เมื่อสหรัฐฯ 'กระชับ' ไทย

แต่ตอนนี้ "เป็นคนละคน"

จะเคลื่อนไหวแต่ละครั้ง ก้าวหนอ...ยกหนอ เชื่องช้า เหม่อซึม เหมือนตุ๊กตาใกล้หมดลาน

ไบเดนอยู่ในสภาพ "ทั้งถอดใจ ทั้งสังขารไม่ให้" แต่ไม่รู้จะลงหลังเสือยังไง โดยไม่เสียหน้าเท่านั้น!

อันที่จริงเรื่อง "แก่-หนุ่ม" โน พรอมแพลม 

ดูอย่าง ประธานรัฐสภา "ชวน หลีกภัย" ของเราซิ  ท่านตั้ง ๘๓-๘๔ ปี แต่ "อายุแค่ตัวเลข"

ท่านยังแข็งแรงตามวัย สมองปรู๊ดปร๊าด ความจำแม่น และคมกริบเหมือนเดิม

พวกไก่กระดูกอ่อน-กระดูกแก่ นึกว่าท่านหมดน้่ำยา ทำกระพือปีก โก่งคอขันในสภา ถูกท่านเชือดคอขาด เลือดสาด ดิ้นพราดๆ ไปหลายต่อหลายตัว

ส่วนประธานาธิบดีไบเดน อายุแค่ ๗๙ ปีเท่านั้นเอง

น้อยกว่าประธานฯ ชวนตั้ง ๔-๕ ปี แต่ที่มีอาการอย่างนั้น การพักผ่อน การออกกำลังกาย เป็นสาเหตุหนึ่ง

แต่สาเหตุที่สำคัญ คือ.....

"เครียด" ตอนหาเสียงคุยไว้ ๑๐๐ แต่พอได้ตำแหน่ง ทำได้ -๑๐!

เพราะสหรัฐฯ ตอนนี้ ว่าไป "แนวรบทุกด้าน...พ่ายแพ้" ทั้งด้านการเมืองโลก ด้านเศรษฐกิจ-การเงิน และทั้่งด้านสังคมชาติตัวเอง ที่สู่ยุคมิคสัญญี

ยิ่งปิโตรดอลลาร์กำลังพังให้แก่ "ปิโตรหยวน-รูเบิล" ด้วยแล้ว นั่นคือสัญญาณ โลกตะวันตกซันเซต โลกทางตะวันออกซันไรส์

"รัสเซีย-จีน-ตะวันออกกลาง-แอฟริกาใต้ และเอเชีย"  เกิดเป็น "อำนาจใหม่" ดอลลาร์จะไม่ใช่พระเจ้าองค์เดิมอีกต่อไปในศตวรรษหน้า

อย่าว่าแต่ไบเดน ๗๙ เลย ต่อให้คน ๒๐-๓๐ ขวบ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตอนนี้

และเดินนโยบายยุแยงให้เกิดสงคราม ใช้คำว่าสิทธิมนุษยชนไปยุแยงคนรุ่นใหม่ตามประเทศเป้าหมายให้ก่อจลาจล "เปลี่ยนชาติ" ด้วยแล้ว

ก็จะมีอาการอย่างเดียวกับที่ไบเดนเป็นตอนนี้แหละ!

เพราะอะไร?

เพราะสหรัฐฯ มันเสื่อมแล้ว หนี้สินล้นพ้นตัว แต่ยังทำตัวเป็นอันธพาลโลก ยังผยองว่าคองเกรสคือ "พ่อทุกประเทศ" ในโลก

วุฒิสภาสามารถออกคำสั่ง-ออกนโยบาย ส่งคนไปบีบบังคับประเทศโน้น-นี้ ให้ต้องทำตามที่ประเทศตัวเองต้องการได้เหมือนเดิม

เพราะไม่เคยฟังเพลง "แต่นี้ไปไม่เหมือนเดิม" นั่นแหละ ทำให้สหรัฐฯ ที่ "ยิว-ไซออนิสต์" ต้องการให้ทำหน้าที่ "รัฐบาลโลก"

แต่ทำไม่ได้...ก็เครียด

และเครียดนั้น ทำให้คนเป็นประธานาธิบดี "กินไม่ได้-นอนไม่หลับ" หมกหมุ่น-ครุ่นคิด สุดท้าย สิ่งที่ตามมาคือ "โรคอาการทางจิตประสาท"

"จิตตก"!

