นาทีนี้บอกเลยว่าทุกคนสู้ชีวิต แต่เจอชีวิตสู้กลับหลายตลบ เพราะประสบภาวะเงินเฟ้อกันทั่วโลก สู่ยุคข้าวยากหมากแพง โลกธุรกิจและตลาดการลงทุนผันผวน สวิงขึ้นลงเอาแน่นอนไม่ได้
สุดท้ายผลกระทบตกอยู่ที่ประชาชน ควักตังค์ในกระเป๋ามากขึ้น แต่ได้ปริมาณของเท่าเดิม
ที่น่าเห็นใจก็ “ชีวิตเกษตรกร” นอกจากการดำรงชีพโดยทั่วไปที่แพงขึ้นแล้ว ยังโดนซ้ำเติมจากเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ซึ่งเป็นประเทศที่ส่งออกปุ๋ย แต่ปัจจุบันมีการลดการส่งออก
ขณะที่ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งเกษตรกรรม มีความต้องการใช้ปุ๋ยอยู่ตลอดเวลา เมื่อปุ๋ยมีปริมาณไม่เพียงพอ ราคาจึงเพิ่มขึ้นตามกลไกราคาอุปสงค์-อุปทาน
งานนี้ “รัฐบาล” ต้องบริหารภาพรวม และปล่อยให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องโดยตรงที่สุดโชว์ฝีมือ กระทรวงพาณิชย์ต้องกำกับราคา ไม่ให้ชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน โดนเอารัดเอาเปรียบจากนายทุน แว่วว่าวันนี้ เขาต้องจ่ายเงินค่าปุ๋ย 1,500-1,800 บาทต่อลูก
ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็ต้องดูแลเกษตรกร ล่าสุด “เดอะจ้อน” อลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บอกว่า เฉลิมชัย ศรีอ่อน เจ้ากระทรวงเกษตรฯ มีนโยบายเร่งช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาปุ๋ยแพงและปุ๋ยขาดแคลน
“เดอะจ้อน” อลงกรณ์ เผยว่า ได้มีการหารือกับองค์กรต่างๆ ระหว่างไทย-รัสเซีย “โดยในรอบแรกผู้แทนการค้ารัสเซียยืนยันว่ารัสเซียกับไทยมีความสัมพันธ์กันมากว่าร้อยปี จึงเห็นด้วยในหลักการที่จะขายปุ๋ยให้ไทยในราคาพิเศษ”
ที่ปรึกษา ยังกล่าวเสริมด้วยว่า ช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ราคาปุ๋ยเคมีทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น และเมื่อเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ยิ่งทำให้ปุ๋ยเคมีมีราคาสูงยิ่งขึ้นไปอีก กระทบต่อต้นทุนของเกษตรกรโดยตรง อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการต่างประเทศ และหอการค้าไทย ได้เจรจาขอซื้อปุ๋ยเคมีราคามิตรภาพจากซาอุดิอาระเบียจนสามารถตกลงในหลักการ และขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจานำเข้า-ส่งออกของภาคเอกชนของ 2 ประเทศ
อืม..การเจรจากับประเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อขอซื้อปุ๋ยในราคามิตรภาพถือว่าดี เพราะเป็นการไม่ยอมปล่อยให้วิกฤตปุ๋ยไหลไปตามยถากรรม ถ้าหากปุ๋ยมาถึงแล้ว เวลา “นิพนธ์ บุญญามณี” รมช.มหาดไทย ไปแจกโฉนดที่ดิน ก็ขนไปจำหน่ายด้วย มีทั้งปุ๋ย ทั้งรถโมบายพาณิชย์ บูรณาการเพื่อปากท้องประชาชนไปเลยจ้า.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ออร่าจับมาก
ในบรรดาเสนาบดีหน้าใหม่ หรือทายาททางการเมืองที่โดดเด่น นาทีนี้หลายคนยกให้ รมต.ดีดา-ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลูกสาวในไส้ ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย
“ไม่ต้องรอมติพรรค”
“ คนท้องถิ่น...คนศรีสะเกษ... “คนบ้านเดียวกัน” ถือสโลแกนหาเสียงของ “นายกฯส้มเกลี้ยง” วิชิต ไตรสรณกุล ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ ในนามกลุ่ม “คนท้องถิ่น” และยังเป็นคุณพ่อของ “เลขาฯกวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ทันเกมทักษิณ
โบราณว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” จริงที่สุด ดูการเมืองเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน
“เดี๋ยวก็หายไปแล้ว”
ช่วงนี้คนกรุงเทพฯ ตื่นเต้นเป็นพิเศษ อากาศตอนเช้าอุณหภูมิประมาณ 20 องศา ถือว่าเป็นอากาศเย็นสบายๆ
หัวหน้าแก๊งเด็ก
พร้อมลุยงานกันต่อในปี 2568 สำหรับทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ต้อนรับปีใหม่ด้วยการตีปี๊บข่าวสารด้านต่างๆของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม โดยเฉพาะ “รองฯโบ๊ต” อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากค่ายกล้าธรรม (กธ.) ที่ล่าสุดรีบแจ้งข่าวสารถึงเกษตรกรไทย
ไร้บอดี้การ์ด
ต้อนรับปีใหม่ปีงู 2568 แล้ว แต่ภารกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยังคงเข้มข้นเช่นเดิม หลังเห็นรีวิวส่งท้ายปีของ รทสช. ที่บอกว่า พร้อมพังทุกอุปสรรค เพื่อประโยชน์ชาติ ทั้งพัง..การผูกขาด, พัง..ระบบที่เน่าเฟะ และพัง..การโกงกินทุกรูปแบบ พร้อมผลิตเสื้อพรรคสีน้ำเงิน สกรีนข้อความ “พัง! เพื่อประโยชน์ชาติ” ให้ได้เห็นกัน