จากที่.........
"ยืนคนละข้าง-คนละสี" ปิดถนน ตะโกนใส่กันข้ามเดือน-ข้ามปี ชาตินี้จะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้
ไม่มึง-ก็กู "ต้องตายกันไปข้าง"!
ผมหมายถึง ๒ สิงห์ "ม็อบแห่งชาติ" ทนายนกเขา "นิติธร ล้ำเหลือ" ฝ่ายเหลือง กับตู่ "จตุพร พรหมพันธุ์" ฝ่ายแดง
ถึงวันนี้ "ทั้งสองข้าง" นอกจากไม่มีใครตายแล้ว นกเขากับจตุพรยังกลายเป็น "สหายร่วมม็อบ" เคียงข้างกัน
ใครมองยังไงผมไม่รู้
แต่สำหรับผม มองว่า "น่ารักดี" และนี่คือ "ต้นแบบ" นำร่องสามัคคีปรองดองแห่งชาติ
ตามแนวที่เรียกร้องกันมาร่วม ๒๐ ปี นับตั้งแต่สังคมไทย "แยกสี-แยกฝ่าย" แดงเหลืองตีกัน!
ถึงวันนี้ การรวมสีแดง-เหลือง "สามัคคีเพื่อชาติ" นอกจากยังไม่เกิดแล้ว ยังแทงหน่อต่อยอดเพิ่มเข้ามาในความแตกแยกอีกสี
คือ "สีส้ม"!
-"เหลือง" พิทักษ์ ชาติ, ศาสน์, กษัตริย์
-"แดง" พิทักษ์ชินวัตร เปลี่ยนประเทศเป็นแดงทั้่งแผ่นดิน
-"ส้ม" ผสมแดง ล้มสถาบัน แบ่งประเทศเป็นสาธารณรัฐ
สังคมประเทศอยู่ในลักษณะนี้
เพียงแต่ "แดง-เหลือง" บรรดาแกนนำอ่อนล้า สู้กันแทบตาย เป็นตาอินกับตานา ลงท้ายเสร็จ "ตาอยู่"
จากแนวคิดที่ยึดเป็น "หลักการ" ในการต่อสู้กัน มันให้บทเรียนแต่ละฝ่ายจนเกิดเป็นประสบการณ์ให้แกนนำหลายต่อหลายคน "คืนสติ-คิดได้"
อย่างเช่น แรมโบ้อีสาน "เสกสกล อัตถาวงศ์" หนึ่งในแกนนำ นปช.เปลี่ยนประเทศเป็นแดงทั้งแผ่นดินทักษิณสถาปนา
กลับใจคือฟากฝั่ง.......
จากร่วมกับ "อานนท์ แสนน่าน" รวบรวมพี่น้องอีสาน ตั้่ง "หมู่บ้านเสื้อแดง" และกระจายไปตามเครือข่ายเสื้อแดงจังหวัดต่างๆ
วันนี้ แรมโบ้อีสานกับอานนท์ มุ่งมั่น-ขันแข็ง เปลี่ยนหมู่บ้านเสื้อแดงเป็น "หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน" ทั้ง ๔ ภาค
ส่วนจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.ผู้ยิ่งใหญ่ในปฐพีแดง ประสบการณ์ "ทั้งลับ-ทั้งแจ้ง" ทำให้เขาเห็นสัจธรรม
"จริงที่เป็นอยู่" คือจริง
"จริงที่ต้องการให้เป็น" คือมายา!
และใครจะคิดระหว่าง "สองเสือ ต." คือ "ตู่-จตุพร" กับ "เต้น-ณัฐวุฒิ" ที่กอดขาทักษิณคนละข้าง "ยอมตาย" ในยุทธการเผาบ้าน-เผาเมือง เมื่อปี ๕๒-๕๓
วันนี้ สองเสือ ต.มี "ตะวันคนละดวง" กำหนดชีวิตในทิศทางเดินแต่ละคน
ต.เต้น เส้นทางเพื่อชีวิตดำรง เป็นลักษณะสัตว์ "ครึ่งบก-ครึ่งน้ำ"
ส่วน ต.ตู่ เลือกเส้นทาง "ยากคิด-ยากประเมิน" ในทางลึก แต่ที่เห็นเฉพาะหน้า ก็ยังยากสรุป เป็นเส้นทางที่จตุพรพอใจเลือกเดิน
หรือเป็น "เส้นทางบังคับ" ที่ต้องเดินตามวิถีของผู้ต้องมีการเคลื่อนไหวเป็นลมหายใจหล่อชีวิต?
จะอย่างไรก็ตาม
จากที่ "นิติธรกับจตุพร" ๒ สิงห์ ๒ สี ไมค์คนละตัว ยืนคนละเวที ปลุกเร้ามวลชนคนละสี ถึงขั้นดวลกันก็มี
แล้ววันนี้ ๒ สิงห์กลับรวมสี......
ร่วมไมค์-ร่วมเวที เป็นปี่-เป็นขลุ่ย สวมรองเท้าผ้าใบ กับใจถึงๆ เป็นขบวนการเคลื่อนไหวในกิจกรรมร่วมกัน
จะว่าแปลก-ก็แปลก ว่าไม่แปลก-ก็ไม่แปลก!?
