ผมเสนอให้รัฐบาลและเอกชนรวมไปถึง “แหล่งคลังสมอง” ของประเทศไทยทั้งหลายให้ร่วมกันตั้ง “วอร์รูมเศรษฐกิจ” หรือ Thailand Economic War Room เพราะผมเชื่อว่าเรากำลังเผชิญกับภัยคุกคามด้านเศรษฐกิจที่หนักหนาสาหัสกว่าที่องค์กรรัฐบาล หรือแม้แต่ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์อยู่ในขณะนี้
เพราะสงครามยูเครนจะสร้างความสั่นสะเทือนกว้างไกลกว่าที่คิด
ผลที่จะตามมาจะครบทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านการแข่งขันอาวุธร้ายแรง, การเผชิญหน้าระหว่างโลกตะวันตกกับรัสเซียที่ผนึกกำลังกับจีนเพื่อสร้างขั้วใหม่แห่งอำนาจ
ซึ่งหมายถึงการแปรผันทั้งด้านความมั่นคง, การเมือง, การทูต, สังคม, ไซเบอร์และโลกร้อน
และที่น่ากลัวที่สุดคือ ภัยพิบัติต่อเศรษฐกิจโลกที่มีผลกระทบถึงไทยเราในเกือบทุกๆ ด้าน
คำพยากรณ์ของธนาคารโลกและ OECD ที่จับชีพจรของเศรษฐกิจโลกตลอดเวลาออกบทวิเคราะห์ที่ตอกย้ำถึงความน่ากังวลหนักขึ้นตลอดเวลา
ธนาคารโลกคาดการณ์เศรษฐกิจโลกจะลงแรง
และพยากรณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะหดตัวต่ำกว่าที่เคยคาด...นั่นคือจากการประเมินเดิมที่จะโต 3.9% เหลือเพียง 2.9%
ธนาคารโลกออกรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจฉบับล่าสุด "โกลบอล อิโคโนมิค พรอสเพ็ค รีพอร์ต" ประกาศลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงมาอยู่ที่ 2.9% ต่ำกว่าการคาดการณ์เมื่อเดือนมกราคม ซึ่งอยู่ที่ 4.1% และต่ำกว่าการเติบโตของเมื่อปีที่แล้วที่ 5.7%
เหตุผลสำคัญมาจากสงครามในยูเครน ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ของโลกหลายชนิด โดยภาวะนี้เกิดขึ้นในขณะที่เศรษฐกิจโลกได้รับผลกระทบจากวิกฤตการระบาดของโควิด-19 อยู่แล้ว
ซึ่งธนาคารโลกระบุว่า “โลกกำลังเข้าสู่ยุคที่ยืดเยื้อของการเติบโตที่อ่อนแอ และยุคของเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น”
ภาวะเช่นนี้คือ "สแตกเฟลชั่น" Stagflation คือ ภาวะที่เศรษฐกิจโลกหดตัว แต่เงินเฟ้อกลับพุ่งสูงขึ้น
ซึ่งรายงานนี้บอกว่าเป็นภาวะคล้ายกับช่วงที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวในยุค 1970
และยอมรับว่าหลายประเทศในโลกจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงกับ "ภาวะเศรษฐกิจถดถอย"
รายงานบอกว่า "สงครามในยูเครน การล็อกดาวน์ในจีน ปัญหาการสะดุดของห่วงโซ่อุปทาน และความเสี่ยงของภาวะสแตกเฟลชั่น กำลังทุบทำลายการเติบโตทางเศรษฐกิจลง สำหรับหลายประเทศนั้น คาดว่าจะไม่อาจหลีกเลี่ยงกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้"
ทั้งนี้ ธนาคารโลกคาดว่า สหรัฐฯ จะเติบโตได้ที่ 2.6% ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมกราคม 3.8%
ส่วนกลุ่มประเทศยูโรโซนจะเติบโตได้ที่ 2.5% ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมกราคมที่ 4.2%
ญี่ปุ่นจะเติบโตได้ที่ 1.7% ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 2.9% ส่วนจีน จะเติบโตได้ที่ 4.3% ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 5.1% และประเทศไทยจะเติบโตได้ที่ 2.9% ในปีนี้ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 3.9%
ขณะเดียวกันองค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาระหว่างประเทศ หรือโออีซีดี (OECD) ก็ออกรายงานมาพร้อมข่าวร้ายในแนวเดียวกัน
โดยปรับลดคาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงจาก 4.5% เหลือ 3%
พร้อมคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยประเทศและประชาชนที่ยากจนจะได้รับผลกระทบมากที่สุด
เลขาธิการ OECD แมทเธียส คอร์แมนน์ รายงานว่า การลงทุนของภาคธุรกิจและการใช้จ่ายของผู้บริโภคต่างได้รับผลกระทบทั้งจากอัตราเงินเฟ้อ สงครามในยูเครน และปัญหาห่วงโซ่อุปทานสินค้าที่ล้วนทำให้ราคาสินค้าและพลังงานต่างๆ สูงขึ้นมาก
OECD ซึ่งมีสมาชิกเป็นประเทศพัฒนาแล้ว 38 ประเทศ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ และกลุ่มยูโรโซนจะขยายตัวที่ระดับ 2.5% และ 2.6% ตามลำดับ ลดลงจากการคาดการณ์ครั้งที่แล้ว
ส่วนเศรษฐกิจจีนนั้น OECD คาดว่าจะเติบโตที่ระดับ 4.4% ในปีนี้ จากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 5.1% ซึ่งเป็นผลจากมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด
รายงานนี้ตอกย้ำว่าประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก คือกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะปัญหาขาดแคลนอาหารที่เกิดจากสงครามในยูเครน ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาทางสังคมและความวุ่นวายทางการเมือง
สำหรับไทย แบงก์ชาติกำลังถูกกดดันให้ต้องขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้นี้ แม้จะไม่อยากทำ เพราะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เปราะบาง
อีกทั้งยังมีปัญหาหนี้ครัวเรือน หนี้เสียที่ยังคงมีความน่ากังวลอยู่
แต่ปัญหาเงินเฟ้อมาจ่ออยู่หน้าบ้านอย่างชัดเจน
กลายเป็นปัญหาระดับโลก
การตัดสินใจไม่ทำอะไรก็ไม่ได้ หรือถ้าทำช้าเกินไปก็อาจจะนำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่กว่า
ในเมื่อเงินเฟ้อเกิดจากต้นทุนที่สูงขึ้น แต่เป็นช่วงจังหวะที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นดี
เป็นความท้าทายที่หนักหน่วงมากสำหรับทุกประเทศในโลกวันนี้
ตัดสินใจไม่ทำก็ลำบาก ตัดสินใจทำก็ลำบาก
ใครที่อยากจะเป็นรัฐบาลต่อหรือเสนอมาเป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้งใหญ่คราวนี้มีคำตอบสำหรับประชาชนหรือยัง?
การหาเสียงแบบเดิมๆ ที่เป็นนโยบายกว้างๆ หรือมีแต่สโลแกนไม่มีแผนปฏิบัติการอย่างจริงจัง มีแต่เจ๊งครับ!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