เพื่อไทย "หมดสภาพ"

เปิดหัวม้วนอภิปรายงบฯ ๓.๑๘ ล้านล้านบาท ของปี ๒๕๖๖ ในสภาเมื่อวาน ก็บรรยากาศนั้น

แค่ไตเติลนำเรื่อง......

"ชลน่าน ศรีแก้ว" หัวหน้าพรรค แต่บริวารใต้ใบบุญ "หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย" อีกที ที่ชื่ออุ๊งอิ๊ง

ก็นำทีมค้าน "จอดไม่ต้องแจว" แล้ว!

บ่มิไก๊ ยิ่งกว่าขุดกรุหนังเก่ามายำซะอีก ไม่ต่างตลกมุกแป้ก เค้นวาทกรรมเสร่อๆ หวังเรียกเสียงซี้ดซ้าด แต่ปรากฏว่า หมาคอกเดียวกันยังไม่หอนรับด้วยซ้ำ

"รัฐบาลหมดสภาพ"..."จัดงบประมาณแบบสิ้นหวัง"...ส่อโกง..."ออกไปได้แล้ว"

น้ำท่วมทุ่ง-ผักบุ้งโหรงเหรง!

"รัฐบาลประยุทธ์ ออก พ.ร.ก.เงินกู้ ใช้แก้ไขปัญหาโควิด ๕ แสนล้านก้อนล่าสุด น่ากังวลว่า จะเป็นภาระลูกหลาน

ปัจจุบัน หนี้สาธารณะของประเทศอยู่ที่ ๘.๕ ล้านล้านบาท หากบวกหนี้ก้อนนี้เข้าไป จะเป็น ๙ ล้านล้านบาท และต้องเป็นภาระงบประมาณที่ต้องใช้หนี้ทุกปี

ยกตัวอย่าง ปีนี้ เงินงวดหนี้สาธารณะ ๒.๙ แสนล้านบาท เป็นเงินต้นแค่ ๑ แสนล้านบาท ดอกเบี้ย ๑.๙ แสนล้านบาท ซึ่งดอกเบี้ยท่วมเงินต้นเป็นสองเท่า

ดังนั้น กว่าจะใช้หนี้ก้อนนี้เสร็จ อาจใช้เวลาไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ปี"

อุ๊ย...แสบ อภิปรายเรื่องสร้างหนี้!

แต่คนแสบไม่ใช่ประยุทธ์หรอกนะ โน่น...สองพี่น้องสัมภเวสี อภิปรายทางนี้ แต่แสบจนครางอี๋อยู่ทางโน้น!!

ชลน่านเอ๊ย.....

เพราะกึ๋นมีเท่านี้นั่นแหละ เขาถึงอุปโลกน์ให้เป็นหัวหน้าแต่ว่าส่งลูกสาวมาเป็น "ว่าที่นายกฯ"

ว่างๆ หัด "ส่องกระจก" ดูเงาตัวเองบ้างนะ!

ถามตรงๆ อภิปรายแบบนี้ กะถลกหนังประยุทธ์ หรือต้องการ "ขุดศพ" รัฐบาลยิ่งลักษณ์ มาให้ฝ่ายรัฐบาล บังสุกุลกระดูกกันแน่?

แค่นายกฯ ลุกขึ้นมาชักผ้าบังสุกุล โดยขอใช้สิทธิถูกพาดพิง ๒-๓ นาทีเท่านั้่นแหละ

"เอ๋ง..เอ๋ง" ไปเลย!

"งบประมาณกว่าจะออกมาได้ ต้องให้สอดคล้องกัน อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี ๕๔ โครงการจำนำข้าว ขาดทุน ๙.๕ แสนล้านบาท

รัฐบาลชุดนี้ ตั้งงบประมาณชำระหนี้ไปแล้ว ๗.๘ แสนล้านบาท คงเหลือเงินต้นและดอกเบี้ยอีก ๓ แสนล้านบาท

เราต้องให้เบ็ดตกปลา และต้องให้ปลาไป ความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ไม่ใช่จะให้ใครก็ให้ ไม่เหมือนสมัยก่อนบางคน ท่านพูดมา-ผมก็พูดไป ได้มีการประกาศไว้ว่า "ถ้าไม่เลือกก็ไม่ให้"

ในเรื่องส่อโกงต่างๆ ก็ไปพิสูจน์กันในกระบวนการยุติธรรม ถ้ามีหลักฐานก็ฟ้องร้องกันไป กรุณาย้อนกลับไปดูด้วยว่าที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น

ในกระบวนการยุติธรรม มีติดคุก หนีคดีหรือไม่ ขอบคุณครับท่านประธานครับ”

มั้ยล่ะ....?