ไม่ทราบว่า คนยุคนี้ รู้จัก "หนูถีบจักร" หรือไม่?
หนูถีบจักร ก็คือหนูประเภทหนึ่ง เลี้ยงในกรง มันจะถีบจักรเล็กๆ ในกรงทั้งวัน ถ้าหยุดถีบ ก็หมายถึงหนูตัวนั้น ตายแล้ว!
นักเคลื่อนไหวทางสังคม จะมีกลุ่มก้อนเป็นมวลชนม็อบหรือม็อบแบบ "ศิลปินเดี่ยว" ก็ตาม เมื่อลึกเข้าไปในวิถีนั้นแล้ว
"หยุดไม่ได้"
หยุดก็หมายถึงตายแล้ว
เพราะการเคลื่อนไหวรูปแบบใด-รูปแบบหนึ่ง คือ "ลมหายใจ" ต่อชีวิตของแต่ละบุคคลประเภทนั้นนั่นเอง!
เหมือนชีวิตที่ถูกสาป แต่ถ้าพูดสวยๆ ก็บอกว่า นี่คือเส้นทางที่ฟ้าดินกำหนดมาให้เดิน
ไม่ว่ายุคไหน-สมัยไหน............
เอาเท่าที่ชีวิตผมเห็น ตั้งแต่สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เรื่อยมา
จะมีคนในเส้นทาง "นักเคลื่อนไหว" ทั้งประเภทดีและร้ายเช่นนี้ออกมาเคลื่อนไหว ไม่เคยขาดหายไปในเส้นทางสังคมการบ้าน-การเมือง
จะว่าไป สังคมบ้านเมืองไทย เป็นประชาธิปไตยในทางปฏิบัติว่าด้วยสิทธิเสรีภาพในทางเป็นจริงในทุกยุค-ทุกสมัย
แม้ยุคที่ว่า "เผด็จการเต็มใบ" สมัยจอมพลสฤษดิ์ จอมพลถนอม เสรีภาพทางคิดเห็นและการชุมนุมก็มี เพียงแต่อย่าล้ำเส้นจนเกินไปเท่านั้น
ย้อนกลับมาเรื่อง "นกเขา-จตุพร" เมื่อรวมสีแล้ว อยู่ในสถานะ "สีอะไร" ผมก็บอกไม่ได้จริงๆ
แต่ดูจากแนวเจตนาในแต่ละเรื่องที่เขาออกมาเคลื่อนไหว จะไม่เป็นสีเพื่อใคร เพราะให้โทนไปทาง "๓ สี" คือ
"สีแดง-สีขาว-สีน้ำเงิน"
เมื่อวาน (๑๓ มิ.ย.๖๕) "นายลอยด์ เจ. ออสติน ที่สาม" (Lloyd J. Austin III) รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ นำคณะมาเยือนไทยเป็นทางการ ในฐานะแขกกระทรวงกลาโหม
และที่กระทรวงกลาโหม........
"พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" ในฐานะรัฐมนตรีกลาโหมและคณะ รอต้อนรับ นำคณะรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เข้าไปหารือภายในกระทรวง
งานนี้ ทนายนกเขาและจตุพร นำมวลชนจำนวนหนึ่งมาแสดงจุดยืน ต่อต้าน
"การลงนามในบันทึกข้อตกลงยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกร่วมกับสหรัฐฯ" เมื่อ ๑๗ พ.ย.๖๒ เนื่องจากมองว่า เป็นการนำพาประเทศไทยเข้าสู่สงคราม
ที่เรียกกันลอยๆ "นาโต ๒" นั่นแหละ!
มองเผินๆ จะมองว่า "แขกบ้าน-แขกเมือง" มา ไม่ควรทำอะไรในลักษณะ "ขับไล่-ไม่ต้อนรับ" เช่นนี้ ซึ่งมันดูไม่งาม ขัดกับบุคลิกภาพไทย
แต่ถ้าดูให้ละเอียด จะเห็นว่า คณะทนายนกเขา-จตุพร มีวุฒิภาวะผู้ใหญ่ รู้ควรแค่ไหน-ไม่ควรแค่ไหน ในการม็อบ ผิดแต่ก่อนๆ มาก
ถ้าเป็นก่อนๆ จะต้องไปม็อบหน้ากระทรวง ไม่สนหน้าอินทร์-หน้าพรหม เพราะคณะจะต้องเข้าทางหน้ากระทรวง
แต่ทนายนกเขา-จตุพร นำมวลชนไปชุมนุมอยู่ด้านหลังกระทรวง แถวๆ สะพานช้างโรงสี ปราศรัยต่อต้านอยู่ตรงนั้น ก่อนที่คณะรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ จะมาถึง
ครั้นพอคณะมาถึงหน้ากระทรวง........
นกเขา-จตุพร ก็หยุดปราศรัย จนกระทั่งพลเอกประยุทธ์นำคณะเข้าไปหารือข้างในกระทรวงแล้ว จึงอ่านแถลงการณ์ของกลุ่มต่อต้าน ว่า.....
