เห็นทหารเป็นศัตรู

"ลุงตู่" กับคณะ ไปตรวจเยี่ยมโครงการเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่ ณ ประตูระบายน้ำแม่ตะมาน ตำบลกื้ดช้าง อำเภอแม่แตง ตั้งแต่เช้า

โครงการนี้เริ่มมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๗-๒๕๕๘ วันนี้ยังไม่เสร็จสิ้น เพราะติดปัญหาเรื่องที่ดิน เรื่องที่ป่า

เป็นโครงการตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙

เสร็จเมื่อไหร่โครงการนี้จะตอบโจทย์เรื่อง การเติมน้ำ ระบายน้ำ จูงน้ำ

ชาวบ้าน เกษตรกรในพื้นที่จะได้ประโยชน์อย่างมหาศาล

ตามแผนงานต้องเสร็จปี ๒๕๗๐

กับเรื่องแค่นี้ทำไมต้องเอามาเขียนถึง

มันอย่างนี้ครับ

เป็นธรรมดาของรัฐบาลที่มีคนชอบและคนชัง

ที่แม่แตงไม่ใช่ถิ่นพลังประชารัฐหรอกครับ แต่เป็นดงเพื่อไทย คนแถวนั้นเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งนั้น

จบงานนี้ก็ใช่ว่า คนแม่แตงจะหันมาเทคะแนนให้ "ลุงตู่"

เพียงแต่รัฐบาลมีหน้าที่ต้องดูแลประชาชนให้ทั่วถึง

ไม่ใช่จังหวัดไหนเลือกจะได้รับการดูแลก่อนเป็นพิเศษ

แบบนั้นมันประชาธิปไตยหัวครก!

คนแม่แตงอาจไม่ได้รัก "ลุงตู่" แต่เขามาแสดงความขอบคุณ

เขาติดป้ายยินดีต้อนรับ

เสร็จงานนี้เขาก็กลับไปเลือกเพื่อไทย

ส่วนเอฟซี มันก็ต้องมีกันบ้าง ที่แม่แตงก็มี

ข่าวบอกว่า หญิงสาววัยกลางคนสวมเสื้อยืดโปโลสีขาวที่สกรีนข้อความว่า "#รวมไทยสร้างชาติด้วยคนไทยทุกคน"

มีภาพสกรีนการ์ตูนนายกฯ และรูปหัวใจ "#ลุงตู่FCกองหนุนลุงตู่"

ก็เซลฟีเป็นที่ระลึกกันไป

แต่ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ จังหวัดเชียงใหม่ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองฯ นี่ซิครับ

"ลุงตู่" ไปเป็นประธานในพิธีเปิด FTI EXPO 2022 : SHAPING FUTURE INDUSTRIES FORSTRONGER THAILAND  

ก็งานที่ทำให้เชียงใหม่คึกคักนั่นแหละครับ

มีคนประมาณ ๒๐ คนชูป้ายไล่ "ลุงตู่"

ก็ธรรมดาอีกนั่นแหละครับ รัฐบาลทั่วโลกโดนมาแล้วทั้งนั้น ยกเว้น คิม จองอึน น่าจะไม่เคยเจอ

ใครที่บอก "ลุงตู่" เป็นเผด็จการ ก็ดูไว้ครับ ประชาชนด่าได้ทุกวัน

กลุ่ม ๒๐ คนที่ว่านี้ชูป้ายข้อความว่า...

อยู่ ๘ ปี อนาคตไม่มี ลาออกไป

อนาคตไม่มี หนี้สาธารณะ

ลุงตู่ กู้ กู้ กู้

อยู่ยาวไป ๗ ชั่วโคตร แล้วลงท้ายด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย

ก็เป็นสีสันการเมืองครับ

ได้ด่าสะใจ กลับบ้านกินข้าวบ้านใครบ้านมัน

ถ้าบอกว่า ไม่มีอนาคต ลองไปถามคนแถวๆ ประตูระบายน้ำแม่ตะมานก่อนว่า วางแผนทำอะไรหลังโครงการเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธาราเสร็จสิ้นบ้าง

อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคนอื่น แต่เรื่องน้ำสำหรับเกษตรกรแล้วมันคือชีวิต

เรื่องกู้เงิน เรื่องหนี้สาธารณะ เอามาด่าฉาบฉวยมันก็สะใจดีครับ แต่ถ้าลงรายละเอียด ทุกรัฐบาลในโลกที่เจอวิกฤตโควิดมาด้วยกัน ล้วนมีปัญหาทั้งสิ้น

ไทยยังถือว่าน้อยมาก เรายังเอาตัวรอดได้อยู่

เรื่องฉาบฉวยไม่ได้เป็นเฉพาะกลุ่มชาวบ้านที่ด่ารัฐบาลครับ ส.ส.ในสภาก็เป็นเหมือนกัน

ยกตัวอย่าง "อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์คลิปการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถ้อยความตามนี้ครับ

"...ดิฉันขอหารือผ่านท่านประธานไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา

ในวาระที่ประเทศของเรากำลังเฉลิมฉลองครบรอบ ๙๐ ปี การเปลี่ยนแปลงการปกครอง ๒๔๗๕ วันที่ ๒๔ มิ.ย.ที่ผ่านมา กองโฆษกกระทรวงกลาโหมได้ออกมาแถลงเชิญชวนให้ประชาชนที่คิดต่างเห็นต่างเข้าไปจิบน้ำชากาแฟพูดคุยในกระทรวงกลาโหมเพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน

