ลิเกโรงใหญ่คณะ “หลวงประดิษฐ์วาทกรรม”

ก่อนที่จะถึงวันอภิปรายงบประมาณ ฝ่ายค้านพูดจาน่าตื่นเต้นว่า พวกเขามีไม้เด็ดที่จะจัดการกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้หลุดจากเก้าอี้ให้ได้ ในความคิดของพวกเขา พลเอกประยุทธ์คือตัวปัญหาของประเทศ ดังนั้นพลเอกประยุทธ์จะต้องออกไป เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี มี ส.ส.รายหนึ่งกล้าที่จะเอ่ยวาจาว่า

ถ้าหากพลเอกประยุทธ์ออกไปโควิดก็จะหายไปจากประเทศไทย และเศรษฐกิจก็จะดีขึ้น พูดลอยๆ แบบนี้ใครก็พูดได้ มันเป็นการประดิษฐ์วาทกรรมมาตำหนินายกรัฐมนตรี แล้วเหตุผลล่ะ อะไรคือสิ่งที่ทำให้เขาแน่ใจว่าถ้าพลเอกประยุทธ์ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วโควิดจะหายไปจากประเทศไทย

โควิดมีความสามารถที่จะเรียนรู้สถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยได้ขนาดนั้นเลยหรือ การที่เราเผชิญกับโควิดอยู่ตอนนี้เป็นเพราะโควิดไม่พอใจที่ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา กระนั้นหรือ ส่วนเรื่องเศรษฐกิจนั้น มันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก ส่งออกได้น้อยก็เป็นเพราะคนซื้อเขาประสบปัญหา แล้วเราจะขายได้อย่างไร ท่องเที่ยวก็ไม่อาจเดินหน้าได้เต็มสูบ เราต้องพร้อมที่จะรับนักท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวเขาก็ต้องพร้อมที่จะมา แล้วจะให้ท่องเที่ยวฟู่ฟ่าเหมือนก่อนมีโควิดได้อย่างไร

คนไม่ได้บริหารประเทศ จะพูดอย่างไรก็พูดได้ แต่พอมาบริหารประเทศเข้าจริงๆ ก็จะรู้ว่าในภาวะวิกฤตเช่นนี้มันมีเงื่อนไขอะไรมากมายที่ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ตามที่พูด สิ่งที่พยายามเล่นงานนายกรัฐมนตรีก็คือเรื่องการจัดการโควิดและเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องทั้งสองเรื่องนี้ วิญญูชนทั้งหลายเข้าใจ และยอมรับว่านายกรัฐมนตรีสามารถจัดการทั้งสองเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี จำนวนคนติดลดลงเรื่อยๆ จำนวนคนเสียชีวิตลดลงเรื่อยๆ การครองเตียงมีมากถึง 20% ของเตียงที่มีอยู่ ระบบสาธารณสุขของเราสามารถรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี วัคซีนมีมากพอ การจัดการฉีดมีประสิทธิภาพ จนทำให้เราสามารถเปิดประเทศได้ องค์การอนามัยโลกยกย่องว่าประเทศไทยจัดการควบคุมการแพร่ระบาดโควิดได้ดีอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก และแนะนำให้ประเทศต่างๆ เอาประสบการณ์ของประเทศไทยเป็นแบบอย่าง

เรื่องของเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยว เริ่มต้นทดลองเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในลักษณะ Sandbox ที่จังหวัดภูเก็ต เป็นการทดลองว่าเมื่อเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้วจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดได้หรือไม่ ปรากฏว่าเราสามารถควบคุมได้เป็นอย่างดี แล้วจึงขยาย Sandbox ไปยังพื้นที่ต่างๆ เพิ่มขึ้น จนเวลานี้เราสามารถเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวมีความพอใจที่จะเข้ามาเที่ยวประเทศไทย ดังนั้นตั้งแต่เราเปิดประเทศด้วย Phuket Sandbox จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทยก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นำเงินตราเข้าประเทศหลายหมื่นล้าน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจะประดิษฐ์วาทกรรมมากล่าวหานายกรัฐมนตรีว่าบริหารประเทศได้แย่มากได้อย่างไร สิ่งที่พวกเขาประดิษฐ์วาทกรรมนั้นมันสวนทางกับความจริงเชิงประจักษ์ จนทำให้คนจำนวนหนึ่งมองว่าการอภิปรายงบประมาณในครั้งนี้เป็นเหมือนการเล่นลิเกของคณะ “หลวงประดิษฐ์วาทกรรม” ประชาชนก็ได้เห็นแล้วว่าฝ่ายค้านไม่สามารถกล่าวหารัฐบาลได้ เพราะไม่มีหลักฐานที่เป็นความจริงเชิงประจักษ์มาเล่นงานรัฐบาล

อีกเรื่องหนึ่งที่ประดิษฐ์วาทกรรมกันก็คือ เป็นงบประมาณที่มองอดีต ไม่มองอนาคต แต่เมื่อดูเนื้อหาแล้ว งบประมาณที่จะใช้กันนั้นมีหลายเรื่องที่มีไว้เพื่อการพัฒนาในอนาคต ไม่ใช่เป็นเรื่องอดีตอย่างที่ประดิษฐ์วาทกรรมมากล่าวหา อีกวาทกรรมหนึ่งก็คือ งบประมาณนี้ดูมืดมนอนธการ ซึ่งหมายความว่าเป็นการจัดสรรงบประมาณที่ไม่เห็นแสงสว่างใดๆ เลย เป็นวาทกรรมที่เกินจริงมาก คนพูดก็สักแต่จะพูด ไม่ได้ดูรายละเอียดเลยว่าเขามีงบเพื่อการลงทุนและการพัฒนาอะไรบ้าง การมีงบประมาณเพื่อการลงทุนและการพัฒนาเช่นนี้แล้วมันจะเป็นงบประมาณที่มืดมนอนธการได้อย่างไร