"กลุ่มรวมประชาชนไม่คัดค้านที่ พล.อ.ประยุทธ์ให้การต้อนรับ รมว.กลาโหมสหรัฐฯ เพราะถือเป็นการให้เกียรติมิตรประเทศ
เราหวังว่าการเจรจาจะเป็นไปด้วยความเสมอภาค เท่าเทียม ไร้การกดขี่ ข่มขู่ กดดัน ต่อรอง ด้วยรูปแบบของความเหนือกว่า ทั้งทางทหาร ทางกองกำลังที่ไม่ใช่ทหาร และอาวุธ ขีปนาวุธ พร้อมไซเบอร์
กลุ่มรวมประชาชน ขอเรียกร้องให้นำข้อมูลดังกล่าวนี้ใช้ประกอบการหารือ คือ
๑.ความกังวลใจในการปฏิบัติของ รมว.กลาโหม สหรัฐฯ และประเทศสหรัฐฯ
๒.กรณีผู้นำสหรัฐฯ ฉวยโอกาสนำชื่อประเทศไทยไปกล่าวอ้างในโอกาสต่างๆ โดยอาศัยบันทึกข้อตกลงยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ซึ่งเป็นบันทึกข้อตกลงที่ไม่ยอมรับนั้น
ถือเป็นการสร้างศัตรูให้กับประเทศไทย เป็นอุปสรรคอันสำคัญ ทั้งทำให้เกิดข้อสงสัย ความไม่วางใจ ต่อมิตรประเทศต่างๆ ของประเทศไทย
๓.สหรัฐฯ เป็นมิตรกับประเทศไทยในลักษณะที่ใช้เราเป็นเครื่องมือ เป็นแหล่งกอบโกยทรัพยากร
เป็นพื้นที่เพื่อขยายอิทธิพลในแถบเอเชีย เพื่อการติดตั้งขีปนาวุธและไซเบอร์ อันเป็นประโยชน์ฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ
แต่ขอบอกอย่างหนักแน่นต่อสหรัฐฯ ว่า ประเทศไทยเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิตประชาชนไทยทั้งปวง และเราพร้อมต่อสู้ศัตรูเสมอเพื่อปกป้องประเทศไทย"
จากนั้น.......
นกเขา-จตุพร ยื่นหนังสือผ่านตัวแทนกระทรวงกลาโหม และยุติกิจกรรมแค่นั้น
นี้คือ ตัวตนที่ดำรงอยู่ของ "นกเขา-จตุพร" แต่วิถีเปลี่ยนไป จาก "หักล้าง" เป็นทาง "สร้างสรรค์" บนความเป็น "นักเคลื่อนไหว" เพื่อสังคมปัจจุบันนี้
การชุมนุม การนำมวลชนเคลื่อนไหว ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย
จิตเจตนาและการกระทำ "อสัตย์" ต่อชาติบ้านเมือง นั่นตะหากคือความเลวร้าย
บทบาท "นกเขา-จตุพร" ขณะนี้ นับเป็นแนวทางนำไปสู่ "ปรองดอง-สามัคคี-สร้างสรรค์" ของคนในชาติรูปแบบที่น่าสนใจ
ถ้านายกฯ ขอแรง "นกเขา-จตุพร" ช่วยสังคมชาติ เป็น "ต้นแบบ" นำสามัคคี-ปรองดอง ตามแนวทางของเขาเอง ผมคิดว่า
"ชาติและประชาชน" น่าจะชนะ นะ!
คนปลายซอย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฮัลโหล 'พีระพัง' มาแว้ว!
"พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" เจ้าสำนัก "รวมไทยสร้างชาติ" นี่ ดูเหมือน "งานจะเข้า" แฮะ!
แบงก์ชาติ 'อย่านึกว่ารอด'!
ประเทศ "พ้นบ่วงมาร" ไปอีกบ่วง! เมื่อวาน (๒๔ ธ.ค.๖๗) ปลัดคลังแถลง กฤษฎีกาตีความทางกฎหมายและตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว
ถ้าไม่รู้ทัน "มันกินเรียบ"
"ตรรกะโจร" บางเรื่องนี่ ใช้ได้นะ เช่นที่พูดว่า "ผลไม้พิษย่อมมาจากต้นไม้พิษ"
'หลวงพ่อทวด' สำเร็จแล้ว
คุยเรื่องบาปมาหลายวัน วันนี้คุยเรื่องบุญกันนิด! แต่ขอเตือนความจำกันก่อน
2 สว. 'พิสิษฐ์-ชาญวิศว์' ปักธงพิทักษ์ รธน. ปกป้องสถาบันฯ I อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2567
เรื่องนี้ 'ทักษิณ' ต้องอ่าน
ใครไม่อ่านวันนี้ ห้ามคุยเป็นแฟนคลับ "เปลว สีเงิน! เนื้อหาทั้งหมด นำมาจาก The room 44 ประทับใจหาดูได้ในช่องยูทูบ