แหวะอก 'ดูใจ' ประยุทธ์

แต่เวลาจำกัด ต้องเอาเวลาไปจังหวัดที่เราได้รับความไว้วางใจมากเป็นพิเศษ จังหวัดที่ไว้วางใจเราน้อย ต้องเอาไว้ทีหลัง...."

ตอนนั้น ผมหลงเข้าใจมาตลอดว่า "คิดแบบนี้ คือคิดริยำ ของผู้นำคิดต่ำสัตว์"

เป็นนายกฯ จะคิดแบ่งแยกประเทศ แบ่งแยกประชาชน บริหารงาน โดยใช้ประโยชน์ที่พรรคตัวเองจะได้จากการเลือกตั้งเป็นผลตอบแทน เป็นเกณฑ์

"จังหวัดมึงไม่เลือกพรรคกู งั้นก็รอไปเหอะ กูจะไปดูแล เอางบไปลงในจังหวัดหรือในพื้นที่ที่เลือกพรรคกูก่อน"

แบบนั้น มันคิดของคนเป็นหัวหน้าซ่อง ไม่ใช่คิดของผู้นำประเทศ นอกจากคับแคบ สกปรก เห็นแก่ตัวแล้ว

ซ้ำยังบ่งถึงอาฆาตแค้นประชาชนที่ไม่เลือกผู้สมัครพรรคตัวเองเป็น ส.ส. ซึ่งคนที่ไม่ "ต่ำสัตว์" จริงๆ เขาจะไม่คิดอย่างนั้น

นี่...เป็นความเข้าใจของผมเรื่อยมา

และก็คิดมาตลอดด้วยว่า คิดแบบทักษิณ คง "สิ้นเชื้อ-สิ้นพันธุ์" ไม่มีใครลอกลายไปใช้คิด-ใช้ทำอีก!

ก็เพิ่งนี่แหละ ได้ฟังพิธีกรนักจัดรายการข่าวเขาวิพากษ์ด้วยทัศนคติแบ่งแยก "นายกฯ ลงไปทำไม เชียงใหม่เป็นพื้่นที่เสื้่อแดงเขา"

เคยได้ยินนายกฯ ประยุทธ์พูดหลายที่ว่า "ผมเป็นนายกฯ ของคน ๗๐ ล้าน ผมรักทุกคน ทำงานเพื่อพวกเราคนไทยทุกคน"

ฟังเผินๆ ก็ว่า "นายกฯ ปากหวาน"

แต่เมื่อไล่เรียงการลงไปในแต่ละพื้นที่ของนายกฯ และเมื่อนำคำพูดทักษิณมาเทียบ "พื้นที่ไหนเลือกพรรคเรา ไปช่วยก่อน ที่ไม่เลือกพรรคเรา เอาไว้ทีหลัง"

ก็จะเห็น "มนุษย์" กับ "อมนุษย์" ระหว่างพลเอกประยุทธ์กับทักษิณ ในบทบาท "ผู้นำบริหารประเทศ"

"ผู้มีประชาชนอยู่ในหัวใจ" ในการทำหน้าที่บริหารประเทศ คือนายกฯ ประยุทธ์

"ผู้มีจิ้งจอกอยู่ในหัวใจ" ในการทำหน้าที่บริหารประเทศ คืออดีตนายกฯ ทักษิณ!

ทุกสื่อ ตอนนี้ ตีความ "ทุกตีนก้าว" ของนายกฯ ไป ทางหาคะแนนนิยมเพื่อเลือกตั้งหมด

และทุกสื่อ ก็ลงความเห็นไปทางเดียวกันว่า "พลังประชารัฐ" ขาลง เสื่อมแล้ว

นายกฯ ประยุทธ์ ๘ ปี ไม่เห็นมีอะไร คนเบื่อแล้ว!