ที่จะขุดจากงบประมาณมาเข่นรัฐบาลมีเยอะแยะ แต่นี่ ดันแหวกร่อง "แผลเก่า" ที่รัฐบาลเพื่อไทย "สมัยยิ่งลักษณ์" ทำไว้ขึ้นมาให้นายกฯ เฉาะกลับ

อภิปรายฉะรัฐบาลเขาว่า........

"หนี้สาธารณะของประเทศอยู่ที่ ๘.๕ ล้านล้านบาท หากบวกหนี้ก้อนนี้เข้าไป จะเป็น ๙ ล้านล้านบาท ต้องเป็นภาระงบประมาณที่ต้องใช้หนี้ทุกปี

กว่าจะใช้หนี้ก้อนนี้เสร็จ อาจใช้เวลาไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ปี"

ถูกนายกฯ ย้อนเกล็ดกลับว่า.....

"ตั้งแต่ปี ๕๔ โครงการจำนำข้าว ขาดทุน ๙.๕ แสนล้านบาท รัฐบาลชุดนี้ ตั้งงบประมาณชำระหนี้ไปแล้ว ๗.๘ แสนล้านบาท คงเหลือเงินต้นและดอกเบี้ยอีก ๓ แสนล้านบาท"

ชลน่านไม่แก้ตัวหรอก ถึงขั้นต้องแก้ผ้าไปเลย!

หรือจำไม่ได้แล้วว่าโครงการจำนำข้าว ตอนปี ๕๔ ที่ขาดทุน+โกงกว่า ๙ แสนล้าน รัฐบาลประยุทธ์ต้องใช้หนี้แทนทุกวันนี้ คือรัฐบาลไหน ใครเป็นนายกฯ?

"ที่ควรจำกลับลืม" อย่างนี้แหละ .........

ถึงตาจะแลนด์สไลด์ หัวหน้าพรรคแทนที่จะได้ขึ้นนายกฯ เขาจึงให้เป็นแค่คนยกชายกระโปรงนายกฯ ไง!

เพื่อให้ชลน่านจำได้แม่น เผื่อจะไปอภิปรายเรื่องรัฐบาลสร้างหนี้อีก ผมจะแยกที่มาของหนี้ให้จำง่ายๆ ประมาณนี้

หนี้กว่า ๙ แสนล้าน แยกประเภทเป็น

-ใช้หนี้ชาวนา/ค่าข้าวเปลือกตามใบประทวน กว่า ๘.๘๔ แสนล้านบาท

-ค่าบริหารโครงการขององค์การคลังสินค้า (อคส.)

-องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.)

-ค่าภาระดอกเบี้ย

-ค่าเช่าคลังของเอกชนเก็บรักษาข้าว

-ค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก ๘.๔ หมื่นล้านบาท

-รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ๙.๖๘ แสนล้านบาท

หนี้ก้อนนี้ แยกเป็น ๒ ส่วน

ส่วนหนึ่ง เป็นหนี้ที่รัฐบาลต้องชดใช้ ธ.ก.ส.

อีกส่วน เป็นหนี้จากออกพันธบัตรรัฐบาลของ "สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ" (สบน.)

ตั้งแต่ปี ๒๕๕๘ เจียดเงินงบประมาณชำระหนี้ให้ ธ.ก.ส. รวม ๔๔๙,๖๖๙ ล้านบาท

หนี้คงค้างปีการผลิต ๒๕๕๑/๕๒ -๒๕๕๖/๕๗ (ณ ๓๑ ธ.ค.๖๓) วงเงินรวม ๒๓๑,๓๐๘ ล้านบาท

สบน.ประมาณการ กว่าจะให้หนี้จำนำข้าวยิ่งลักษณ์ได้ต้องใช้เวลาอีก ๑๐ ปี (๒๕๖๕-๒๕๗๔) หรือปีละ ๒๓,๐๐๐ ล้านบาท!

ที่ฝ่ายค้านบอกว่า "กู้มาโกง" ก็ถูกต้อง แต่ต้องพูดให้เต็มประโยคว่า

"ที่รัฐบาลประยุทธ์กู้นั้น ส่วนหนึ่ง กู้เพื่อนำมาใช้หนี้ "ต้น/ดอก" รายการ "โกงจำนำข้าว" รัฐบาลเพื่อไทย สมัยนายกฯ ยิ่งลักษณ์"

เอ๊ะ "ชลน่าน" ก็เคยเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ด้วยมิใช่หรือ ทำเป็นเลอะเลือนไปได้!

