จากบีทีเอสถึงดารา-นักร้องไทย

จะได้เรื่อง-ได้ราวอย่างไรคอยดูไป

แต่..การที่ “บีทีเอส” บอยแบนด์ชื่อดังของเกาหลีใต้ ได้เข้าพบประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ทำเนียบขาวของสหรัฐ..

เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังชาวเอเชีย เมื่อวันสองวันนี้นั้น

ต้องบอกว่า..น่าชื่นชม-ยินดี อย่างน้อยก็ยังพอเห็นแสงริบหรี่อยู่บ้างท่ามกลางความมืด ที่นอกจากบีทีเอสจะให้ความสุข ความสนุกสนาน ทั้งเสียงร้อง ทั้งลีลาท่าเต้นกับสาวก-แฟนเพลงแล้ว

ด้านสังคม บอยแบนด์วงนี้ก็มีความวิตกกังวล และได้ให้ความสำคัญกับการทำร้ายชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียในสหรัฐที่พุ่งสูงขึ้นๆ..

ถึงกับอาสาจะเป็นกระบอกเสียงในการยับยั้งและสนับสนุนการแก้ปัญหา โดยการใช้แพลตฟอร์มของวงบีทีเอสเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่..

เพื่อเผยแพร่สารเกี่ยวกับความหวังและความคิดเชิงบวกไปยังกลุ่มเด็ก-วัยรุ่นทั่วทั้งโลก!

ซึ่งจะได้ผล-ไม่ได้ผล ก็อย่าได้ไปคาดหวังมาก หากแต่การได้เริ่มต้นคิด-แก้ปัญหา ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย?

ผมน่ะมาสะดุดตาตรงที่สำนักข่าวรอยเตอร์สระบุว่า.. “สถิติทำร้ายชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียในสหรัฐพุ่งสูงขึ้น

เนื่องจากมีนักการเมืองและผู้เชี่ยวชาญหลายคนออกมากล่าวโทษจีน ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดการระบาดของโรคโควิด-19”

ครับ..ชนวนเหตุความรุนแรง ถ้าจะบอกว่าส่วนหนึ่งมาจาก “นักการเมือง” ก็เห็นจะไม่ผิด และคงจะไม่ผิดอีกหากจะพูดว่า..

นักการเมืองทั้งโลกล้วนวาสนา (สันดาน) เดียวกัน!

อย่างสังคมไทยที่ขาดความรัก ความสามัคคี แตกแยกจนชาติบ้านเมือง (แทบ) ย่อยยับอยู่ณเวลานี้ ผมกล้าพูดเต็มปากเต็มคำเลยว่า..

นักการเมืองนี้แหละตัวดี.. “ดึงฟ้าต่ำ ทำหินแตก แยกแผ่นดิน” กันไม่เว้นวัน ซ้ำยังมีสื่อเข้ามาช่วยผสมโรงด้วยอีกแรง..หรือจะเถียง?

ก็..ไม่ได้หวังจะมีศิลปิน ดารา นักร้องไทยคนไหน-วงไหน จะเอาอย่าง “บีทีเอส” หรอก แต่หากจะมีผู้หนึ่งผู้ใดแสดงตนเป็นหัวเรี่ยว-หัวแรง หรือตัวตั้งตัวตี ถือธง-ประกาศ..

“จะเป็นกระบอกเสียงในการยับยั้ง และสนับสนุนการแก้ปัญหาความแตกแยกในสังคมไทย” ขึ้นมาในห้วงเวลานี้

ผมคนหนึ่งล่ะที่จะเป็นกำลังใจให้ เพราะยิ่งนับวัน ถ้าคนไทยยังจะทำตัวเป็น “กบเลือกนาย” หรือหวังพึ่งนักการเมืองอยู่อย่างนี้ต่อไป..

ชาติบ้านเมืองเห็นจะย่อยยับ-พินาศลงสักวัน!

ส่วนจะมีวิธียับยั้ง หรือแก้ปัญหาความแตกแยกอย่างไร นั่นก็ค่อยๆ ศึกษาหาแนวทางกันไป โดยสเต็ปแรก (ขออนุญาตใช้คำผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่) ต้องแยกประชาชนให้มีอิสระจากนักการเมือง..

หมายถึง ต้องพยายามไม่ให้ถูกนักการเมืองเป่าหูให้แยกฝ่าย-แบ่งข้างให้ได้เสียก่อน จากนั้นก็ตามด้วยสเต็ปสอง-สเต็ปสาม

เนี่ย..ผมไม่ได้เพ้อเจ้อ เพียงแค่หวังจากข่าวบีทีเอสเข้าพบไบเดน “เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังชาวเอเชีย” นี้

จะก่อเกิดแรงกระตุ้นให้ศิลปิน ดารา นักร้องไทยใครสักคน ลุกขึ้นมา “เอาเป็นแบบอย่าง” จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ค่อยๆ สานความรัก ความสามัคคีไปในหมู่ประชาชน

แต่ถ้าจะยอมให้นักการเมืองปั่นหัว และทนติดหล่มอยู่กับ “ความเกลียดชังของคนในประเทศ” ต่อไป..

ก็..ตัวใครตัวมัน!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใครกันแน่เตรียมถูกเช็กบิล?

ตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไง? นายทักษิณ ชินวัตร ที่ประกาศเลิกยุ่งเกี่ยวการเมือง จะกลับมาเลี้ยงหลานแบบเงียบๆ ในบั้นปลายชีวิต ถึงได้กล่าว..

ประชาธิปไตยล้าหลังเพราะ..?

ควรเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อนไหม? ผมถามคุณวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรน่ะ เห็น 2-3 วันก่อนท่านให้สัมภาษณ์ว่า..

ไม่ยกมือไหว้คนโกง

ร้อนรนจนออกหน้าไปไหม? ผมถามคุณวันชัย สอนศิริ อดีต สว. ลูกศิษย์วัดไก่เตี้ยน่ะ เห็นโพสต์วันก่อนว่า.. “กระบอกเสียง หรือกระบอกเสีย รัฐบาล..

ไม่ทนต่อการทุจริต?

วันที่ 14 (ธ.ค.) นี้จะให้คำตอบ เหตุผลที่ให้รอฟังว่าจะลงสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หรือไม่ คุณถาวร เสนเนียม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม บอก..

เชื้อชั่วไม่ยอมตาย

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม! เมื่อคิด-วางแผนจะแก้ไขพระราชบัญญัติ จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมใหม่ เพื่อป้องกันการทำรัฐประหาร..

ถามความรู้สึก?

ต่อไปใครจะกลัว? “กลัวไร” ผมถามเพื่อนคนหนึ่ง.. “ก็คุกไง” เพื่อนตอบเสียงเข้ม ก่อนจะว่า.. “แม่งง อุตส่าห์หาพยานหลักฐานกันแทบเป็นแทบตายกว่าที่ศาลจะพิพากษาตัดสินให้จำคุก 48 ปี