นายกฯคนใหม่???

ท่านอยากจะให้เลือกตั้งครั้งใหม่ ให้รู้แล้ว รู้แรด กันไปซะที ก็คงต้องเก็บมาคิดๆ เอาไว้มั่ง เพราะแนวโน้มการเมืองไทยในช่วงนี้ มันก็น่าจะเป็นแบบที่บรรดาผู้ตอบแบบสอบถามท่านว่าเอาไว้จริงๆ นั่นแหละ คือออกอาการ พล่านน์น์น์ อย่างเห็นได้โดยชัดเจน ไม่ว่าซีกรัฐบาล หรือซีกฝ่ายค้าน ต่างขยับเขยื้อน เคลื่อนไหว ชนิดยิ่งกว่าจับปูใส่กระด้ง จนสีสัน บรรยากาศ โดยทั่วไป มันคงไม่อาจ สงบ-เรียบ-นิ่ง แบบเดิมๆ ได้อีกต่อไปแล้ว แม้ว่าการ เดินหน้าประเทศไทย นับแต่นี้ต่อไป จำต้องอาศัยความสงบ ความราบเรียบ และความนิ่ง อย่างเป็นพิเศษก็ตามที...

แต่ที่ออกจะก่อให้เกิดอาการ ผงะ อย่างมิอาจปฏิเสธได้...ก็คือผลสำรวจที่ให้ข้อสรุปเอาไว้ประมาณว่า หนูเล็กๆ และเด็กๆ ทั้งหลาย อย่าง นักติดกระดุม ที่ยังแทบไม่ได้มีผลงานใดๆ พอจะจับต้องได้ อย่างคุณหนู พิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล หรืออดีตพรรคอนาคตหมด อนาคตไหม้ กลับมาแรง แซงโค้ง ซะเหลือเกิน ถึงขั้นเบียด ขั้นแซง ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา กลายเป็นความหวังของผู้ตอบแบบสอบถามสวนดุสิตโพลโดยส่วนใหญ่ อยากจะให้ผงาดขึ้นเป็นนายกฯ คนใหม่จำนวนถึง 28.67 เปอร์เซ็นต์ เฉือน บิ๊กตู่ ไปประมาณ 1 ช่วงตัวเป็นอย่างน้อย ที่ตามมาด้วยคะแนนนิยมประมาณ 21.27 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง...

แต่ก็นั่นแหละ...ไม่ว่าโดยอะไรต่อมิอะไรก็ตาม ที่ทำให้ผู้ตอบแบบสอบถามสวนดุสิตโพล เกิดความประทับใจ ความมั่นอก มั่นใจ กับคุณหนู พิธา ก็แล้วแต่ สิ่งที่ นักติดกระดุม รายนี้จำต้องก้าวข้าม คงไม่ได้มีแต่เฉพาะคนแก่ คนชรา อย่างคุณลุง บิ๊กตู่ เท่านั้น แต่ยังต้องหมายรวมไปถึงคุณหลาน อุ๊งอิ๊ง ผู้มาพร้อมๆ กับเจนเอ็กซ์ เจนวาย เจนแซด และเจนอัลฟา ฯลฯ ที่เพิ่งออกมาเปิดตัว ในฐานะประธานคณะอะไรซักอย่าง ของพรรค เผาไทย ไปเมื่อวัน-สองวันที่ผ่านมา และเมื่อพิจารณาจากกระบวนการสืบทอดสันตติวงศ์ โดยคุณพี่ โทนี่-โทนาฟ ด้วยแล้ว การจะก้าวข้าม ก้าวผ่าน คุณหลาน อุ๊งอิ๊ง คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เผลอๆ...อาจจะยากซ์ซ์ซ์ฉิบหาย!!! ยิ่งกว่าการ ก้าวข้ามบิ๊กตู่ ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า...

และจะด้วยเหตุเช่นนี้หรือไม่? อย่างไร? ก็มิอาจสรุปได้ชัดเจน...เลยถึงกับทำให้ ส.ส.บัญชีรายชื่อแห่งพรรคก้าวไกล ต้องออกมาบดขยี้คุณหลาน อุ๊งอิ๊ง เอาไว้ก่อนล่วงหน้า ด้วยข้อสรุปแบบสั้นๆ ง่ายๆ แต่สุดแสนจะ แสบบ์บ์บ์ ซะเหลือเกิน นั่นก็คือข้อสรุปที่ว่า... ประชาชนต้องการผู้นำ ไม่ใช่หุ่นเชิด!!! นี่...เล่นกันถึงระดับยกฝ่าตีนลูบหน้ากันเห็นๆ แม้บรรดาคนแก่ คนชรา ประเภทพวกเขี้ยวลากดิน เกล็ดแตกลายงา มีปีก มีหาง และพ่นไฟได้ด้วย ในพรรค เผาไทย จะพยายาม แสวงจุดร่วม-สงวนจุดต่าง ยังไงก็แล้วแต่ หรือถึงขั้น เห็นควรด้วย กับการนำเอาเรื่อง มาตรา 112 ไปพูดจาเจ๊าะๆ แจ๊ะๆ กันในสภาฯ แต่นั่นคงไม่ได้ช่วยให้เกิดการประสานงาน เพราะยังมีอีกหลายต่อหลายเรื่องที่คงต้อง ประสานงา กันอีกเยอะ...