ดิฉันฟังด้วยความไม่สบายใจค่ะ พวกท่านเข้าใจผิดอะไรไปหรือเปล่าคะ ไม่มีใครคิดว่าสถานที่ของกองทัพมีความปลอดภัย ย้อนไปดูตัวอย่างปี ๕๗ นะคะ คนจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเข้าไปแล้วจะถูกถุงดำคลุมหัวพาตัวไปขัง ๗ วัน ๑๐ วันอีกหรือเปล่า

ประการที่ ๒ ถามว่ามันใช่หน้าที่กงการอะไรของกลาโหม ที่จะทำตัวเป็นเจ้าภาพขจัดข้อขัดแย้งของผู้คนที่คิดต่าง

ในเมื่อเรามีกลไกรัฐสภาที่มีกลไกกรรมาธิการถึง ๓๕ คณะ รวมทั้งมีกรรมาธิการทหารโดยเฉพาะด้วย ท่านรู้เรื่องนี้หรือไม่คะ ทำไมไม่ใช้ให้เป็นประโยชน์ และกลาโหมก็มีฐานะเป็นเพียงกระทรวงกระทรวงหนึ่งในประเทศของเราที่มีถึง ๒๐ กระทรวง มีหน้าที่หลักในการป้องกันภัยจากความมั่นคงจากภายนอกราชอาณาจักร มีหน้าที่เสริมคือดูแลความมั่นคงภายในประเทศ ซึ่งภัยต่อความมั่นคงในประเทศ

เมื่อคราวที่พวกเราต้องการท่านหายไปไหนคะ ครั้งที่มีการขัดขวางการเลือกตั้ง ขโมยหีบเลือกตั้งนั่นราคาคือการทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยคือการทำลายความมั่นคงภายใน

ถามว่าตอนนั้นที่พวกเราต้องการ พวกท่านหายไปไหนคะ

ดิฉันอยากให้ท่านลดละวางอัตตาตัวตนหรืออีโก้ลงไปบ้าง ขอให้ยอมรับว่าบทบาทของของกองทัพในยุคปัจจุบันลดความสำคัญลงไปแล้ว

ยอมรับเถอะค่ะว่าเรามีการปกครองระบอบประชาธิปไตย และปรับตัวให้เหมาะสมกับโลกยุคปัจจุบันเถอะค่ะ...."

ก่อนอื่นเลยสงสัยจนขี้เกียจจะสงสัยแล้ว ทำไม ส.ส.พรรคก้าวไกล ไม่เคยพูดระบอบการปกครองของไทยแบบเต็มๆ ซะที

เราอยู่ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 

ตัดท่อนหลังออกทำไม

จริงครับหลังรัฐประหาร ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ มีนักการเมืองบางคนถูกจับไปขัง แต่ปิดตา คลุมหัวจริงหรือไม่ มันเป็นเรื่องเล่าของแต่ละคน

แต่ทุกคนได้รับการดูแลอย่างดี ออกมาครับ ๓๒ ประการ และด่ารัฐบาลดุเด็ดเผ็ดมันอยู่ในวันนี้

มองในมุมการเปลี่ยนแปลงโดยฉับพลัน มันอาจเป็นสูตรตายตัวที่ผู้ก่อการต้องทำแบบนั้น เพื่อป้องกันการต่อต้าน

อย่างเช่นการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ๒๔๗๕

ห้วงเวลานั้น คณะผู้ก่อการได้จับพระบรมวงศานุวงศ์ผู้ใหญ่เป็นตัวประกัน อาทิ สมเด็จฯ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ฯ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ อภิรัฐมนตรี,  สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ อภิรัฐมนตรี, พลตรีหม่อมเจ้านิลประภัศร เกษมศรี เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก, พลตรีหม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร (พลเอกพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ) ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายยุทธการ และพลโทพระยาสีหราชเดโชชัย (สวัสดิ์ บุนนาค) เสนาธิการทหารบก

จากนั้นได้ออกประกาศว่า...

"...ด้วยบัดนี้ คณะราษฎรได้จับพระบรมวงศานุวงศ์มาไว้เป็นประกันแล้ว ถ้าผู้ใดขัดขวางคณะราษฎร ผู้นั้นจะต้องถูกลงโทษ และพระบรมวงศานุวงศ์จะต้องถูกทำร้ายด้วย..."

แต่ใช่ว่าสนับสนุนรัฐประหารหรือให้จับใครไปขังนะครับ แต่เป็นเรื่องของประวัติศาสตร์ซึ่งมีที่มาที่ไป การอธิบายความหลากหลายมุมแบบนี้ จะช่วยให้เข้าใจประวัติศาสตร์ได้มากขึ้น

ครับ...วันนี้ทหารอยากทำความเข้าใจกับประชาชน อยากพูดคุยสร้างความสมานฉันท์ แต่นักการเมืองบอกว่า ไม่ใช่หน้าที่ ทหารต้องไปรบ ไปดูแลความมั่นคง

แต่พอทหารขอซื้ออาวุธมาทดแทนของเก่า กลับบอกว่าเปลือง เอาไปช่วยประชาชนที่ยากจนดีกว่า

ลดละวางอัตตาตัวตนหรืออีโก้ลงไปบ้าง ดีแล้วครับ  

ประเทศจะได้สงบสุขเสียที.