อีกวาทกรรมหนึ่งที่เขาประดิษฐ์ขึ้นมากล่าวหานายกรัฐมนตรี คือ การเรียกนายกรัฐมนตรีว่าเป็นนักกู้แห่งแม่น้ำเจ้าพระยา อยากจะรู้นักว่าถ้าหากพรรคของคนที่พูดเป็นผู้บริหารประเทศในขณะนี้ ถ้าไม่กู้จะทำอย่างไร ไหนจะเรื่องเวชภัณฑ์ต่างๆ ที่จะต้องใช้ในการควบคุมและแก้ไขปัญหาโควิด ไหนจะเงินเยียวยาคนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด ไหนจะต้องใช้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งหมดนี้ถ้าไม่กู้จะเอาเงินที่ไหนมาบริหารบ้านเมือง เงินที่มีอยู่ก็เป็นเงินงบประมาณที่แต่ละกระทรวงก็ทำเรื่องกำหนดไว้แล้วว่าจะใช้งบประมาณไปกับเรื่องอะไรบ้าง ดังนั้นเมื่อมีความจำเป็นต้องใช้เงินเพิ่มในการจัดการกับการแพร่ระบาดของโควิด ทั้งด้านสาธารณสุข ด้านเศรษฐกิจ มันก็จำเป็นต้องกู้ ถ้าหากไม่กู้ก็ยากที่จะบริหารจัดการการแพร่ระบาดของโควิดทั้งด้านสาธารณสุขและด้านเศรษฐกิจ

เรื่องที่อภิปรายขว้างดาบใส่พลเอกประยุทธ์ก็คือ เรื่องที่กล่าวหาว่าการจัดทำงบประมาณในครั้งนี้ “ส่อโกง” ก็เป็นเพียงวาทกรรม เพราะไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าตรงไหนที่ส่อโกง และแล้ววาทกรรมดังกล่าวนี้ก็เป็นเรื่องขว้างงูไม่พ้นคอ เพราะดาบนั้นคืนสนอง เมื่อนายกรัฐมนตรีพูดถึงการโกงจำนำข้าวที่ทำให้ขาดทุน 900,000 กว่าล้าน ใช้หนี้ไปแล้ว 700,000 กว่าล้าน ยังเหลืออีกเกือบ 300,000 ล้าน พอนายกรัฐมนตรีพูดเช่นนี้พวกเขาก็ออกมาบอกว่าทำไมพวกเราไม่ก้าวข้ามเรื่องจำนำข้าวเสียที จะก้าวข้ามได้อย่างไร เมื่อเงินภาษีของพวกเรายังต้องถูกนำไปใช้หนี้ และยังต้องใช้เวลาอีกหลายปี และถ้าหากไปถามคนที่ติดคุกเพราะคดีจำนำข้าว พวกเขาจะก้าวข้ามเรื่องนี้ได้ไหมล่ะ ดังนั้นวาทกรรมเรื่องการจัดสรรงบประมาณส่อโกงนั้น มันไม่ได้บาดนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด แต่มันบาดอดีตนายกรัฐมนตรีที่หนีคดีไปอยู่ต่างประเทศต่างหาก ลิเกคณะหลวงประดิษฐ์วาทกรรมจบลงแล้ว แม้ว่ามีความตั้งใจจะฟาดฟันนายกรัฐมนตรี แต่คงทำอะไรไม่ได้ เพราะข้อกล่าวหาทั้งหมดทั้งมวลเป็นเพียงวาทกรรมในการกล่าวหาที่ไร้ความจริงเชิงประจักษ์เป็นหลักฐาน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลัคนาธนูกับเค้าโครงชีวิตปี 2568

ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการเปลี่ยนแปลงใหญ่สุขภาพอนามัย-หนี้สิน-ลูกน้องบริวาร และเกือบตลอดปีผู้หลักผู้ใหญ่อวยสถานะ-ยศ-เงินทองให้ แต่มีช่วงซ้อมรับทุกข์และการได้ความผิดที่ไม่ได้ก่อ

เด็กฝึกงาน...ไม่ผ่านโปร

ฉากทัศน์ทางการเมืองของประเทศไทยหลังจากรู้ผลของการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เป็นภาพที่สร้างความกังวลให้กับคนไทยจำนวนมากที่ไม่ได้เลือกพรรคส้มหรือพรรคแดง

'ความเป็นไทย' กับกรณีน้ำท่วมภาคเหนือ-ภาคใต้

ถึงแม้จะก่อเกิด ถือกำเนิด ที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี...แต่ด้วยเหตุเพราะไปเติบโตที่ภาคใต้ ไม่ว่าเริ่มตั้งแต่อำเภอทุ่งสง จังหวัดหน่ะคอนซี้ทำหมะร่าด ไปจนอำเภอกันตัง

ได้ฤกษ์ 'นายพล' ล็อต 2

ผ่านเดดไลน์ตามคำสั่ง ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ทุกหน่วยส่งบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น

'ดร.เสรี' กรีดเหวอะ! ใครมีลูกสาวเก่งพอที่จะเป็นนายกฯ ต้องบอกลูกให้มีผัว 9 คนอยู่ใน 9 ภาค

ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสารโพสต์เฟซบุ๊กว่า ใครมีลูกสาวที่เก่งพอที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ต้องบอกลูกนะคะ