ถ้า..เป็นคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์..
ผมเห็นจะต้องกล่าวคำว่า “ขอบคุณ” ต่อ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) ที่ได้กรุณาโพสต์..
"โตมาแล้ว ถึงรู้ว่าโลกเราไม่ได้มีแต่ “คนดี กับคนเลว” เท่านั้น ยังมีคน “กึ่งดี กึ่งเลว” อีกด้วย และยังมีคนอีกหลายประเภท
แต่ประเภทที่น่าสงสารที่สุด คือ “คนที่ต้องแกล้งทำ เป็นคนที่ไม่ใช่ ตัวของตัวเอง อยู่ตลอดเวลาที่ออกไปนอกบ้าน”
ปลดภาระนี้ออกไปทำงาน จริงๆ เถอะครับ"
ที่ขอบคุณ เพราะนี่คือ “กระจก” บานใหญ่ ที่ได้สะท้อนภาพให้คุณชัชชาติได้เห็น-ได้รู้ ว่าวิธีการพีอาร์ตัวเองที่ทำอยู่เวลานี้นั้น มันเกินความพอดีไปมากแล้ว
ยิ่ง.. “คนที่ต้องแกล้งทำเป็นคนที่ไม่ใช่ตัวของตัวเองอยู่ตลอดเวลาที่ออกไปนอกบ้าน” ด้วยแล้ว ภาระจะยิ่งหนักอึ้ง อาจจะส่งผลต่อหน้าที่การงานได้
เมื่อมีคน (กล้า) ที่สะกิดเตือนด้วยบริสุทธิ์ใจเช่นนี้ คุณชัชชาติก็ไม่ควรที่จะทำเป็นเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ หรือคิดไปว่า เป็นความริษยา ช่างแม่งง อย่าไปใส่ใจเสียงนกเสียงกา
ขอบคุณและน้อมรับไปปรับปรุงแก้ไขเถอะนะ..ประโยชน์ก็เพื่อตัวคุณชัชชาติเองนั่นแหละ!
ครับ..รับรู้ถึงอาการเจ็บป่วยมาเป็นระยะ และก็ได้แต่เฝ้าหวังอยู่ตลอด สักวันเขาก็จะหายเป็นปกติ กลับมาสร้างรอยยิ้ม-เสียงหัวเราะให้กับผู้ชมทุกเพศ-วัยได้
แต่ที่สุด..โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม สัญลักษณ์คู่รายการก่อนบ่ายคลายเครียด ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับโรคร้ายที่มันดื้อยา และได้จบชีวิตลงอย่างสงบ หลังจากที่ได้ต่อสู้กับมันมานานเป็นแรมปี
เนี่ย..ผมเห็นความตายของโป๊งเหน่งแล้วก็ทำให้นึกถึงเนื้อร้องท่อนหนึ่งของเพลงที่ชื่อ “เฝ้าไข้ใกล้เตียง” ที่คุณธานินทร์ อินทรเทพ บันทึกเสียงต่อจากสายัณห์ สัญญา ขึ้นมาในหัว..
“นึกถึงวันแต่งงานของเรา สองคนมือเปล่า ยากจนข้นแค้นเต็มกลืน อุตส่าห์สร้างตัว จนครอบครัวเราดีขึ้น พอมีเงินหมื่น เธอล้มป่วยหมอช่วยไม่ได้”
ฉากชีวิตโป๊งเหน่งดูจะเป็นเช่นนี้ และไม่เฉพาะแต่เขาคนเดียว ตลกคาเฟ่ท่านอื่นๆ เท่าที่ผมรู้จัก-คลุกคลีตีโมงกันมา ชีวิตคู่ก็ดูจะดำเนินคล้ายกับเนื้อเพลงนี้เสียส่วนใหญ่..
ต่อสู้ สร้างตัว-สร้างฐานะกันมา พอได้ลืมตาอ้าปาก ความตายก็มาพลัดพราก จึงยากนะที่อีกคนจะไม่อาลัย-อาวรณ์..
ซึ่งก็ขอแสดงความเสียใจกับภรรยาและลูกๆ ของโป๊งเหน่งเอาไว้ ณ บรรทัดนี้ ขอให้ดวงวิญญาณจงไปสู่สุคติในภพภูมิที่สุขสบายเถิด!