ถ้าตาไม่บอด ก็คงใจบอดกันเป็นส่วนใหญ่ ผมว่านะ

จึงมองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างอนาคตประเทศและการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมพื้นฐานรากหลายๆ ด้าน

ส่วนเรื่องเบื่อ อันนี้เป็นเรื่องปกติทางการเมือง ดี-เลว ไม่ใช่ตัววัด แต่อะไรที่อยู่นาน จำเจ มันเบื่อ นี่เป็นตัวจริตสังคม

ธรรมชาติมนุษย์ ชอบเปลี่ยนแปลง เบื่อเก่า-ชอบใหม่ แม้กระทั่งสามี-ภรรยา ใหม่ๆ แกะจากกันแทบไม่ออก นานๆ ไป ก็แยกเตียง-แยกห้อง บางคนถึงขั้น "แยกบ้าน"

แต่ผมสังเกตว่าในความรับผิดชอบของผู้นำบริหารประเทศ ที่เดินทางไป นายกฯ มุ่งงานในพื้นที่ ไม่ได้มุ่งหาเสียงเป็นหลัก

และไม่เคยเห็นว่า ท่านไปในลักษณะ จังหวัดนี้-นั้น พื้นที่เรา หรือพื้นที่เขา ในทางการเมือง

๗๐ ล้านคน คือคนในอ้อมแขนท่าน นายกฯ ไม่เคยแบ่งแยกประชาชน ไม่เคยมองประชาชนที่เห็นต่างเป็นศัตรู และไม่เคยแสดงให้เห็นว่า..........

"เบื่อ" ที่จะแก้ปัญหาในทาง "คลายทุกข์-เพิ่มสุข" ให้ประชาชนเลย!

ต้องยอมรับกันแฟร์ๆ นับแต่พลเอกประยุทธ์นำบริหารประเทศ ตั้งแต่กลางปี ๕๗ จนถึงวันนี้ กลางปี ๖๕

ประเทศไม่เคยว่างวิกฤต!

ประเทศถูกวิกฤตซ้ำซ้อน ลูกแล้ว-ลูกเล่า ถาโถมเข้าใส่แทบไม่พักให้หายใจ ไล่มาตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจ จาก "วิกฤตซับไพรม์" ที่สหรัฐฯ

วิกฤต "หมาป่ากับลูกแกะ" ที่หมูเขากำลังจะหาม แต่พลเอกประยุทธ์ดันเป็นคานเข้าไปสอด

ขณะที่ "ยุโรป-สหรัฐฯ" กำลังดีลกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์จะลงตัว พลเอกประยุทธ์ก็เข้าไปควบคุมอำนาจบริหารประเทศ ทำให้แผนการ "ใช้ไทยเป็นฐาน" ของเขาพังหมด

ยุโรป-สหรัฐฯ "แค้นนน" ถึงขั้นประกาศห้ามคบค้าสมาคมกับไทย นายกฯ ประยุทธ์ถูกห้ามเหยียบอเมริกา

แล้วขบวนการ "ชีสเค้ก" ในรูปแบบ "คนรุ่นใหม่" ชังชาติ-ชังสถาบัน ก็ถูกระดม ปลุกปั่น ชักใย ก่อจลาจล หวังล้มรัฐบาล และลามสู่ "มุ่งล้มสถาบัน"

นายกฯ ฟันฝ่าทั้งปัญหาเศรษฐกิจ-การเงิน ทั้งการกีดกันสินค้าส่งออก ด้วยอ้างเงื่อนไขต่างๆ ทั้งปลุกปั่นชักใยรุ่นใหม่สามนิ้ว สร้างสถานการณ์แล้วปั่นข่าวเป็น "โลกล้อมไทย"

ทศกัณฐ์ ว่า ๑๐ หน้า ๑๐ มือ

แต่นายกฯ "หน้าเดียว" เพียง ๒ มือ แต่ต้องทำงานเหมือนมี ๑๐๐ มือ!

พอจะคลาย โควิด-๑๙ "โรคล้างโลก" ก็มา ทั้งโลกรวมทั้งไทย ต่างติดกับดักโควิด ชนิดเจียนอยู่-เจียนไป

๒-๓ ปี พอจะถอนหายใจได้ สงคราม "รัสเซีย-ยูเครน" ก็ระเบิดตูม!

นี่ พูดกันตรงๆ นะ

ในรอบ ๘ ปีที่ผ่าน ถ้าไม่ใช่พลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ นำบริหาร หากแต่เป็น "ตระกูลโกง" บริหารละก็

ไม่รู้จะฉิบหาย-ตายโหง-ตายห่า หรือประเทศชาติจะล่มจมกันไปขนาดไหนแล้วก็ไม่รู้?

