ก้าวไกล-คุกคามทางเพศ

ก็เป็นธรรมดาครับ คดีแบบนี้สามารถใช้ประโยชน์ทางการเมืองได้ เพราะเป็นเรื่องจริยธรรม ศีลธรรม ของนักการเมือง

วันนั้นพรรคฝ่ายค้านแสดงจริยธรรมอันสูงส่ง ไล่ถลุง  "ปริญญ์" และประชาธิปัตย์เสียน่วม

มาวันนี้เรื่องเดิมๆ ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่ไม่ใช่กับพรรคประชาธิปัตย์

เป็นพรรคก้าวไกล

แต่ก็น่าแปลกที่บรรดาแมลงวันแมลงหวี่ที่เคยบินว่อนเมื่อคราว "ปริญญ์" โดนทุบ วันนี้กลับเงียบกริบ

ไม่เห็นสักตัว!

วานนี้ (๑๒ กรกฎาคม) มีข่าวตั้งแต่เช้าว่า ส.ก.พรรคก้าวไกล ถูกร้องว่าคุกคามทางเพศ

ต้องให้เครดิต "วิโรจน์ ลักขณาอดิศร" แกนนำพรรคก้าวไกล อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ที่ทวีตข้อความ แจ้งเรื่องนี้ว่า

"...ได้รับแจ้ง กรณีที่ ส.ก.อานุภาพ ถูกกล่าวหาว่าได้คุกคามทางเพศ โดยมีความเกี่ยวข้องกับผู้เยาว์ และผมได้เดินทางมาที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ตั้งแต่ตีสี่เศษ เพื่อติดตามเรื่องนี้ ผมยืนยันว่าพรรคจะปกป้อง ดูแล และให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย อย่างเต็มที่ และจะเร่งสอบสวนทางวินัย โดยเร็วที่สุดครับ

สิ่งที่สำคัญ คือ การตรวจสอบข้อเท็จจริง อย่างรอบคอบรอบด้าน เพื่อความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยต้องคำนึงถึงประเด็นละเอียดอ่อน ที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้เสียหายอย่างระมัดระวังที่สุดด้วยครับ

ผม และพรรคได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้ว  และจะมีการแถลงข้อเท็จจริงที่พรรคในเวลา ๑๐.๐๐ น. ครับ..."

ก็เป็นไปตามเวลาที่นัดหมายครับ ๑๐.๐๐ น. "วิโรจน์  ลักขณาอดิศร" เล่าข้อเท็จจริงว่า

"อานุภาพ ธารทอง" ส.ก.เขตสาทร ถูกแจ้งความดำเนินคดีคุกคามทางเพศ

พบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการกระทำที่มีมูล  โดยมีการพาผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้เยาว์ไปเคหสถาน มีการดื่มแอลกอฮอล์ และมีพฤติกรรมเข้าข่ายการคุกคามทางเพศ

โดยพรรคจะดำเนินการต่อไปนี้

๑.เราจะส่งเรื่องให้กับคณะกรรมการวินัยฯ ของพรรคก้าวไกล ให้พิจารณาอย่างเร่งด่วนที่สุด

๒.หากพบข้อเท็จจริงตามมูลข้างต้น คณะกรรมการวินัยฯ สามารถฟันโทษสูงสุดคือการขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรค

๓.ส่วนการดำเนินการตามกฎหมาย ทางพรรคจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่

๔.หากข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความจริง เป็นหน้าที่ของคุณอานุภาพ ธารทอง จะต้องพิจารณาตำแหน่งทางการเมืองของตัวเอง..."

ตามข่าวบอกว่า เว็บไซต์พรรคก้าวไกลได้ลงแถลงการณ์กรณีมีผู้ร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรมของสมาชิกพรรค ลงโทษ ส.ก.มาแล้ว

แสดงว่าเรื่องนี้เกิดมานานแล้ว ทำไมมาตื่นเต้นอะไรกันตอนนี้

แต่พออ่านรายละเอียดอีกที เป็นกรณีของ ส.ก.อีกคนของพรรคก้าวไกล

รายที่เกิดเรื่องเดือนมิถุนายน เป็น ส.ก.เขตวัฒนา

อ้าว...มันมากกว่า ๑ คน เข้าข่าย ซ้ำซากเหมือนกันนะ

พรรคนี้เลือกคนกันแบบไหน ถึงได้คนมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ ใช้ความรุนแรงไปกองกันอยู่

คงต้องถาม "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" เป็นคนแรก เพราะเป็นหัวหน้าพรรค มีอำนาจตัดสินใจสูงสุด และที่สำคัญมีความรับผิดชอบมากกว่าใคร

กรณีของ ส.ก.เขตวัฒนา มีหลักฐานที่ปรากฏ พบว่ามีการสนทนาทางไลน์ วันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๔ เข้าข่ายก่อความเดือดร้อนรำคาญทางเพศด้วยวาจาและกระทบต่อความรู้สึกและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

แถลงการณ์ของพรรคก้าวไกลขณะนั้นบอกว่า        เป็นการแสดงออกในทางที่ไม่สอดคล้องกับอุดมการณ์และคุณค่าหลักที่พรรคยึดถือ ได้แก่ การเคารพในความหลากหลายทางเพศ เชื้อชาติ ศาสนา และความเท่าเทียมของมนุษย์

บทลงโทษคือ...

