ว่าด้วยกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเลือกตั้ง ส.ส.ที่ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณากัน ประเด็นใหญ่ที่สุดเห็นจะเป็น “วิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ”
แต่ยังมีประเด็นย่อยที่น่าสนใจ คณะกรรมาธิการเขียนไว้อย่างหนึ่ง แต่มี ส.ส.เห็นว่าควรทำอีกแบบหนึ่ง ทำให้ชวนคิดตามว่าถ้ากำหนดกติกาแบบที่มีการเสนอทำได้ด้วยหรือ
ยกตัวอย่างเช่น มาตรา 16 ที่แก้ไขมาตรา 99 ในชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญยืนตามร่างเดิมที่ได้รับหลักการตั้งแต่วาระ1 โดยกำหนดไว้ว่า “ห้ามไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนำบัตรเลือกตั้งที่ออกเสียงลงคะแนนแล้วแสดงต่อผู้อื่น เพื่อให้ผู้อื่นทราบว่าตนได้ลงคะแนนอย่างไร”
อ่านแล้วก็ปกติธรรมดา ไม่ผิดแปลก เพราะควรแล้วที่จะไม่ให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งถ่ายรูป หรือโชว์ให้ใครเห็นว่า ตัวเองลงอะไร เพราะไม่เช่นนั้นฝ่ายต่างๆ อาจส่งคนมาจดหรือบันทึกวิดีโอแน่นอนเพื่อนำไปหาประโยชน์ต่อ แต่ก็น่าแปลกที่มีกลุ่ม ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยเห็นแย้งกับเรื่องนี้ เช่น สมคิด เชื้อคง, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว และสุขุมพงศ์ โง่นคำ ขอสงวนความเห็นไว้
“สุขุมพงศ์” ในฐานะ กมธ.อภิปรายว่า "เป็นสิทธิ์ของประชาชน ถ้าเขาไม่ได้กากบาทหรือออกเสียงอะไร ก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่จะชูกระดาษเปล่าๆ ให้ดูได้ สมมุติว่ามีประชาชนชูกระดาษเปล่าขึ้นมาโชว์ หรือเขียนคำสร้อยต่างๆ ลงในบัตรเลือกตั้งแล้วเอาขึ้นมาโชว์ ตามกฎหมายที่เรากำลังพิจารณาถือว่าบุคคลเหล่านี้มีความผิด แต่ผมเห็นว่าไม่ถูกต้อง ขณะเดียวกันถ้าลงคะแนนเลือกเบอร์ใดเบอร์หนึ่ง แล้วแสดงให้คนอื่นเห็นว่าเลือกเบอร์อะไร อันนี้ผมเห็นด้วยว่าผิด เพราะมีเจตนาไม่บริสุทธิ์
นอกจากนี้ ในกฎหมายที่เรากำลังพิจารณาอยู่นี้ ยังกำหนดโทษว่าถ้าหากทำผิดจะต้องมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท ซึ่งในรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 ระบุว่ารัฐพึงลงโทษทางอาญาเฉพาะโทษที่รุนแรงเท่านั้น เป็นหลักที่ถือปฏิบัติมาตลอด แต่กับการใช้โทษทางอาญากับเรื่องที่ยกตัวอย่างข้างต้น ผมถือว่าไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ
ดังนั้น จึงขอให้เปลี่ยนประโยคเป็นว่า 'ห้ามไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนำบัตรเลือกตั้งที่ออกเสียงลงคะแนนแล้วแสดงต่อผู้อื่น เพื่อให้ผู้อื่นทราบว่าตนเองได้ลงคะแนนเลือกหรือลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดหรือบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใด' แทน"
อืม.. ถามจริงๆ ถ้ามีคนทำอย่างที่ลูกพี่ว่าขึ้นมาหลายจุด จนทำให้ภาพรวมการเลือกตั้งปั่นป่วน ใครจะรับผิดชอบล่ะ หุหุ.
มินนี่เมาธ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ใช้ซื้อข้าวมาแล้ว
ตั้งแต่ เศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไป เนติบริกร-วิษณุ เครืองาม อดีตที่ปรึกษาของนายกฯ หายไปด้วย
อ่อนกว่าวัย
ไม่น่าเชื่อในวันที่ 13 ม.ค. 2568 รัฐมนตรี 17 สมัย อย่าง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.สาธารณสุข จะมีอายุครบ 70 ปี เนื่องจากรูปร่างหน้าตาดูอ่อนกว่าวัยมาก เหมือนกับคนอายุประมาณ 50 ปีเศษเท่านั้น
ขอติดทีมชาติไทย
นักการเมืองไทยรุ่นเก๋าหลายคนบ่นอุบ ยอมรับว่าเปลี่ยนยุคไปไว มีสส.หน้าใหม่เข้าสู่วงการจำนวนมาก ส่วนสส.รุ่นใหญ่นับวันก็จะมีแต่คนโบกมืออำลาวงการ ส่วนใครที่ยังใจรักก็อยู่ทำงานต่อแบบเหงาๆ เพราะเพื่อนที่รุ่นราวคราวเดียวกันก็ออกไปนั่งดูอยู่ห่างๆ แทน
'ลูกชิ้นปลาหมอคางดำ'
เริ่มแล้วกับงานวันรัฐธรรมนูญ ประจำปี 2567 โดยในปีนี้ทางรัฐสภาได้จัดงานภายใต้คอนเซปต์ "กินลม ชมสภา" สู่รัฐธรรมนูญในฝัน ระหว่างวันที่ 9 และ 10 ธันวาคม ซึ่งในวันแรกบรรยากาศสดใส เหล่าข้าราชการ รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าต่างมาตั้งร้านขายของกันภายในงาน
แชร์กันใส่เครื่องแต่งตัว
ว่าด้วยเรื่องแฟชั่นการแต่งตัว ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ ของผู้นำประเทศ อย่าง “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ส่วนใหญ่เจ้าตัวจะเน้นใส่ผ้าไทยตามสไตล์เจ้าแม่ซอฟต์พาวเวอร์
ถามเรื่องวัดแล้ว
เป็นผู้ใหญ่ใจดี สำหรับ อ.ชู-ชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มือกฎหมายประจำรัฐบาลและประจำค่ายเพื่อไทย