คิดเล่น 'เรื่องพลังงาน'

"พลังงาน" เป็นเรื่องธรรมชาติก็จริง

แต่ตอนนี้ "พลังงาน" กลายเป็นเรื่อง "ความเป็น-ความตาย" ของมนุษย์โลกไปแล้ว

สำหรับเมืองไทย......

น้ำมันยิ่งแพง รถยิ่งมาก วันหยุดด้วยแล้ว ถนนแทบทุกสาย กลายเป็น "แพขนานยนต์" ติดหนึบเป็นกาวตราช้าง

มีแต่เสียงบ่น...ไม่มีจะกิน

แต่รถหรู-ราคาแพง "ป้ายแดง" กลับพรึ่บเกลื่อนถนน บาดหู-บาดตา (กู) เหลือเกิน

นี่เพราะ "พิษเศรษฐกิจ" ยุคนายกฯ ประยุทธ์แท้ๆ!

"บริหารยังไง" ของแพง-เงินเฟ้อ แต่ตามห้างคนกลับแน่นยังกะงานวัดฝังลูกนิมิต ร้านอาหารดังๆ เงี้ย เหมือนให้กินฟรี

ยิ่งแบรนด์เนมออกใหม่ ราคาเป็นพัน-เป็นหมื่น เข้าคิวกันยาวตั้งแต่ถนนตกยันท่าเตียน!

รัฐบาลเฮงซวย บริหารล้มเหลว เงินเฟ้อ เศรษฐกิจพัง  ของแพง ชาวบ้านกำลังจะอดตาย

ประยุทธ์...ออกไป ประยุทธ์ออกไป!

นี่เป็นงานที่ "สังคมเมากาว" รับออร์เดอร์มาปั่นทวีต ติดแฮชแท็กรายวัน แถมด้วย hate speech ที่ผู้จ้างจะปั้นคำมาให้อีกตะหากแต่ละครั้ง

ถ้าย้อนกลับไปยุค "รัฐบาลพลเอกเกรียงศักดิ์" ๔๐ กว่าปีที่แล้ว ตอนนั้่น เกิดวิกฤตน้ำมันโลกแบบนี้ จากเหตุการณ์ "สงครามอ่าวเปอร์เซีย" ระหว่างอิรัก-คูเวต

ยุคนั้น ถึงแพง คนก็มีเงินซื้อ

แต่รัฐบาลไม่สามารถจัดหาน้ำมันมาให้คนได้ซื้อเพียงพอ ถึงขั้นต้องปิดไฟบางเวลา จนเกิดเพลง "น้ำมันขาดแคลน คุยกับแฟน ก็ต้องดับไฟ" ขนาดนั้น

มันเป็น "วิกฤตเฉพาะหน้า" ของประเทศ

เพราะประเทศเราไม่มีแผนทางธุรกิจพลังงาน ทำหน้าที่คอยจัดหาน้ำมันเก็บเป็น "คลังสำรอง" ทางความมั่นคงยามฉุกเฉิน

เกิดวิกฤตพลังงานทีไร ประเทศจึงวุ่นวายทีนั้น!

เหตุก็มาจาก เรา "แพ้แต่ชนะ" สงครามมหาเอเชียบูรพา สหรัฐฯ-อังกฤษเขาห้ามไทยค้าขายน้ำมัน

ทั้งประเทศจึงมีแต่ เชลล์ เอสโซ่ คาลเท็กซ์ ม้าบิน ซึ่งเป็นของฝรั่งต่างชาติทั้งนั้่น

จนกระทั่ง "จอมพลสฤษดิ์" ปฏิวัติ "พ.ศ.๒๕๐๐"

ปิดยุคอำนาจ "คณะราษฎร ๒๔๗๕" ยึดครองประเทศ ขับไล่ "จอมพล ป. พิบูลสงคราม" หนึ่งใน "คณะก่อการ" ที่ล้มระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ แล้วสถาปนา "ระบอบประชาธิปไตย" ออกไป

แต่เนื้อแท้-เนื้อใน พวกคณะราษฎร "ยึดอำนาจพระมหากษัตริย์" ไปแล้ว

ก็ "เอากันเอง"

เป็น "คณะราษฎรทรราช" ใต้หนัง "ประชาธิปไตย" คลุม!