คือพูดง่ายๆ ว่า...ไม่ว่าจะเป็น คนรุ่นเก่า-คนรุ่นใหม่ ก็แล้วแต่ สิ่งที่ไม่ได้ถึงกับผิดแผก แตกต่าง ระหว่างกันและกันมากมายซักเท่าไหร่นัก นั่นก็คือ กิเลส และ ตัณหา นั่นเอง ใครที่ดันไปคิดๆ ไว้ก่อนล่วงหน้าว่า ถ้าขึ้นชื่อว่า คนรุ่นใหม่ ซะอย่างแล้ว คงต้องบริสุทธิ์ สะอาด ปราศจากมลทินใดๆ เอาเลยแม้แต่นิด ส่วนใหญ่...มักหนักไปทางประเภท รู้เขาหลอก-แต่เต็มใจให้หลอก นั่นแหละทั่น ยิ่งเป็นประเภทใหม่สด ถอดด้าม ใหม่แบบประเภท 4.0 ประเภท 5-G หรือประเภทดิจิตอล เทคโนโลยี ก็แล้วแต่ ยิ่งเป็นอะไรที่น่ากลัว น่าอันตราย ยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยเหตุเพราะมันไม่ได้มีสิ่งเก่าๆ ไม่ว่าจะเป็นค่านิยม วัฒนธรรม ประเพณี หรือกระทั่งศาสนา ไว้คอยถ่วง คอยรั้ง มากมายซักเท่าไหร่นัก...

โอกาสที่จะใส่กันชนิด เละเป็นขี้-เละเป็นโจ๊ก ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ ไม่เชื่อก็ลองไปหยิบเอา ม็อบทะลุแก๊ส-ทะลุฟ้า มาเทียบเคียงกับ ม็อบ 14 ตุลา ลองดูก็ได้ คือด้วยเหตุที่คุณธรรม มโนธรรม ขันติธรรม ฯลฯ มันออกจะเป็นของ แสลง สำหรับพวกคนรุ่นใหม่หรือไม่? อย่างไร? ก็แล้วแต่จะคิด ความพยายาม แสวงจุดร่วม-สงวนจุดต่าง ระหว่างพรรค เผาไทย กับพรรค ก้าวไกล มันจึงแทบไม่ต่างอะไรไปจากการ คบเด็กสร้างบ้าน-คบหัวล้านสร้างเมือง นั่นแล อันมีแต่จะก่อให้เกิดการ เพิ่มอัตราเสี่ยง ต่อความเป็นไปได้ในกลับบ้าน กลับช่อง ของคุณพี่ โทนี่-โทนาฟ บิดาบังเกิดเกล้าของคุณหลาน อุ๊งอิ๊ง โดยใช่เหตุ...

สรุปรวมความแล้ว...ภายใต้ความยากลำบากของคุณน้อง พิธา ในการก้าวข้ามคุณหลาน อุ๊งอิ๊ง นี่แหละ จึงอาจถือเป็นการเปิดช่อง เปิดโอกาส ให้กับผู้ที่แก่แล้ว แก่แรด ลงไปเรื่อยๆ อย่างคุณลุง บิ๊กตู่ ให้ยังพอสามารถยกระดับคุณค่า ราคา ของตัวเอง ไม่ให้ถึงกับต้อง ตกเวทีประวัติศาสตร์ ชนิด หาเวทีรำวงยังไม่เจอ เพราะไม่ว่าจะยังไงก็ตาม...การนำมาซึ่งความสงบเรียบร้อยของชาติบ้านเมืองและสังคมนั้น ย่อมหนีไม่พ้นต้องอาศัย ธรรมะ นั่นแหละเป็นที่ตั้ง ย่อมต้องเดินไปตาม ครรลอง-คลองธรรม อย่างมิอาจปฏิเสธไปเป็นอื่น เพียงแต่ขออย่าให้ แก่แล้ว-แก่เลย เท่านั้นเอง...

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก Bonnie Pruden... “You can’t turn back the clock. But you can wind it up again. – ท่านไม่อาจหมุนเข็มนาฬิกาให้เดินย้อนกลับได้ แต่ท่านสามารถไขลานให้มันเดินใหม่ได้...”.