แค่นึกยังเสียววูบ ก็ขนาดตอน "ไข้หวัดนก" ระบาด ซึ่งรุนแรงไม่ถึง ๑ ใน ๑ ล้าน ของโควิดระบาด

แค่นั้่น โคตรเหง้ามันยังหาช่องแดกเล็ก-แดกน้อยแม้กระทั่งงบกระดาษเช็ดมือบนเครื่องบิน ถ้าเป็นยุคโควิด ที่ต้องใช้งบซื้อวัคซีนเป็นหมื่น-เป็นแสนล้าน

โกงจำนำข้าว ๖-๗ แสนล้าน นั่นจิ๊บจ๊อยไปเลย

เมื่อเทียบกับ "สิ่งที่จะเกิด" จากผู้สืบสันดานโกง กับงบที่ต้องกู้มาใช้เพื่อการนี้ เป็นล้านล้านบาท

"ยูเครน-รัสเซีย" ไม่ใช่ต้นเหตุน้ำมันแพง

แก๊ง "ยุโรป-สหรัฐฯ" นั่นแหละ รวมหัวกัน นึกว่าจะ "รุมกินโต๊ะ" ด้วยเกม "คว่ำบาตร" รัสเซีย

ที่ไหนได้ "คว่ำบาตร" รัสเซีย รัสเซียกลับรวย เมื่อผนึกกับจีน-อินเดีย แต่ฝ่ายที่คว่ำบาตรเขา กลายเป็นเศรษฐีกำมะลอ         ไม่มีข้าว ไม่มีน้ำ จะกิน .......

พลโลกพลอยระส่ำกันไปทั้งโลก เพราะไม่มีก๊าซ ไม่มีน้ำมัน ไม่มีอาหารตามไปด้วย!

ก็ได้แต่ "สุมหัวโอหัง" อวดโลกทางข่าวสารกันไปวันๆ  ในขณะที่พลเมืองแต่ละประเทศ ร่ำร่ำจะรุมแล่เนื้อเถือหนังแต่ละผู้นำอีโก้โลกตะวันตก

ย้อนมาดูบ้านเรา ที่โอดโอยกันตอนนี้ ถ้าผมมีตังค์จะเหมาเรือบินซัก ๑๐ ลำ พาพวกชังชาติไปอยู่ยุโรป-อเมริกา

อยู่ได้ถึงเดือน...ให้เตะ!

ไม่ถึง ๑๐ วัน ขี้เกียจจะรบเร้าขอกลับด้วยซ้ำ แค่เห็นแผ่นดินไทยวิบๆ ตอนเรือบินแลนดิ้งที่สุวรรณภูมิ

น้ำตาจะเหมือนเผาเต่า....

ด้วยดีใจ ไม่ว่าชาตินี้...ชาติไหน ขอเกิด-ขอตายอยู่ในแผ่นดินไทย ไม่มีแผนดินไหนในโลก น่าอยู่ สุขสบาย อุดมสมบูรณ์เท่าแผ่นดินไทยอีกแล้ว

ต่อให้ขี้เกียจขนาดไหน เป็นขอทานออนไลน์ วันเดียวก็ได้เป็นแสน-เป็นล้าน เพราะคนไทย ชอบอิจฉาคนรวย แต่มีน้้ำใจกับใครๆ ที่ลำบาก

ผมถึงบอกเมื่อวาน .......

ในโลกนี้ ไม่มีอะไรที่บังเอิญ ทุกอย่าง "ถูกจัดสรร" โดยกรรม คือเหตุ-ปัจจัย เป็นตัวกำหนด

จงสร้าง "เหตุ" คือกระทำปัจจุบันให้ดี จะเป็นตัวเสริมผลจากอดีต ที่จะผลิบานในอนาคต เป็นผลที่ออกมาสมบูรณ์

สมบูรณ์นั้น คือ ชาติ บ้านเมือง ประชาชน สมบูรณ์สุข

และ "สมบูรณ์สุข" นั่นคือ "สมบูรณ์ใจ" ของนายกฯ

ส่วนจะได้รับเลือกเป็นต่ออีกสมัยหรือไม่นั้น ไม่เกี่ยวบุญวาสนาของนายกฯ

มันเป็น "บุญ-กรรม" ของสังคมชาติมากกว่า!

-เปลว สีเงิน

๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๕