ตัดสิทธิพึงมีบางประการในฐานะสมาชิกพรรค ที่จะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในพรรค และพรรคจะไม่เสนอรายชื่อสมาชิกดังกล่าว ให้ดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองในสภากรุงเทพมหานคร กำหนดระยะเวลา ๑ ปี

มีคนบ่นว่าบทลงโทษเบาไป

วันนั้น "รังสิมันต์ โรม" ไขข้อข้องใจว่า

"...ได้ตอบคำถามจากทางบ้าน ที่ถามว่าการลงโทษนี้เป็นความผิดทางวินัยในขั้นสูงแล้วหรือไม่ โดยระบุว่าพรรคก้าวไกลไม่อดทนอดกลั้นต่อกรณีคุกคามทางเพศ และด้วยกรอบอำนาจในฐานะที่พรรคการเมืองมี ซึ่งมีสี่ขั้นด้วยกัน

คือขั้นแรกการตักเตือน ขั้นที่สองการภาคทัณฑ์ ขั้นที่สามการตัดสิทธิที่พึงมีบางประการในฐานะสมาชิกพรรค  และขั้นสูงสุดคือการขับให้พ้นจากสมาชิกพรรค พรรคได้ลงโทษในขั้นที่สาม ซึ่งเป็นขั้นที่เกือบสูงที่สุดแล้ว

คนที่จะเข้ามาทำงานต้องมีบรรทัดฐานที่เคารพต่ออุดมการณ์ด้านนี้ เราหวังว่าเรื่องนี้จะเป็นบรรทัดฐานที่สำคัญ ว่าพรรคจะไม่อดทนอดกลั้นต่อการคุกคามทางเพศ ไม่ว่าจะมาในรูปแบบใด

หลังจากที่เราทราบเรื่องนี้เราได้ดำเนินกระบวนการพิจารณาอย่างรวดเร็ว รอบคอบแล้ว เพื่อทำให้เกิดความกระจ่างมากที่สุด...”

แต่ผู้ร้องเขายังคาใจ

เพราะคำร้องที่ระบุว่า ผู้ถูกร้องมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม สัมผัสเป้ากางเกงของตนเองต่อหน้าผู้ร้อง นั้นยังไม่กระจ่าง

ซึ่งพรรคก้าวไกลสรุปว่า จากการตรวจสอบพบว่าในวันดังกล่าวมีคนอยู่ในห้องหลายคน ผู้ร้องไม่มีพยานหลักฐานมาแสดง ขณะที่ฝ่ายผู้ถูกร้องมีพยานหลักฐาน มายืนยันว่าไม่มีพฤติกรรมเช่นนั้น พรรคจึงไม่อาจวินิจฉัยในกรณีนี้ได้

หลับตานึก หากเป็นพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามถูกร้องลักษณะนี้ พรรคก้าวไกลสามารถสรุปชี้แจงได้เป็นร้อยข้อว่าทำไมนักการเมืองฝั่งตรงข้ามต้องรับผิดชอบ

ให้กลับไปดูกรณี "ปริญญ์" เป็นตัวอย่าง

กรณี ส.ก.เขตวัฒนา กับ ส.ก.เขตสาทร ห่างกันไม่เท่าไหร่ จะมีเพิ่มหรือไม่ ไม่ทราบได้

แต่ก็เป็นบทสรุปเบื้องต้นว่า ทุกพรรคการเมือง มีโอกาสที่จะตกเป็นข่าวฉาวแบบนี้ได้เหมือนกันหมด อยู่ที่เรื่องจะแดงออกมาเมื่อไหร่

ฉะนั้นรักษาอุดมการณ์ไว้ให้มั่นครับ โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล ที่ประกาศคุณค่าหลักที่พรรคยึดถือ 

การเคารพในความหลากหลายทางเพศ เชื้อชาติ  ศาสนา

ความเท่าเทียมของมนุษย์

และไม่อดทนอดกลั้นต่อการคุกคามทางเพศ ทุกรูปแบบ

ครับ...การคุกคามทางเพศมีหลากหลายรูปแบบ อย่าตีความแคบแค่เรื่องพฤติกรรมการล่วงเกินทางกาย วาจา  และการสัมผัสที่แสดงออกถึงนัยทางเพศเท่านั้น

หนักๆ คือการทุบตีทำร้ายเพศที่่อ่อนแอกว่า ก็คือการคุกคามที่หนักหนาสาหัสกว่า

"พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" จะต้องเป็นคนนำทีม รักษาอุดมการณ์เอาไว้ให้ได้

ให้โลกได้รู้ว่า พรรคก้าวไกลปลอดจากการคุกคามทุกรูปแบบอย่างแท้จริง.