" ซักคนมั้ย?

ทั้งที่ภาคอีสาน มี ส.ส.มากที่สุดกว่าทุกภาค คือ กว่า  ๑๓๐ คน และทุกวันนี้ พรรคเพื่อไทย เรียกว่า "พรรค ส.ส.อีสาน" ก็เรียกได้

แต่ไม่มี ส.ส.อีสานเป็นนายกฯ เลย และแค่ตำแหน่ง "หัวหน้าพรรค" ของเพื่อไทย ก็ยังไม่มี!?

ส.ส.อีสานในเพื่อไทย ไม่เคยตระหนักถึง "สิทธิพึงมี-พึงได้" บ้างเชียวหรือ?

และผมก็ไม่เชื่อว่า พี่น้องอีสานเขาเลือกพวกท่านมา เพียงเพื่อให้เป็น "ขี้ข้าตระกูลทักษิณ" แค่นั้นแน่!

นายกฯ คนใต้ นายกฯ คนเหนือ นายกฯ ภาคกลาง  นายกฯ คนกรุงเทพฯ มีครบทุกภาค

ยกเว้น "ภาคอีสาน" ที่ประชากรมากที่สุด ส.ส.มากที่สุด

แต่ "ไม่ได้เป็นนายกฯ" ให้คนอีสานได้ภาคภูมิใจเลยซักคน!?

พูดกันแฟร์ๆ ระหว่าง "ชลน่าน ศรีแก้ว" กับ "สุทิน  คลังแสง" ใครเหนือใคร ในบทบาท ส.ส.และการทำงานเป็นแกนทางสภาให้พรรคระหว่าง ๒ คนนี้

สำรวจประชามติคนเสื้่อแดงดูก็ได้ ผมว่า "สุทิน คลังแสง" เหนือกว่าชลน่านแน่

แต่โชคร้าย ที่สุทินเป็น ส.ส.อีสาน ไม่ใช่ ส.ส.เหนือ "ลูกรักเจ๊แดง-เจ๊อ้อ" เหมือนชลน่าน จึงต้องอกกลัดหนอง "กินน้ำใต้ศอก" กล้่ำกลืนในบท "พระรองอกหัก" ไปตลอด

เพราะเป็น "ทองเลี่ยมโจร" ให้เขา แต่โจรก็คือโจร คิดแต่จะปล้นทองอย่างเดียว ดังนั้น หัวข้อที่ใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจ ๑๑ รัฐมนตรีรัฐบาลประยุทธ์วันนี้

จึงมาแนว "ตีวัวกระทบคราด".........

อภิปรายรัฐบาลประยุทธ์ แต่จำลองสันดาน "ครอบครัวโกง" มาด่ากราด เป็นการส่งสัญญาณประจานถึง "ครอบครัวโกง"

พล็อตเรื่อง "ครอบครัวโจร" เพียงเปลี่ยนชื่อตัวละครเป็น พลเอกประยุทธ์ รัฐมนตรีอนุทิน รัฐมนตรีจุรินทร์ และใครต่อใครเรื่อยเปื่อยเท่านั้น

แต่ทั้งคนอภิปรายและถูกอภิปราย รวมทั้งชาวบ้านที่ฟัง เห็นแค่ชื่อเรื่อง "เด็ดหัวสอยนั่งร้าน" ก็ร้องในใจ

"นี่มันถลกลาย-ลอกหนัง 'พี่สิน-ป้องปูเอ๋อ' ประจานอีกรอบนี่หว่า"?

ฝ่ายค้าน-เพื่อไทย เวลาอภิปรายตั้งสติให้ดีก็แล้วกัน  อย่าเผลอหลุดชื่อสิน ชื่อปูเอ๋อ รวมทั้งชื่ออดีตรัฐมนตรีเพื่อไทยที่อยู่ในคุกเชียว

"คุณสุทิน คลังแสง "ผู้อกหักตลอดกาลก็เช่นกัน ตอนสรุป อย่าใจลอยด้วยระกำแล้วสรุป

หัวที่ต้องเด็ด คือ "สิน-ปูเอ๋อ"

และนั่งร้านที่ต้องสอย คือ "หมาในคอก" พี่สิน-น้องปูเอ๋อ

ขืนสรุปแบบนั้น.....

คนที่เพิ่งตัด "ถุงน้ำดี" เหลือแต่ "น้ำชั่ว" ช็อกคาที่ได้นะ จะบอกให้!          

คนปลายซอย