วันนี้...รู้กัน!
คอการเมืองห้ามพลาด ๖ ก.ค.๖๕ รัฐสภาประชุม "นัดชี้ขาด" สูตรคำนวณหาจำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของแต่ละพรรค
ว่าจะ......
หารด้วย ๑๐๐
หรือหารด้วย ๕๐๐?
ถ้าหารด้วย ๑๐๐ แต่ละพรรค ต้องได้คะแนนรวม ๓ แสนขึ้นไป ถึงจะได้ ๑ ปาร์ตี้ลิสต์
ก็เข้าทาง "เพื่อไทย" เป็นโพงพางใหญ่ "แลนด์สไลด์" ในจำนวนรวม ทั้ง ส.ส.เขต-ส.ส.ปาร์ตี้่ลิสต์
พรรคเดียว "เคี้ยวประเทศ" เพลิน!
ถ้าหารด้วย ๕๐๐ พรรคเล็ก-พรรคกลาง ยังจะ "พลอยฝน-พลอยฟ้า" คะแนนรวมซัก ๘ หมื่น พอจะได้ซัก ๑ เก้าอี้ปาร์ตี้ลิสต์
ฉะนั้น วันนี้ มันแน่.......
เปิดโทรทัศน์ ช่อง ๑๐ รัฐสภา แช่ไว้เลย
กฎหมายลูก ๒ ฉบับ คือ "พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส." กับ "พ.ร.ป.พรรคการเมือง" ที่รอคอย คณะกรรมาธิการฯ พิจารณาเสร็จแล้ว จะถกกัน วาระ ๒-๓ วันนี้แหละ
เห็นข่าวมาแรงแซงโค้งว่า....
"พลิก" ครับ "พลิก" ไม่ใช่ "พริก"!
คือจากที่สรุปว่า หาร ๑๐๐ จะเข้าที่ประชุมรัฐสภาวาระ ๒-๓ วันนี้ แต่เป็นว่า ฝ่ายรัฐบาลเห็นใจพรรคเล็ก-พรรคน้อยจะสูญพันธุ์
ตัดสินใจ "ซื้อใจ" ขั้่นสุดท้าย เย็นวาน (๕ ก.ค.) เป็นให้หารด้วย ๕๐๐
พรรคเล็ก...เฮ
แต่พรรคใหญ่ "เพื่อไทย" โฮ!
เท่ากับดับฝัน "แลนด์สไลด์" ที่จะดันก้นหัวหน้าครอบครัวใหญ่เป็น "นายกฯ โอปปาติกะ"
คือ ลูกหมา-ลูกแมว มาจากไหนไม่รู้ วันดี-คืนดี ผีห่าเข้าธานี เป็นผีจับยัด
พรวดเดียว "ขึ้นเป็นนายกฯ" ได้เลย!
ข่าวล่ามาทางโซเชียลเป็นอย่างนี้ ก็น่าตื่นเต้นในการติดตาม เพราะเพื่อไทย "ไม่ยอมแน่" ต้องฟัดกันเลือดสาดรัฐสภาแหง
แต่จะหาร ๑๐๐ หรือ ๕๐๐
มันต้องจบตรงเสียงโหวตของสมาชิกรัฐสภาคือ "ส.ส.-ส.ว." เป็นเกณฑ์ ถ้าเป็นไปตามข่าวว่า "รัฐบาลเอา ๕๐๐"
ก็แน่นอน เสียงรัฐบาลมากกว่าอยู่แล้ว
พอหาร ๕๐๐ ย่อมถูกใจแฟนๆ พรรคเล็ก ก็จะยกมือหนุนกันพรึ่บพรั่บ พลิกจากหาร ๑๐๐ ไปเป็นหาร ๕๐๐ ได้สำเร็จ
แต่ไม่ว่า ผลออกมาจะหารด้วย ๑๐๐ หรือ ๕๐๐ ในความเห็นผม เรื่องต้องไปจบที่ "ศาลรัฐธรรมนูญ" โน่น
เพราะหาร ๑๐๐ พรรคเล็กก็ไม่ยอม หาร ๕๐๐ พรรคใหญ่ก็ไม่ยอม
นี่คุยตามกระแสข่าวในตลาดนะครับ แค่ฟังมาก็มโนคุยไป
จะใช่หรือไม่ใช่......
ตรวจ "หวยรัฐสภา" วันนี้เอาพร้อมๆ กัน!
