วันที่ 'ไม่เป็นเรื่อง-เป็นราว'

คล้ายไม่มีกระบวนท่า แต่ว่านางทั้ง ๗ กลับเล่นสอดประสาน คล้ายส่ง "โทรจิต" ไปถึงกันได้ในทันใดยังงั้นแหละ

"จับทาง" ไม่ถูกเลยจริงๆ

แต่ที่จะประชันตบกับแต่ละทีมต่อจากนี้ ที่จะชนะง่ายๆ อย่างเมื่อวาน เห็นจะไม่มี

ตอนนี้ กับทีมที่จ้องลุ้นกันตาทะลุจอ ก็นัดที่ไทยจะเจอกับญี่ปุ่นนี่แหละ

เมื่อวาน สาวพู่-พรพรรณ ออกท่า "เอาไงก็เอากัน" กับสาวแคนาดาที่ประจันหน้ากันตรงตาข่ายตอนเคลียร์แต้ม          

แหม..ยังกะท่าแม่เสือสาวปืนคู่ ทำเอาหนุ่มๆ หัวหด!

พูดถึงเรื่องปืนผาหน้าไม้..........

ทำให้นึกถึงข้อความที่ "นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล" อาจารย์นิติธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซ เมื่อวานนี้

Prinya Thaewanarumitkul

การใช้กระสุนยาง ที่ #ไม่สอดคล้องกับกติกาของสหประชาชาติ

แนวปฏิบัติของสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชนในเรื่องการใช้อาวุธที่มีความร้ายแรงต่ำในการบังคับใช้กฎหมาย (Guidance on less-lethal weapons in law  enforcement) ได้กำหนดวิธีการใช้ #กระสุนยาง ไว้ที่ข้อ  7.5.2 ว่า

 “Kinetic impact projectiles should generally be  used only in direct fire with the aim of striking the lower  abdomen or legs of a violent individual and only with a  view to addressing an imminent threat of injury to  either a law enforcement official or a member of the  public”

แปลได้ความว่า “โดยหลักแล้วกระสุนยางควรใช้เฉพาะการยิงโดยตรงที่เล็งไปที่ท้องส่วนล่าง หรือขาของผู้ก่อความรุนแรง

และเฉพาะเมื่อเห็นว่าจะเกิดภยันตรายต่อเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมาย หรือต่อสมาชิกคนหนึ่งคนใดของสังคม”

ว่าง่ายๆ สหประชาชาติกำหนดเงื่อนไขในการใช้กระสุนยางไว้สองข้อคือ #หนึ่ง #จะต้องเล็งต่ำไปที่ท้องส่วนล่างหรือขา ของผู้ก่อความรุนแรง จะยิงส่งเดชไม่ได้ และ

#สอง ใช้กระสุนยาง #เฉพาะเพื่อป้องกันอันตรายที่กำลังเกิดกับเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายหรือประชาชน เท่านั้น

แต่การใช้กระสุนยางในการควบคุมฝูงชนที่ผ่านๆ มา  และล่าสุดที่ #ดินแดง ในช่วงสองสามวันมานี้

จากภาพที่เห็นทางสื่อ เห็นได้ชัดว่า มีการยิงแบบประทับบ่า ที่ไม่ได้เล็งต่ำหรือเล็งขา นั่นหมายความว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ #ไม่ได้ปฏิบัติตามแนวทางของสหประชาชาติ ครับ

แน่นอนว่า #ผู้ชุมนุมควรต้องชุมนุมโดยสงบ ไม่ใช้ความรุนแรง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำหน้าที่ควบคุมฝูงชน หรือ คฝ. #ก็ต้องไม่ใช้ความรุนแรงเช่นกัน

เพราะหน้าที่คือ #ควบคุมฝูงชน ไม่ใช่ไปตีกับผู้ชุมนุม

ต้องไม่ลืมว่า คฝ.ไม่ใช่ฝ่ายตรงข้ามกับผู้ชุมนุม แต่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีหน้าที่ควบคุมดูแลให้การชุมนุมเป็นไปโดยเรียบร้อย

ถ้าเกิดความรุนแรงขึ้นมา ก็ต้องใช้มาตรการที่ละมุนละม่อมที่สุด หรือรุนแรงน้อยที่สุดในการลดความรุนแรงลงมาจนสถานการณ์สงบลง

ไม่ใช่เติมไฟเข้าไป และถ้าจำเป็นถึงขนาดต้องใช้กระสุนยาง ก็ใช้กระสุนยางได้ แต่ต้องยิงต่ำตามที่กล่าวไปข้างต้น

อ่านแล้ว.....

นึกขอบคุณเจ้าทุ่ง เจ้าที่ ผีตายห่า ผีตายโหง แทนอาจารย์ปริญญาขึ้นมาทันที!

เคราะห์ดีนะ ที่'จานไม่ได้ไปกะเขาด้วยตัวเอง เพียงดูจาก "ภาพที่เห็นทางสื่อ" แล้วบอก

ตำรวจ "เล็งสูง"

หมายถึง "ยิงแบบประทับบ่า ที่ไม่ได้เล็งต่ำหรือเล็งขา" แล้วระบุว่า "ไม่ได้ปฏิบัติตามแนวทางของสหประชาชาติ" นั่นน่ะ

ถ้า'จานไปร่วมแก๊งทะลุแก๊สผู้ละมุนละม่อมด้วยตัวเองละก็ ปะเหมาะ-เคราะห์ซวย เผลอๆ อาจเจอลูกหลงจาก "เล็งสูง" เข้าหัวกระบาลทะลุไปแล้วก็ได้

และก็อยากเตือนด้วยหวังดีว่า.....

