ชวนเที่ยววิถีพุทธ

ช่วงเดือนกรกฎาคมมีวันหยุดราชการหลายวัน ถือเป็นโอกาสดีที่ประชาชนจะได้เดินทางท่องเที่ยวและทำบุญ เพื่อสืบสานและอนุรักษ์ประเพณีตามวิถีชาวพุทธ

โดยเฉพาะวันแรกคือ อาสาฬหบูชา ตรงกับวันที่ 13 กรกฎาคม 2565 เป็นวันที่พระพุทธเจ้าได้ประกาศพระพุทธศาสนาขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก เนื่องจากเป็นวันที่มีพระรัตนตรัยครบบริบูรณ์ คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์

ส่วนวันที่สองคือ วันเข้าพรรษา ตรงกับวันที่ 14 กรกฎาคม 2565 เป็นวันเริ่มต้นการจำพรรษาของพระสงฆ์ในบริเวณวัด และงดการเดินทางจาริกไปยังที่ต่างๆ เพื่อไม่ให้เหยียบย่ำพืชผลทางการเกษตรที่ชาวบ้านเพาะปลูกไว้ในช่วงฤดูฝนเป็นเวลา 3 เดือน

ล่าสุด นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขอโอกาสเชิญชวนว่า ในปีนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ลดความรุนแรงลง และภาครัฐได้ผ่อนปรนหลายมาตรการเพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงสถานการณ์ปกติมากที่สุด

เนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษานี้ ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้น้อมระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย และได้เข้าวัดปฏิบัติธรรม บำเพ็ญจิตภาวนา รักษาศีล ลด ละ เลิกอบายมุข สืบทอดพระพุทธศาสนา และมีส่วนร่วมทำกิจกรรมทางศาสนาร่วมกับครอบครัว ซึ่งทุกวัดทั่วประเทศไทยได้เปิดให้ประชาชนร่วมทำบุญตักบาตรและเวียนเทียน ขอให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัยเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา

 “ถือเป็นช่วงเทศกาลที่ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เกิดการใช้จ่าย สร้ายรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยเฉพาะเทศกาลแห่เทียนเข้าพรรษา โดยในปีนี้จังหวัดอุบลราชธานีได้จัดงานงานประเพณีแห่เทียนพรรษา ระหว่าง 11-17 กรกฎาคมนี้ ภายใต้ชื่องาน “121 ปี ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา หวังดึงนักท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคัก”

 “รัฐบาลพร้อมส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเชิงวิถีพุทธ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เห็นถึงศิลปวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตความเป็นอยู่ เอกลักษณ์ รวมถึงการนำเสนอโบราณสถาน โบราณวัตถุและศาสนสถาน ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของประชาชน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว

หากท่องเที่ยวตามแนวทางนี้นอกจากจะอิ่มบุญแล้ว ยังช่วยกระจายรายได้ลงพื้นที่ทั่วไทยอีกด้วย.

 

ช่างสงสัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เร่งตีปี๊บผลงาน

อยู่ในช่วงเร่งตีปี๊บผลงานรัฐบาลแบบด่วนๆ ตามดำริของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายแก่ทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำโดย “หมอชัย” ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ

“ชัยชนะ=อดทน”

“เกือบหลับ แต่กลับมาได้ ” มีให้เห็นเสมอ สำหรับ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว.มหาดไทย (มท.1) ในฐานะ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)

ให้ฟัง อ.วิษณุ

ตั้งแต่ได้รับแต่งตั้งเป็นกุนซือของ เสี่ยนิด-เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เนติบริกร-วิษณุ เครืองาม มาทำงานอย่างเคร่งครัด

ต้อนรับพรรคคอมฯ เวียดนาม

การเมืองกำลังฮึ่มๆ รายวัน ส่วนใหญ่เน้นไปทางความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับรัฐบาล พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคภูมิใจไทย ส่วนพรรคอื่นดูเหมือนนานๆ ทีจะเป็นที่กล่าวถึง

“ยิ้มสยบ”

นับว่าเรื่องนี้ยาวติดต่อกันมาหลายวัน สำหรับ “หมอเกศ” พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว. ได้คะแนนสูงสุดในการเลือกสว.ระดับประเทศในลำดับที่ 1 แต่สังคมไทยก็ยังมีเรื่องแคลนใจจนถึงปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเรื่องมหาวิทยาลัยที่เรียน หรือวุฒิการศึกษา ล่าสุดมีคนในโซเชียลได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ในหลายทาง

คุณพ่อลูกสอง

ยังทำงานแข็งขันดรีมทีมกันต่อ สำหรับทีมโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่นำโดย “สส.มุ่ง” อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี และโฆษกพรรค พร้อมด้วยรองโฆษก “เนน่” รัดเกล้า สุวรรณคีรี , “เบียร์” ร.ต.อ.หญิง อัยรดา บำรุงรักษ์ และ “ลอรี่” พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