พูดถึงภาพรวมการอภิปรายเมื่อวาน เท่าที่ผมตามดู-ตามฟัง ตอนบ่ายถึง ๖ โมงเย็น ต้องบอกว่า

รัฐบาลมา "ฟอร์มเหนือ" ชนิดผิดหู-ผิดตา!

โต้ทันควันทุกดอก-ตอกกลับทุกเม็ด ไล่ลงไปตั้งแต่ตัวนายกฯ จนถึง ส.ส.ทั้งของพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย

ก็อย่างที่บอกข้างต้น อภิปรายนัดนี้ เปิดหีบ รัฐบาลนำโด่ง ส่วนฝ่ายค้านมีแต่ราคาคุย เจ๊งตั้งแต่ชลน่านเปิดฟลอร์

ที่จะคว่ำรัฐบาล กลายเป็นฝ่ายค้าน ถูกฝ่ายรัฐบาลทิ่มนับ ๘ นับ ๙ ตั้่งแต่ยกแรก!

เที่ยวนี้ โดยส่วนเฉลี่ย ส.ส."หน้าใหม่" ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านหลายคน อภิปรายมีคุณภาพ มีเนื้อหา มีวุฒิภาวะ            ที่ค้าน ก็ค้านสร้างสรรค์ เช่น ส.ส.สุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา ส.ส.สมบัติ ศรีสุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ส.ส.คารม พลพรกลาง ก้าวไกล เป็นต้น

ใหม่แต่หน้าเก่าในการอภิปราย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง พรรคประชาชาติ ปีแรกๆ เหมือนมวยใหม่ ยังไม่เคยเวที

เรื่องอภิปรายมีเนื้อหา แต่ลีลาการนำเสนอยังไม่ลื่นไหล แต่เมื่อวาน ลำดับเรื่อง-ลำดับประเด็น เป็นมวยเจนเวทีขึ้นมาก

ฝ่ายรัฐบาล ส.ส.วีระกร คำประกอบ พรรคพลังประชารัฐ ผมจำแม่นแต่ลีลาคุณพ่อท่าน "สวัสดิ์ คำประกอบ" ส่วน ส.ส.วีระกร ยอมรับ เคยฟัง แต่ไม่สะดุดหู-สะดุดตาเท่าไหร่

มาเมื่อวานนี้ เออ...เป็นคนละคนไปเลย เรียกว่า ส.ส.วีระกรอภิปราย "ขี่ม้าชมดอกไม้" เป็นรายสวนได้แบบมีเนื้อหา สมภูมิ-สมภาวะ เป็น "มวยขึ้นชั้น" ของพรรคได้เลย

หน้าใหม่คือ "ส.ส.รงค์ บุญสวยขวัญ" พลังประชารัฐ ส.ส.แบรนด์ใต้ โดยเฉพาะนครศรีธรรมราช เรื่องฝีปากละก็ ต้องยกให้เขา

กับ ส.ส.รงค์ ไม่แค่ฝีปาก แต่เนื้อหา ลีลา สร้างสรรค์ ไม่มุ่งเอามันทางวาทะด่าทอ หยาบคายใส่กัน เหมือน ส.ส.เก่าๆ กะโหลกกะลา อย่าต้องให้เอ่ยชื่อ-เอ่ยพรรคเขาเลย

ส.ส.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ประชาธิปัตย์ ส.ส.สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ภูมิใจไทย ส.ส.ภาคิน สมมิตรธนกุล พลังประชารัฐ เป็นต้น

เหล่านี้ เว้นจาก ส.ส.สิริพงศ์แล้ว นอกนั้น ยังไม่ค่อยได้อภิปรายเต็มรูปแบบ ก็เมื่อวานนี้แหละ ได้แสดงภูมิ ส.ส.เต็มตัว

จะชมรัฐบาลก็ชมในเรื่องสมควรชม ติติงก็ติติงในเรื่องควรติติงและเสนอแนะ ไม่ใช่กระแนะกระแหน หรือเชลียร์โลมไปเรื่อย

สรุป ต้องบอกว่า เที่ยวนี้พรรครัฐบาล แข็งขัน-ขมันขมีทำหน้าที่ได้ดีผิดคาด
ตรงข้ามฝ่ายค้าน เหมือนหมดกะจิต-กะใจ ยิ่งมวยแก่พรรษา ลุกขึ้นก็ ด่าๆๆๆๆๆ สรรคำข่วน จิก กัด ฟัด รัฐบาล ยังกะหมาคันเขี้ยว เจอรองเท้าก็ขย้ำเคี้ยวดะ

แบบนี้ รัฐบาลไม่หมดสภาพหรอก

แลนด์สไลด์ "เพื่อไทย" นั่นแหละ หมดสภาพ!

คนปลายซอย