เมื่อสิ้นยุคคณะราษฎร ๒๔๗๕ จอมพลสฤษดิ์ก็เจรจาสหรัฐฯ ขอยกเลิกเงื่อนไขผูกมัดไทยนั้น

แต่รัฐบาลก็ไม่มีแผนสร้าง "ความมั่นคง" ทางพลังงานใดๆ นอกจากมีปั๊มสามทหาร ขุดเจาะที่ฝาง          

ตอนนั้น ไทยไม่ใช่ประเทศอุตสาหกรรมเครื่องจักรเพื่อการส่งออก มีแต่ ข้าว ดีบุก ไม้สัก ยางพารา (ของไทยแต่ฝรั่งเจ้าของ) ยืนพื้น

ความมั่นคงด้านพลังงานประเทศ ยังคงฝากไว้กับเชลล์  เอสโซ่ คาลเท็กซ์ ของต่างชาติ อย่างเดิม

เปรียบก็ประมาณว่า ไทยเหมือนเต่า ไม่มีไม้ คือปัญหาอุปสรรคแยงตูด ก็ไม่คิดคลาน

น้ำมันตามปั๊มตอนนั้น ปี ๒๕๑๐ ก็ยังลิตรละแค่ ๓  บาท "แพงสุด" ก็ไม่รู้จะ "คิดยาว" ไปเพื่ออะไร นิ

ถ้าใช้ศัพท์ยุคนี้ ก็ต้องบอกว่า ผู้นำเก็บ "วิสัยทัศน์ด้านพลังงาน" ไว้ในลิ้นชัก

จนหลัง ๖ ตุลา ๑๙

ระหว่างปี ๒๕๒๐-๒๕๒๓ ยุครัฐบาล "พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์" เกิดวิกฤตพลังงานรอบ ๒ จาก "สงครามอ่าวเปอร์เซีย" ระหว่างอิรัก-คูเวต

ความที่ "พลังงานประเทศ" ฝากไว้กับหัวจ่ายตามปั๊มน้ำมัน สงครามอ่าวระเบิดตูม น้ำมันก็ขาดแคลน คุยกับแฟนก็ต้องดับไฟ ไปเท่านั้น

คนไทยเจี๊ยวทั้งประเทศ

เดินขบวน ประท้วงรัฐบาลไม่มีน้ำยา ฝ่ายค้านใช้ข้อมูล "ทั้งจริง-ทั้งเท็จ" เปิดอภิปรายสับแหลกรัฐบาล

ถึงขั้นนักการเมืองปากฉกาจที่วายชนม์ไปแล้วใช้ "เทเลกซ์อัปยศ" คือปลอมขึ้นเอง เป็นข้อมูลยำใหญ่

นายกฯ เกรียงศักดิ์ "ลาออก" กลางสภา!

แต่ก่อนหน้าลาออก พลเอกเกรียงศักดิ์ ตระหนักถึง "ความมั่นคงประเทศ" ด้านพลังงานในอนาคต

"ชาติเสือต้องฝากลาย ชายชาติทหารต้องฝากชื่อ"

จากวิกฤตนั้น พลเอกเกรียงศักดิ์ก่อตั้ง "การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย" หรือ ปตท.ในปัจจุบันนี้ขึ้น ปี พ.ศ.๒๕๒๑ 

เพื่อจัดหาพลังงานให้เพียงพอกับการใช้ในประเทศและมีสำรองยามวิกฤต ทั้งให้จัดหาแหล่งพลังงาน เป็นภารกิจเพื่อความมั่นคงทางพลังงานของชาติ

ภารกิจนั้น เป็นรูป-เป็นร่าง ในยุค "ป๋าเปรม"

คือ "พลเอกเปรม ติณสูลานนท์" เป็นนายกฯ ต่อจากพลเอกเกรียงศักดิ์ ท่านจัดกระบวนทัพสานงานด้านพลังงานต่ออย่างมีประสิทธิภาพ