แต่ลองคิดเล่นๆ สมมุติว่า ฝ่ายค้านเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลก่อน ส่วนกฎหมายลูก ๒ ฉบับ ไว้เข้าวาระหลังอภิปรายแล้ว
แบบนี้ สูตรหาร ๑๐๐ อาจไม่พลิก
เพราะฝ่ายค้านกับรัฐบาล ยังต้องพึ่งกันในด้านเอากฎหมายลูกผ่าน ฝ่ายค้านจะไม่หาญถึงขั้นหัก
เพราะถ้าคว่ำรัฐบาลไป เกิด "นายกฯ ยุบสภา" หมาที่หวังแลนด์สไลด์
"ตายยกคอก" เลย
แต่เมื่อ กฎหมายลูกเข้าก่อนวันนี้ ถ้ารัฐบาลปล่อยให้เพื่อไทยสมมโนหวัง หารด้วย ๑๐๐ รัฐบาลมีแต่พังกับพัง!
เพราะพรรคเล็ก-พรรคน้อย ที่เสียโอกาส ย่อมไม่พอใจรัฐบาล หมดเยื่อใย ก็จะไปร่วมฝ่ายค้าน
"โหวตคว่ำ" รัฐบาล ตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ให้มันสาแก่ใจไปเลย!
ฉะนั้น ถ้านายกฯ-ลุงป้อม และพรรคร่วม โอเค เอาหาร ๕๐๐ วันนี้จริง ตามข่าว
อภิปรายไม่ไว้วางใจปลายเดือน รัฐบาลก็ แฮปปี้..ปี้ ไปถึงเอเปก พรรคเล็ก-พรรคน้อย ที่พลอยพลิกเป็น "น้ำเต้าน้อยลอยฟู" ก็จะ "ชูมือ" ให้รัฐบาลด้วยเต็มใจ
"พริกจิ้มพริก-เกลือจิ้มเกลือ" รสชาติเป็นฉันใด
"พลังประชารัฐ-เพื่อไทย" คมเฉือนคม ก็ฉันนั้น!
อันที่จริง ผมไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องใครแพ้-ชนะเลือกตั้ง ตั้งแต่เดี๋ยวนี้่ เพราะยังอยู่อีกไกล พลิกไป-มาได้อีกหลายตลบ
การเมืองบ้านเราน่ะ.....
บางที คาดหมายล่วงหน้าแค่ ๗ วัน ก็ยังเร็วไปด้วยซ้ำ!
พูดกันตรงๆ มาตรฐานในการเลือกคนเป็น ส.ส.ของคนสังคมไทย มันเป็นมาตรฐาน "ประชาธิปไตยไทย" เอาอะไรมาวัดไม่ได้
นอกจาก "เงิน-อิทธิพลถิ่น"!
จะหาคนซื่อสัตย์ คนเคร่งครัดเดินตามบรรทัดกฎหมาย เข้ามารับใช้บ้านเมืองในระบบสภาไทย
ยากพอกับต้อนควายลอดรูเข็ม!
ดังนั้น จึงมีคนดี "ชนิดหนึ่ง" เกิดขึ้นในสังคมไทย และมีแทรกเกลื่อนไปในทุกวงการ คนดีชนิดนั้น เรียกกันว่า
พวก "เสแสร้งดี"!
ว่ากันที่จริง พวกเสแสร้งดี มันร้ายกาจ "กินแสบ-แดกแสบ" ยิ่งกว่าพวก "เลวเปิดเผย" ซะด้วยซ้ำ
มันเป็นเชื้อโรคร้าย แฝงเกาะกินและแทะสังคมชาติถึงกระดูก อ้างทำงาน "เพื่อสังคม" แต่เบื้องหลัง โสโครก-โสมม ในคราบคนดี
สังคมไทยชอบอย่างนี้ คนจำพวกนี้ จึงเจริญงอกงามเร็วเหมือนเชื้อรา-เชื้อเริม
จึงเห็นว่า "คนนอก" หมายถึงคนดีมีความรู้-ความสัตย์ซื่อจริงๆ บางที ทั้งเชิญ ทั้งอ้อนวอน ให้เขาเป็นรัฐมนตรี มาช่วยทำงานในภาครัฐ
เขาก็ไม่เอา!
ที่ไม่เอา ไม่ใช่เห็นแก่ตัว แต่เพราะเขากลัวในการทำงานร่วมกับพวก "ประชาธิปไตยไทย" ระบบเงิน+อิทธิพล นั่นแหละ
จะสังเกตเห็น บางคนที่มาเป็นรัฐมนตรีเดี๋ยวนี้ ถึงขั้นต้องใช้คำว่าเพื่อชาติในการ "บังคับ" ให้มาเป็น นี่่พูดกันตรงๆ
จึงเป็นเรื่องน่าวิตก........
