มีคนทักว่า มาดีในบรรดาพรรคใหม่ด้วยกัน ก้าวย่าง "สร้างอนาคตไทย" ดูจะมีจังหวะจะโคนละเมียดละไม เหมาะสมกับสถานการณ์ประเทศมากพรรคหนึ่ง
ไม่เล่นการเมืองแบบเก่า ไม่เอาวาทกรรมเพื่อสร้างความสนใจ พุ่งเป้าไปที่ปัญหาเศรษฐกิจ แล้วไม่ได้ทำหน้าที่แค่ติง แต่เสนอทางออกให้
แต่ไม่ได้หมายความจะทำตัวเป็นเตมีย์ใบ้ ในฐานะคน ไม่ใช่พระอิฐพระปูน หากถูกโจมตี พาดพิง มีแผนกสวนกลับแบบนิ่มๆ สไตล์ผู้ดี ไม่ล่อกันหัวร้างข้างแตก
ขณะที่พักนี้ "สร้างอนาคตไทย" กลายเป็นพวกไม่อยู่กับที่ ออกตระเวนตามต่างจังหวัดกันแทบทุกวัน คราวก่อนนู้นล่องใต้ไปเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.
ส่วนสัปดาห์ก่อน นัดพร้อมหน้าพร้อมตา ทั้ง "เสี่ยอุต" อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค "เฮียสน" สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค "สุพล ฟองงาม" ประธานภาคอีสาน และ "เดอะต่อ" วัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรค ยกพลกันลงพื้นที่ 4 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ทั้งลงรับฟังปัญหา ทั้งเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กันที่ จ.หนองบัวลำภู สกลนคร มุกดาหาร และอุบลราชธานี ถิ่นของ "สุพล"
แล้วว่ากันว่า แม้จะเน้นเศรษฐกิจ แต่บรรยากาศบนเวทีปราศรัยไม่ได้น่าเบื่อ "เฮียสน" โชว์ไฮปาร์ก พี่น้องชาวอีสานฟังกันเพลิน
ฝั่ง "เสี่ยอุต" ที่ลุคส์สุขุม ลงเนื้อหาสาระแบบเนื้อๆ โดยเฉพาะปัญหาหนี้เกษตรกรที่พรรคการเมืองต่างใช้ในการหาเสียงทุกรอบ แต่ข้อเท็จจริงปัจจุบันไม่ได้ทุเลาเบาบาง แต่ยิ่งหนักหน่วง
หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทยพูดเลยว่า ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการพักชำระหนี้ให้เกษตรกรแค่ปีสองปี เพราะที่สุดแล้วหนี้สินเหล่านี้จะกลับมาใหม่อยู่ดี แต่ต้องแก้ด้วยการสร้างโอกาสในการหารายได้เพิ่มให้เกษตรกรควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างหนี้ให้ยืดระยะเวลาออกไปอย่างเหมาะสม
เรื่องนี้พรรคไหนมีวิธีหรือเปล่าไม่รู้ แต่ "สร้างอนาคตไทย" มีแน่ เหลือแค่เป็นรัฐบาลให้มีอำนาจผลักดัน หุหุ.
ฌ.เฌอ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ใช้ซื้อข้าวมาแล้ว
ตั้งแต่ เศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไป เนติบริกร-วิษณุ เครืองาม อดีตที่ปรึกษาของนายกฯ หายไปด้วย
อ่อนกว่าวัย
ไม่น่าเชื่อในวันที่ 13 ม.ค. 2568 รัฐมนตรี 17 สมัย อย่าง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.สาธารณสุข จะมีอายุครบ 70 ปี เนื่องจากรูปร่างหน้าตาดูอ่อนกว่าวัยมาก เหมือนกับคนอายุประมาณ 50 ปีเศษเท่านั้น
ขอติดทีมชาติไทย
นักการเมืองไทยรุ่นเก๋าหลายคนบ่นอุบ ยอมรับว่าเปลี่ยนยุคไปไว มีสส.หน้าใหม่เข้าสู่วงการจำนวนมาก ส่วนสส.รุ่นใหญ่นับวันก็จะมีแต่คนโบกมืออำลาวงการ ส่วนใครที่ยังใจรักก็อยู่ทำงานต่อแบบเหงาๆ เพราะเพื่อนที่รุ่นราวคราวเดียวกันก็ออกไปนั่งดูอยู่ห่างๆ แทน
'ลูกชิ้นปลาหมอคางดำ'
เริ่มแล้วกับงานวันรัฐธรรมนูญ ประจำปี 2567 โดยในปีนี้ทางรัฐสภาได้จัดงานภายใต้คอนเซปต์ "กินลม ชมสภา" สู่รัฐธรรมนูญในฝัน ระหว่างวันที่ 9 และ 10 ธันวาคม ซึ่งในวันแรกบรรยากาศสดใส เหล่าข้าราชการ รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าต่างมาตั้งร้านขายของกันภายในงาน
แชร์กันใส่เครื่องแต่งตัว
ว่าด้วยเรื่องแฟชั่นการแต่งตัว ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ ของผู้นำประเทศ อย่าง “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ส่วนใหญ่เจ้าตัวจะเน้นใส่ผ้าไทยตามสไตล์เจ้าแม่ซอฟต์พาวเวอร์
ถามเรื่องวัดแล้ว
เป็นผู้ใหญ่ใจดี สำหรับ อ.ชู-ชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มือกฎหมายประจำรัฐบาลและประจำค่ายเพื่อไทย