ปตท.นอกจากทำหน้าที่ "คลังพลังงาน" ให้ประเทศแล้ว  การหาแหล่ง สำรวจ-ขุดเจาะ เพื่อนำประเทศยืนบนลำแข้ง

พลังงานของตัวเอง เร่งรีบทันที

ก็สำรวจพบแหล่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย

ป๋าเปรม ต่อยอดธุรกิจพลังงาน เริ่มโครงการ "อีสเทิร์นซีบอร์ด" ควบคู่

นำประเทศสู่คำว่า "โชติช่วงชัชวาล" ด้วยอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่ย่านแหลมฉบังทันที

ไทยเรากินบุญ "โชติช่วงชัชวาล" ของป๋าเปรมมาร่วม  ๔๐ ปี ใกล้หรี่ดับลงทุกที

"การเงิน-การคลัง" ประเทศ "แข็งแกร่ง-มั่นคง" มาตรฐานโลก ไม่มีใครจะทำให้ล้มละลายได้ในวันนี้ แม้วัน-สองวันนี้ เราถูกโจมตีค่าเงินบาทอย่างหนักก็ตาม

นั่นก็เพราะ ไทยเรา "ซื้อบทเรียน" ราคาแพงมาจากวิกฤต "ต้มยำกุ้ง" เมื่อปี ๒๕๔๐

ทำนองเดียวกัน "พลังงาน" ไทยเรา "ที่แข็งแกร่ง-มั่นคง" แม้เกิดวิกฤตสงคราม "ยูเครน-รัสเซีย" ขณะนี้ ประเทศก็ไม่ขาดแคลนพลังงาน

นั่นเพราะ "วิกฤตพลังงาน" จากสงครามอ่าวเปอร์เซียเป็นบทเรียน และ "พลเอกเกรียงศักดิ์-ป๋าเปรม" วางรากฐาน "ความมั่นคงทางพลังงาน" ไว้ให้ผ่าน ปตท.

จากเงินทุนแค่ ๒ หมื่นล้าน เมื่อ ๔๔ ปีที่แล้ว

ตอนนี้ ปตท.จาก "พลังงานชาติ" โตเป็น "พลังงานข้ามชาติ" ระดับโลก ด้วยเงินทุนกว่าล้านล้านบาทแล้ว

จากอุตสาหกรรมปิโตรเคมีพื้นฐาน ในรอบ ๘ ปีมานี้  "พลเอกประยุทธ์" ต่อยอดโครงการ "อีสเทิร์นซีบอร์ด" ยุคป๋าเปรม ด้วยโครงการ EEC เป็นอุตสาหกรรมนวัตกรรมรองรับสังคมโลกอนาคต

ปตท.ก็ก้าวสู่ยุค "พลังงานอนาคต" ทั้งผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีและปิโตรเลียมขั้นสูง

ขณะเดียวกัน ก็ "แตกโต" จากธุรกิจพลังงาน สู่ธุรกิจนวัตกรรมต่างแขนง "วิจัย-พัฒนา" ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง

คบเพลิง "โชติช่วงชัชวาล" จากยุคป๋าเปรมที่กำลังหรี่ดับ EEC จากริเริ่มนายกฯ ประยุทธ์ ก็เริ่มประกายแสงสู่ "ทางช้างเผือก" อีกครั้ง

ธุรกิจอุตสาหกรรมนวัตกรรม รวมทั้งธุรกิจอุตสาหกรรมเกษตรกรรมไทย

กำลังพุ่งสู่ศตวรรษที่ ๒๑ แบบ "โชติช่วงจักรวาล"!

แต่ ปตท.คล้ายคน "ทำบุญไม่ขึ้น"

วิกฤตพลังงาน "บ้านอื่น-เมืองอื่น" ดิ้นพล่าน "ไม่มีพลังงานใช้" เหมือนไทยเรา ตอนปี ๒๕๒๐-๒๕๒๓

แต่ไทย "ปตท." ในฐานะผู้จัดหา ยี่ห้อเป็นประกันประเทศไม่ขาดแคลนพลังงานเลย แต่ด้วยภาวะวิกฤตสงคราม ทำให้ต้อง "แพงทั้งโลก" เท่านั้น

แทนที่จะเข้าใจ........