เมื่อคนดีมีความรู้จริงๆ ต้องถอยร่นให้คนดีในนิยามคนในระบบ "ประชาธิปไตยไทย" เลือดกรุ๊ปเดียวกับพวกเสแสร้งดี ที่รุกคืบยึดครองแต่ละยูนิตอำนาจบริหารและปกครองทุกวันนี้
"ครอบครัวโจร" ก็จะยกโคตร "ยึดครอง" อำนาจบริหารประเทศเบ็ดเสร็จ
ตั้งแต่ ผู้ใหญ่บ้าน, กำนัน, อบต., อบจ, นายอำเภอ, ผู้ว่าฯ, นายกฯ จนสุดท้ายไปถึง สถาบันพระมหากษัตริย์ ก็จะถูกเปลี่ยนเป็นประธานาธิบดี
ต้องเลือกตั้ง ภายใต้ระบบ "ประชาธิปไตยไทย" ที่เงินและอิทธิพลถิ่นเป็นตัวกำหนดชี้ขาด!
ก็ช่วยกันคิดดู ถ้าพวกเราคนไทยทั้งหลาย ไม่สนับสนุน ไม่เป็นกำลังใจให้คนดี ปล่อยให้คนทำงานเพื่อสังคมชาติจริงๆ ต้องโดดเดี่ยว
แล้วให้พวกประชาธิปไตยระบบ "เงิน+อิทธิพลถิ่น" เข้ามาครอบงำประเทศ
อนาคตข้างหน้า ไม่ต้องไกลหรอก แค่ ๕ ปี ๑๐ ปี ชาติ-บ้านเมืองไทย ต้องล่มสลายภายใต้ "ครอบครัวโจร" แน่นอน!
เพราะอย่างนี้ไงล่ะ.....
จึงกระเหี้ยนกระหือรือแลนด์สไลด์ ด้วยมั่นใจ บางจังหวัด ทั้งพ่อตา-พ่อตัว-ลูกเขย-ลูกสะใภ้ แยกย้าย "ยึดครอง" กันทั้งจังหวัด
เหนือยอดเขา ยังมียอดหญ้า
ระบบการเมืองไทย เหนือยกโคตร ยังมีหัวหน้าครอบครัวใหญ่ครอบ
"ประชาธิปไตยไทย" ซึ่งมีเงิน+อิทธิพลถิ่นเป็นคำตอบของ "ความบริสุทธิ์-ยุติธรรม" ในการเลือกตั้ง ผมจึงบอกว่า
"น่าวิตก" ในอนาคตประเทศ!
เราจะปล่อยให้ "คนดีถอย" ให้แก่ "คนถ่อย" ในสังคมอย่างนั้นหรือ?
เราจะยอมให้ "ครอบครัวโจร" เอาตีนลูบหน้าคนไทย ด้วยการส่ง "หมู-หมา-กา-ไก่" มาให้เลือกเป็น ส.ส. มาเป็นนายกฯ ก็เลือกกันอย่างนั้นหรือ?
ผมไม่เชื่อ "คนส่วนใหญ่" ในสังคมไทยจะยอม
ดังนั้น ผมจึงบอกว่า "ไม่สนใจ" โพล หรือการปั่นกระแสล่วงหน้าเป็นเดือน-เป็นปี ก่อนเลือกตั้งว่า คนนั้น-คนนี้ จะได้เป็นนายกฯ
ดอกไม้น่ะ เมื่อยังไม่ถึงเวลา ใครก็อย่าไปแหกกลีบให้บาน
"ความดี-ผลงาน" ก็ประมาณนั้น หมั่นทำไป เมื่อถึงเวลา ด้วย "อุณหภูมิ-องศา" มหาประชาชน
บ่มให้บานเอง!
คนปลายซอย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'Grab rider ต้วง'
ดู "นาฬิกากรรม" แล้ว ก็อยากบอกว่า.... ช่วงนี้ ใครมีธุระอะไร ก็ไปทำซะให้เสร็จ ยังพอมีเวลา
สมรภูมิ ประชาธิปไตย | จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์
สมรภูมิ ประชาธิปไตย จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์ : วันอาทิตย์ที่ 08 ธันวาคม 2567
'ดร.บุญส่ง-นพ.ระวี' ส่องจุดจบ! ระบอบทักษิณ ภาค 2 | อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 07 ธันวาคม 2567
'เลิกแล้วค่ะ...หนูเลิกแล้วค่ะ'
ตกลง "ขึ้น-ไม่ขึ้น" VAT จาก ๗% เป็น ๑๕% ตามแนวคิดรัฐบาลเพื่อไทย?
รัฐบาล (ไม่ใช่) บริษัทชิน
"กู้มาแจก-กู้มากิน-กู้มาโกง" ผลก็คือ "รัฐบาลถังแตก"!
'วันพ่อ-วันชาติ-วันดินโลก'
รู้มั้ย..... "๕ ธันวาคม" ของทุกปี เป็นวันอะไร? ทุกคนรู้.....