เมื่อ'จานกฎหมายมหาชนกางกฎ "สหประชาชาติ" ว่ากล่าว-ตักเตือน เจ้าหน้าที่ตำรวจ คฝ.เช่นนี้แล้ว

ถ้ามีการขนระเบิด ก่อกวนบ้านเมือง ปาบึ้มใส่เจ้าหน้าที่ เผาสถานที่ราชการ เผารถตำรวจ "แบบสงบ-สันติ-ปราศจากอาวุธ" เกิดขึ้นอีก

ผมเชื่อ เจ้าหน้าที่ คฝ.เขาไม่กล้า "เล็งสูง" แล้วล่ะ!

ต้องปฏิบัติตามกฎสหประชาชาติ ด้วยการ "ยิงตรง" เล็งต่ำ ไปที่ท้องส่วนล่าง หรือขา เท่านั้น

แต่ก็นั่นแหละ ถึงแบบนั้น ด้วยรักและหวังดี ก็ต้องบอกอีกว่า "'จานอย่าโผล่หัวไปร่วม" เป็นอันขาดเชียว

เพราะผมไม่มั่นใจ ว่า คฝ.จะไม่ประหม่า วี้ดดด..บึ้ม..วี้ดดด..บึ้ม จนมือไม้สั่นไปบ้าง

แบบนั้น ส่วนหัว'จาน "ปลอดภัย" ก็จริง......

แต่ "ท้องส่วนล่าง" ด้วย คฝ.มือไม้สั่น อาจพลาดแฉลบต่ำลงไป "ตัดพวงไข่" ของ'จาน ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้!

ฉะนั้น เก่งอยู่ในรู นั่นแหละ "รอด-รวย-ปลอดภัย" ดีที่สุด

ใช้คราบสถาบันนาม "ธรรมศาสตร์" เป็นกระดอง

คอยให้สัมภาษณ์บ้าง โพสต์เฟซบ้าง แบบ "หน้าด้านๆ ใจถึงๆ" ตอดช่วยขบวนการสามนิ้วอยู่ข้างหลังไปเรื่อยๆ

จะสมนามเทวานฤมิตร ณ ธรรมศาสตร์

ผู้ปราดเปรื่องเรื่องกฎหมายและกฎบัตรสหประชาชาติ ว่าด้วยเรื่องทะลุแก๊สผู้ละมุนละม่อม "ป่วนบ้าน-พังเมือง"!

คุยเรื่องการบ้านแล้ว มาคุยเรื่องการเมืองบ้าง

คุณ "อนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกฯ รัฐมนตรีสาธารณสุข

หมู่นี้ ดัง "เกินหน้า-เกินตา" เพื่อนฝูงด้วยผลงานหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะ "พูดแล้วทำได้"

ในเรื่อง "กัญชา"

เลยถูกพวกรุม "เตะตัดขา" ซะต้องเดินกะเผลก!

ยิ่งมาเจอเรื่องรัฐมนตรีลูกพรรค "กนกวรรณ วิลาวัลย์" รมช.ศึกษา ตกเป็นจำเลยในคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ผิดจริยธรรมร้ายแรง

วันๆ จึงเจอการตีรุกขนาบด้วยคำถาม เมื่อไหร่...ทำไมนางกนกวรรณจึงไม่ลาออกจากรัฐมนตรี ในเมื่อศาลรับคดีแล้ว?

เรื่องนี้ ต้องแยกเป็น ๒ กรณี

กรณีแรก เมื่อ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดชัดแล้ว ระบุผิดจริยธรรมร้ายแรงแล้ว ทั้งคดีสู่ศาลแล้ว

แน่นอน ทางสปิริต นางกนกวรรณ ควรลาออกทันที

แต่ในเมื่อยังไม่ลาออก ก็เข้ากรณีที่ ๒

ในทางกฎหมาย ถือว่าขณะนี้ นางกนกวรรณยังไม่มีความผิด ฉะนั้่น การไม่ลาออก ผิดใจ ยังไม่ถือมีความผิด

ถามว่า แล้วต้องถึงขั้นตอนไหน ที่นางกนกวรรณ ออก-ไม่ออก ก็ต้องพ้นสภาพการเป็นรัฐมนตรี?

ตอนนี้ นางกนกวรรณ อยู่ในขั้นจำเลยที่ "ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ" ภาค ๒ ระยอง ซึ่งศาลประทับรับฟ้องคดีแล้ว อยู่ระหว่างศาลให้ประกันตัว

ศาลนัดสอบปากคำจำเลยในวันที่ ๕ สิงหาตอน ๐๙.๓๐ น.ก็ต้องดูวันนั้่นเป็นเกณฑ์ไปสู่ศาลฎีกาจะเป็นผู้พิจารณาว่า "ต้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที" หรือไม่

มันก็มี ๒ กรณีอย่างนี้.......

แต่ยังไงก็ตาม ตามรูปการณ์ ตำแหน่ง "รัฐมนตรีช่วยศึกษา" ของนางกนกวรรณ

"ว่างแน่" รอแต่ช้า-เร็ววันไหนเท่านั้น!

การเมืองใกล้ครบเทอม มันก็เหมือนลิเกใกล้ลาโรง ก็มีทั้งรัวกลอง ทั้่งเขย่าฉาก เช่นนี้แหละ

ทำใจซะเถอะ...แม่จำเนียร!

คนปลายซอย