เอ้า..แล้วนั่นเป็นโรคอะไรอีกล่ะ ก็ดู (อ่าน) ข่าวจากผู้จัดการออนไลน์รายงานแล้วกัน...
“เรียกว่าชีวิตพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ หลังป่วยโรคตุ่มน้ำพอง ที่ทำให้ไม่สามารถกลับมาถ่ายหนังเล่นละครได้เหมือนเดิม เพราะร่างกายที่เปลี่ยนไป ต้องยึดอาชีพพ่อค้าออนไลน์
ล่าสุด “เมฆ วินัย ไกรบุตร” ก็ยังต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพร่างกาย อาการกำเริบ หลังฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 เพราะภูมิเด้ง ทำให้มีแผลทั้งตัว กำลังปรับยารักษา
โดยเจ้าตัวเผยภาพหน้าบวม นอนอยู่บนเตียง มีคนป้อนข้าวให้รับประทาน อีกทั้งตอนนี้ยังมีหนี้เพิ่ม 2 ล้าน จากการที่ไปกู้เงินมารักษาตัว “หนุ่ม คงกะพัน” ยื่นมือช่วยเหลือให้ยืมเงิน 300,000 บาท
ซึ่งเมฆ วินัย ก็ได้ออกมาเผยระหว่างไลฟ์สดว่า ตอนนี้ขอแค่หน้าหายบวม ตัวเกลี้ยง หายเป็นตุ่ม เพื่อให้ได้กลับมาเล่นหนังก็พอแล้ว ไม่ต้องหายขาดก็ได้
เพราะยังไงสักวันก็ต้องตาย พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจจากทุกคน”
เข้าใจสัจธรรม-ปลงได้ก็ดี แต่ผมก็ยังเชื่อว่าเมืองไทยเรา น่าจะมีโรงพยาบาล-มีหมอที่จะดูแล-รักษาคุณวินัยให้หายขาดจากโรคตุ่มน้ำพองได้
เมื่อเชื่อเสียอย่างนี้ ผมจึงมีความเห็นคุณวินัยยังจะตายไม่ได้ แต่ถ้าจะตายไปจริงๆ ก็ต่อเมื่อคุณหมอได้รักษาให้หายขาดจากโรคนี้ไปแล้วนั่นแหละ!
สู้ๆ น่า อย่าเพิ่งปลง!.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ใครกันแน่เตรียมถูกเช็กบิล?
ตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไง? นายทักษิณ ชินวัตร ที่ประกาศเลิกยุ่งเกี่ยวการเมือง จะกลับมาเลี้ยงหลานแบบเงียบๆ ในบั้นปลายชีวิต ถึงได้กล่าว..
ประชาธิปไตยล้าหลังเพราะ..?
ควรเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อนไหม? ผมถามคุณวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรน่ะ เห็น 2-3 วันก่อนท่านให้สัมภาษณ์ว่า..
ไม่ยกมือไหว้คนโกง
ร้อนรนจนออกหน้าไปไหม? ผมถามคุณวันชัย สอนศิริ อดีต สว. ลูกศิษย์วัดไก่เตี้ยน่ะ เห็นโพสต์วันก่อนว่า.. “กระบอกเสียง หรือกระบอกเสีย รัฐบาล..
ไม่ทนต่อการทุจริต?
วันที่ 14 (ธ.ค.) นี้จะให้คำตอบ เหตุผลที่ให้รอฟังว่าจะลงสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หรือไม่ คุณถาวร เสนเนียม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม บอก..
เชื้อชั่วไม่ยอมตาย
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม! เมื่อคิด-วางแผนจะแก้ไขพระราชบัญญัติ จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมใหม่ เพื่อป้องกันการทำรัฐประหาร..
ถามความรู้สึก?
ต่อไปใครจะกลัว? “กลัวไร” ผมถามเพื่อนคนหนึ่ง.. “ก็คุกไง” เพื่อนตอบเสียงเข้ม ก่อนจะว่า.. “แม่งง อุตส่าห์หาพยานหลักฐานกันแทบเป็นแทบตายกว่าที่ศาลจะพิพากษาตัดสินให้จำคุก 48 ปี