คือจิตหมดพลัง หมดความมั่นใจ แต่ยังต้องฝืนอยู่-ฝืนทำ "สภาพอาการ" จึงเป็นตามที่หมอแจ็กสัน ให้สัมภาษณ์นักข่าวต่อมานั่นแหละว่า

"ผมรู้ว่าไบเดนมีความสามารถทางปัญญาลดลงเนื่องจากอายุของเขา ตอนนี้สภาพจิตใจของเขาไม่เหมาะแล้ว

ลักษณะการเดินงุ่มง่าม มองเหม่อ จ้องไปในความว่างเปล่า ไบเดนไม่มีศักยภาพทำหน้าที่ผู้นำประเทศอีกต่อไปแล้ว

ประธานาธิบดีเป็นตำแหน่งที่ต้องการทั้งด้านสุขภาพร่างกายและด้านสุขภาพจิตเป็นอย่างมาก เขาจะไม่อยู่ในตำแหน่งครบ ๔ ปี"

วุฒิสมาชิกแจ็กสัน "อดีตหมอประจำทำเนียบขาว" ย้ำ!

เมื่อผู้นำชรา "จิตตก" ทุกโรค-ทุกอาการในวัยคนชรา ก็จะมาประชุมกันครบ

สอดรับกับการวิพากษ์-วิจารณ์ไบเดนที่ "ปล่อยไก่" ในบทบาทประธานาธิบดีประจำ

พอๆ กับนายกฯ ไทยชื่อ "ยิ่งลักษณ์" ที่อ่านโพยภาษาอังกฤษผิดๆ ถูกๆ คำในวงเล็บที่เขาเขียนให้รู้ ไม่ใช่เพื่อให้อ่าน เธอก็อ่านไปด้วย จนเป็นตัวตลกโลก

ไบเดนก็เช่นกัน อ่านตามสคริปต์ จนเผลอพูดคำว่า “end of quote repeat the line”

ซึ่งคนเขียนต้องการสื่อให้เขารู้ว่า "ตรงนี้จบประโยคแล้ว" และให้อ่านซ้ำเฉพาะที่ขีดเส้นใต้

นี่ผมอ่านจากข่าว MGR ออนไลน์ เขามีเชิงอรรถไว้ว่า "ปัญหาการปล่อยไก่ลักษณะนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งที่เขาดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสมัยโอบามาแล้ว"

ไบเดนมีปัญหาในการพูดตามสคริปต์อย่างเห็นได้ชัด  และพอดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี คนในรัฐบาลต้องคอยออกมาแก้ไขกลับลำถ้อยแถลงที่ก่อความเดือดดาลต่างๆ ในนั้น

รวมถึงประเด็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองในรัสเซีย และความเป็นไปได้ในการใช้ปฏิบัติการทางทหารกับรัสเซียและจีน

แม้กระทั่งภายในพรรคการเมืองของไบเดนเองก็มีความกังวลเกี่ยวกับสถานะทางจิตที่เสื่อมถอยของไบเดนเช่นกัน

โดยโพลหนึ่งพบว่า มีผู้ตอบแบบสอบถามชาวเดโมแครตถึง 41% ที่มองว่า "เขาไม่ควรลงมัครรับเลือกตั้งอีกสมัย"

และมีเพียง 35% ที่เชียร์ให้เขาลงสู้ศึกเลือกตั้งอีกรอบ

ที่ผมหยิบเรื่องไบเดนมาเล่าสู่กันฟัง เพราะได้อ่านข่าวจากเพจ "บูรพาไม่แพ้"

ว่าไบเดนกำลังจะส่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ มาประจำประเทศไทย หลังจากมีแต่ระดับ "อุปทูต" มาเป็นเวลานาน

ถ้าเป็นจริงตามที่เป็นข่าว........

ผมว่า นี่ไม่ใช่การส่งเอกอัครราชทูตมาเพื่อสัมพันธ์เพิ่มพูนระหว่างไทย-สหรัฐฯ

แต่มันเป็นการส่งมา "ทำลายความสัมพันธ์และความเป็น 'มหามิตร' ระหว่างไทย-สหรัฐฯ" โดยตรง

เพราะการส่งเอกอัครราชทูตมาครั้งนี้ มาเพื่อ "เป็นเจ้าเข้าครอง" ประเทศไทยชัดๆ

อ่านข่าวตามที่เพจบูรพาไม่แพ้เขารายงานดูนะ

...........................................