กลับเหมือน "ได้คืบ-เอาศอก" ไม่ขาดแคลนแล้ว แต่กูต้องได้เติมราคาถูกด้วย

ทั้งที่ราคาหน้าปั๊มและค่าการกลั่น "รัฐบาลกำหนดเอง" ทั้งนั้น ปตท.ไม่มีสิทธิ์

แต่ ปตท.กลับเป็นที่รองรับอารมณ์สังคม ถูกด่า ถูกค่อนขอด ทั้งขึ้น-ทั้งล่อง ถูกลากไปโขกสับทางการเมือง

ความจริง ทุกวันนี้ ปตท.ใกล้เป็น "มูลนิธิประเทศ" เข้าไป ทุกที ขี้ไม่ออก-เยี่ยวไม่ออก "บอก ปตท."

แล้ว ปตท.ก็ต้องจัดให้

ฝนตก แดดออก น้ำท่วม น้ำแล้ง ไฟไหม้ อุบัติภัย ผดุงสังคม การศึกษา ปลูกป่า กระทั่งว่ากองทุนน้ำมันหมด

ก็ต้อง "ปตท."!

คิดแล้วเสียวแทน นี่ถ้าหากวิกฤตพลังงานจาก "ยูเครน-รัสเซีย" ปตท.จัดหาพลังงานมาป้อนประเทศไม่พอ เหมือนยุคเกรียงศักดิ์ละก็

ตั้งแต่ CEO โด่ง "อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์" ทั้ง ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานบอร์ด ปตท.ไม่ถูกจับ "แล่เนื้อเอาเกลือทา" รึนั่น!?

การที่ ปตท.เข้าลักษณะ "ทำคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์ได้บาป" ผมว่า อย่าน้อยใจไปเลย

นั่นคือการเสริมหนุนให้คน ปตท. "ตบะบารมี" แก่กล้าขึ้นเรื่อยๆ ชัชชาติเขายัง "ทำงาน ทำงาน ทำงาน" แล้วได้เป็น "ผู้ว่าฯ ไลฟ์สด"

ปตท.ก็ต้อง "ทนให้นาน ทนให้นาน ทนให้นาน" ระลึกถึงพระราชดำรัสในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ให้ "ปิดทองหลังพระ" เข้าไว้

ปิดไปเรื่อยๆ.....

แล้วทองจะล้นจากด้านหลังทะลักออกไปด้านหน้าปรากฏให้คนเห็นเอง!

เงินเฟ้อ-บาทอ่อน เซียนเขาแนะให้ไปซื้อดอลลาร์ ถ้าผมถูกหวย "แอปเป๋าตัง" งวดนี้

ได้กี่ล้าน ทุ่มลงทุนซื้อหุ้น ปตท.ที่ราคาถูกๆ ตอนนี้เก็บไว้เป็นมรดกเลย

เพราะผมมองว่า ๕-๑๐ ปี ข้างหน้า การแตกไลน์ข้ามสายพันธุ์พลังงานสู่ "ธุรกิจอุตสาหกรรมนวัตกรรม" ของ ปตท.

ต้องบอกว่า "อนาคต ปตท. = อนาคตประเทศ" ขนาดนั้นเลย!

-เปลว สีเงิน

๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๕

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทักษิณ 'รีเทิร์น' นั่งเมือง

วันนี้คุยเรื่อง "หัวเขียง-หัวขวด" พรรคเพื่อไทยกันต่อ ที่เสนอกฎหมายให้ "นักการเมือง" เข้าไป "ควบคุมกองทัพ"

ร่างฯ 'หัวขวด' เพื่อใคร?

"นักการเมือง" คือคนโง่ เพราะทำอะไรก็ยาก มีกฎหมายหลักคือรัฐธรรมนูญ และกฎหมายลูกคือ พ.ร.บ.ต่างๆ

'Grab rider ต้วง'

ดู "นาฬิกากรรม" แล้ว ก็อยากบอกว่า.... ช่วงนี้ ใครมีธุระอะไร ก็ไปทำซะให้เสร็จ ยังพอมีเวลา