"บูรพาไม่แพ้"

ตีหัวตั้งแต่ยังไม่เข้าบ้าน 🇺🇸 ว่าที่ #ทูตสหรัฐ 🇹🇭  ประกาศจะให้ไทยปรับปรุงสิทธิมนุษยชน เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และลดการซื้อพลังงานจาก #พม่า เพื่อกดดันให้รัฐบาลทหารคืนประชาธิปไตย

นายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค Robert F. Godec ว่าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำกรุงเทพฯ ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการต่างประเทศ วุฒิสภาสหรัฐว่า

"ตั้งใจจะช่วยไทยปรับปรุงเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศ และให้ไทยร่วมกดดันพม่าด้วย"

วุฒิสมาชิกสหรัฐตั้งกระทู้ถามนายโกเดคถึง ม.112 ซึ่งส่งผลต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และมีผู้ถูกจับกุมคุมขังมากมาย นายโกเดคกล่าวว่า

"สหรัฐเคารพราชวงศ์ไทยในฐานะสถาบันหนึ่ง และเข้าใจความจงรักภักดีของคนไทยต่อราชวงศ์

แต่เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เขาเคยเน้นย้ำทั้งต่อสาธารณะและในทางส่วนตัวถึงความสำคัญที่ประชาชนแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี โดยไม่ต้องหวาดกลัวการถูกจับกุม และจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

 “ผมขอย้ำว่า คนที่ถูกจับกุมตัว จะต้องได้รับการปฏิบัติโดยเคารพสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างเต็มที่ในระหว่างการดำเนินคดี”

ว่าที่ทูตสหรัฐยังระบุว่า.........
 "จะช่วยเหลือประเทศไทยปรับปรุงสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะเรื่องการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงาน"

โดยเขาบอกว่า "ได้เห็นพัฒนาการบางอย่าง แต่ยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมาก และเขายืนยันจะทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อให้มีพัฒนาการ"

ว่าที่ทูตสหรัฐคนใหม่ยังระบุว่า.....

"จะกดดันให้ไทยลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติและน้ำมันจากพม่า ตามรายงานของหน่วยงานสิทธิมนุษยชนว่า ไทยนำเข้าพลังงานจากพม่าถึงร้อยละ 80

เรากำลังหาทางให้ไทยเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลพม่า  ทางเลือกทุกอย่างวางอยู่บนโต๊ะ รวมถึงเรื่องน้ำมันและก๊าซ

รัฐบาลทหารพม่าได้ทำการอันเหี้ยมโหดและจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหยุดยั้ง”

เขาย้ำว่าเรื่องพม่าจะเป็น "ประเด็นสำคัญที่สุด" เรื่องหนึ่งที่จะหารือกับทางการไทย

องค์กร Human Rights Watch ระบุว่า ปตท.เป็นผู้จ่ายเงินให้กับรัฐบาลทหารพม่ารายใหญ่ที่สุด

ด้วยการซื้อก๊าซธรรมชาติจากบ่อก๊าซยานาดาและซอว์ติกา คิดเป็นสัดส่วนมากถึงร้อยละ 80 ของปริมาณส่งออกทั้งหมดของพม่า

รายได้จากก๊าซธรรมชาติเป็นรายได้ต่างประเทศสำคัญของพม่า มีมูลค่ามากถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/ปี

นายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค......

เคยรับผิดชอบกิจการไทยและ #เมียนมา ในช่วงประจำกรมเอเชียตะวันออก หลังจากนั้นไปเป็นทูตประจำตูนิเซียและเคนยา

เชี่ยวชาญปัญหาแอฟริกา และยังเคยทำงานเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของอิรัก

เขาได้รับการเสนอชื่อจาก "ประธานาธิบดีโจ ไบเดน" ให้เป็น "เอกอัครราชทูตประจำกรุงเทพฯ" คนใหม่

ขณะนี้รอการรับรองจากวุฒิสภา.

..............................................

เห็นทัศนคติพวกวุฒิสภาและว่าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำไทยแล้ว รู้สึกไงกันบ้างครับ?

แต่ผมว่า "สบาย"

เพราะดูหน้าว่าที่ทูตคนนี้แล้ว เราส่ง "ส.ส.ชาดา ไทยเศรษฐ์" ไปคุย ทุกอย่างคงเรียบร้อย

เพราะหน้าท่านทั้งสอง ยังกะ "แฝดฝาเดียว" กันเปี๊ยบ!

คนปลายซอย